ดูเหมือนวงการการท่องเที่ยวทั่วโลกค่อย ๆ กลับมาคึกคัก หลังหลายประเทศทยอยประกาศเปิดพรมแดนกันเป็นแถว ถือเป็นสัญญาณอันดีว่าโลกของเรากำลังกลับเข้าสู่สภาวะปกติ โดยล่าสุด ‘ภูฏาน’ ประเทศที่มีดัชนีชี้วัด และติดอันดับของโลก ‘ประเทศที่มีความสุขที่สุด’ ก็ประกาศเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวไปเมื่อวันที่ 23 กันยายน พร้อมชูแคมเปญ ‘Believe’ กับการท่องเที่ยวในรูปแบบใหม่
(เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2565) ราชอาณาจักรภูฏานเปิดประเทศเป็นทางการอีกครั้งภายใต้แคมเปญ “Believe” เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ด้วยยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นในระยะเวลากว่า 3 ปีที่มีการปิดประเทศช่วงการแพร่ระบาดของ Covid-19 ได้แก่ การปรับปรุงนโยบายเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนให้ดียิ่งขึ้น, การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ และการยกระดับประสบการณ์ของผู้มาเยือนทุกคน
ด้วยนโยบายสาธารณะของประเทศภูฏาน ตั้งแต่ปี 1974 ในรูปแบบ ‘น้อยแต่มาก’ นั่นรวมถึงนโยบายการท่องเที่ยวที่ไม่ได้วัดผลจากจำนวนอันมหาศาลของนักท่องเที่ยวที่มาเยือน หากแต่มุ่งเน้นที่คุณภาพของนักท่องเที่ยว ทั้งนี้ก็เพื่อรักษาขนบธรรมเนียมดั้งเดิม ตลอดจนธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้คงไว้อย่างสมบูรณ์
แต่ต้องบอกก่อนว่า ประเทศภูฏานประกาศปรับเพิ่มค่าธรรมเนียมเพื่อสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDF) จาก 65 ดอลลาร์สหรัฐ เป็น 200 ดอลลาร์สหรัฐ (ต่อคนต่อคืน) เป็นเงินค่าเข้าประเทศที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องจ่าย โดยเงินจำนวนนี้จะถูกนำไปพัฒนาในโครงการต่าง ๆ ด้านศิลปวัฒนธรรม เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งรวมไปถึงชดเชยการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากนักท่องเที่ยวด้วย
ประเทศภูฏานเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความเสี่ยงต่อผลกระทบด้านการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ทั้งภัยธรรมชาติจากธารน้ำแข็งละลาย น้ำท่วม หรือสภาพอากาศที่คาดเดาไม่ได้ นั่นทำให้ภูฏานยิ่งต้องเพิ่มขีดความสามารถเพื่อรักษาสถานะการเป็นประเทศหนึ่งเดียวในโลกที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ติดลบ โดยในปี 2564 ภูฏานสามารถกักก๊าซคาร์บอนได้ถึง 9.4 ล้านตัน จากปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนราว ๆ 3.8 ล้านตัน!
โปรเจกต์ ‘พลิกโฉมประเทศ’ คือนโยบายหลักที่พัฒนาควบคู่ไปกับแคมเปญการท่องเที่ยว ‘Believe’ ของประเทศภูฏาน โดยรัฐได้เสริมทักษะให้พลเมืองหนุ่มสาวทุกคนมีความรู้ และความเชี่ยวชาญที่มากขึ้น เพื่อทำหน้าที่โฮสต์ที่มีคุณภาพเสมือนเป็น ‘แบรนด์ภูฏาน’ ที่มีเป้าหมายเพื่อเปิดบ้านต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เพราะก่อนหน้านี้การไปเยือนประเทศภูฏาน นักท่องเที่ยวต้องดำเนินการผ่านบริษัททัวร์เท่านั้น แต่แคมเปญ ‘Believe’ ทำให้คุณสามารถออกแบบการเดินทางท่องเที่ยวได้ด้วยตัวเอง ผ่านการติดต่อกับโฮสต์ภายในประเทศที่ได้รับการรับรอง
ปัจจุบันมี 2 สายการบินหลัก คือ Drukair (ดรุ๊กแอร์) และสายการบิน Bhutan Airline (ภูฏานแอร์) สายการบินซึ่งบินตรงเส้นทางกรุงเทพฯ-ภูฏาน และ ประเทศไทย ยังถือเป็นอีกหนึ่งจุดเริ่มต้นหลักสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่ต้องการเดินทางไปยังประเทศภูฏานอีกด้วย
สำหรับผู้ที่สนใจท่องเที่ยว ‘ภูฏาน’ สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.tourism.gov.bt และ www.bhutan.travel