เป็นเวลากว่า 7 ทศวรรษแล้ว ที่ Breguet Type XX นาฬิกาสำหรับนักบินโลดแล่นอยู่ในหน้าประวัติศาสตร์ของเรือนเวลาระดับโลก และประวัติศาสตร์การบินสุดยิ่งใหญ่ จวบจนถึงปี 2023 ทาง Breguet เผยโฉมเจเนอเรชั่นใหม่ของ Type XX ได้แก่ เวอร์ชั่นที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรุ่น Military (รุ่นกองทัพ) ส่วนอีกเรือนได้รับแรงบันดาลใจมาจากรุ่น Civilian (รุ่นพลเรือน) ที่ดีที่สุด
Breguet Type XX เจเนอเรชั่น 4 นำรูปแบบดั้งเดิมอันเป็นที่จดจำมาเป็นพื้นฐานในการออกแบบขึ้นใหม่ พร้อมเสริมนวัตกรรมเทคโนโลยีการผลิตแห่งยุคปัจจุบัน และดีไซน์แบบร่วมสมัยเข้าไปอย่างแนบเนียน สืบทอดความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และรักษาสายเลือดของการเป็นนาฬิกาสไตล์นักบินไว้ได้อย่างเข้มข้นและสมบูรณ์แบบ
จุดกำเนิด Breguet Type XX
ในยุคทศวรรษ 1950s Breguet ได้รังสรรค์นาฬิกาที่ตรงตามความต้องการของกองทัพอากาศประเทศต่างๆ ที่ให้โจทย์มาอย่างจำเพาะเจาะจงว่าต้องเป็น “นาฬิกาข้อมือพร้อมฟังก์ชันโครโนกราฟที่มีความทนทาน และมีคุณลักษณ์ที่เอื้อต่อการใช้งานของเหล่านักบิน” โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กองทัพอากาศฝรั่งเศสตั้งชื่อนาฬิการุ่นดังกล่าวไว้ก่อนด้วยว่า Type XX
ด้วยความชำนาญการและนวัตกรรมของ Breguet จึงได้พัฒนาเรือนเวลาที่ตอบโจทย์ความต้องการของกองทัพอากาศได้ทุกประการ ก่อเกิดเป็น Breguet Type XX ที่นับว่าปฏิวัติเรือนเวลาของโลกในยุคนั้น ด้วยการบอกเวลาอันเที่ยงตรง เพราะการคำนวณเวลาในการบินนั้นต้องถูกต้องแม่นยำที่สุด และได้มีการปรับฟังก์ชั่นให้สมบูรณ์แบบและสอดคล้องกับยุคสมัยอยู่เรื่อยมา
Type XX เจเนอเรชั่น 2
เรือนเวลาเจนต่อมาเผยโฉมในปี 1971 โดดเด่นด้วยหน้าปัดสตีลขนาดใหญ่กว่าเดิม ขาสายนาฬิกาทรงหนา และขอบหน้าปัดสีดำ ซึ่งมีทั้งรุ่นที่มีฟังก์ชั่นบอกเวลาแบบ 12 ชั่วโมงและไม่มี แต่ทั้งคู่มีฟังก์ชั่นจับเวลา 15 นาทีเหมือนกัน
ตระกูลเบรเกต์ผูกพันกับการบินมายาวนาน ในภาพ (ขวา) คือเครื่องบินรบ Dassault Mystère IV (ซ้าย) แผงควบคุมของอากาศยานปราบเรือดำน้ำ Bréguet Br.1050 Alizé
Type XX เจน 2 จำหน่ายได้กว่า 800 เรือน ส่วนใหญ่สำหรับพลเรือน ส่วนรุ่นกองทัพนั้นมีการส่งมอบนาฬิกา 50 เรือนให้แก่กองทัพอากาศโมร็อกโก นอกจากนั้น Aérospatiale (ภายหลังคือ Airbus Industries) ก็ได้สั่งซื้อเช่นกัน รวมถึงสำนักประธานาธิบดีฝรั่งเศสก็ได้สั่งซื้อเพื่อใช้แจกเป็นของขวัญอย่างเป็นทางการอีกด้วย โดยเรือนสุดท้ายขายไปในปี 1986 ซึ่งนับเป็นบทส่งท้ายสู่บทใหม่ของประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 30 ปี
Type XX เจเนอเรชั่น 3
หลังจากห่างหายไปกว่า 10 ปี Type XX ก็หวนคืนมาอีกครั้งในปี 1955 กับเจเนอเรชั่นที่ 3 ในรูปแบบ Reference 3800 “Aéronavale” (without date) และ Reference 3820 “Transatlantique” (with date)
Type XX รุ่นใหม่บ่งบอกถึงคุณลักษณะแห่งการบินได้แก่ หน้าปัดสีดำ ขอบหน้าปัดหมุนได้ ฟังก์ชั่น “flyback” ซึ่งคราวนี้มาพร้อมความสะดวกสบายด้วยกลไกขึ้นลานอัตโนมัติ Fluted Caseband (สลักร่อง) และยังผสมผสานสไตล์อันเป็นตำนานแห่งประวัติศาสตร์ของ Breguet ไว้อีกด้วย
หนึ่งใน Type XXs เรือนแรกๆ นั้น หลุยส์ เบรเกต์ ผู้ผลิตเครื่องบินได้มอบให้กับสุดยอดนักบินหญิง Jacqueline Auriol (แจ็กเกอลีน โอเรียล) ซึ่งเป็นนักบินทดสอบ และนักบินหญิงคนสำคัญของวงการการบินที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก
Type XX เจน 3 ประสบความสำเร็จและเป็นต้นแบบให้แก่รุ่นใหม่ๆ มากมาย ทั้งวัสดุโลหะล้ำค่าและหน้าปัดสีต่างๆ มากมาย เติมสีสันด้วย นาฬิกาปลุก (Reference 3860) และ Type XX สำหรับผู้หญิง (Reference 4820) ตามด้วย Type XXI (Reference 3810) ในปี 2004 และรุ่นที่น่าประทับใจอย่าง Type XXII (Reference 3880) ในปี 2010 ที่มาพร้อมเทคโนโลยีความถี่สูง และซิลิคอน โดย Type XXI มาในรุ่นต่างๆ มากมาย รวมถึงรุ่นลิมิเต็ด ที่กรุยทางให้รุ่นใหม่ๆ ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่กี่ปีมานี้อย่าง References 3817 and 3815
Type XX เจเนอเรชั่น 4
ตัดภาพมาที่ Type XX เวอร์ชั่นปี 2023 มาพร้อมงานดีไซน์ที่ลงตัว โดดเด่นด้วยกลไกคาลิเบอร์ใหม่ทั้งหมด ซึ่งใช้เวลากว่า 4 ปีในการพัฒนาและสานต่อความครบรสจากมรดกดั้งเดิมของ Type XX ในโฉมใหม่ 2 เวอร์ชั่น
Breguet Type 20 Chronographe 2057
ได้แรงบันดาลใจมาจากรุ่น Military หรือรุ่นกองทัพ เน้นความเข้มขรึม ทะมัดทะแมง แต่ยังคงปราดเปรียว รวมถึงจุดเด่นของดีไซน์ตัวเลขอารบิกเฉพาะตัว พร้อมทั้งเคลือบด้วยสารเรืองแสงสีเขียวมิ้นต์ มีหน้าต่างแสดงวันที่ระหว่าง 4 และ 5 นาฬิกา
Breguet Type XX Chronographe 2067
ได้แรงบันดาลใจมาจากนาฬิกา Civilian หรือรุ่นพลเรือนยอดนิยมของยุค 1950s และ 1960s ที่เน้นความโดดเด่นร่วมสมัย เหมาะกับไลฟ์สไตล์และการใช้งานในชีวิตประจำวัน มาพร้อมหน้าปัดย่อยแสดงผลการจับเวลาและหน้าปัดวินาทีเล็ก ส่วนบนตัวเลข เครื่องหมายสามเหลี่ยม และเข็มชี้เคลือบด้วยสารเรืองแสงสีงาช้าง พร้อมช่องหน้าต่างแสดงวันที่ระหว่างตำแหน่ง 4 และ 5 นาฬิกาเหมือนกัน รุ่นนี้ยังคงมาพร้อมกับตัวเรือนสเตนเลสสตีล ขนาด 42 มม. เช่นเดียวกับรุ่น 2057
เจาะดีเทล BREGUET Type XX แบบหมัดต่อหมัด
TYPE 20 CHRONOGRAPHE 2057
2057ST/92/3WU
ตัวเรือน: สตีล
เส้นผ่านศูนย์กลาง: 42 มม.
ความหนา: 14.1 มม.
หน้าปัด: สีดำ
กลไก: ขึ้นลานอัตโนมัติ
ฟังก์ชั่น: โครโนกราฟ, “flyback”, วันที่, small seconds, จับเวลา 30 นาที
บาลานซ์สปริง: แบบแบน ทำจากซิลิคอน
เอสเคปเมนท์: inverted straight-line lever และฮอร์นซิลิคอน
กันน้ำ: 10 บาร์ (100 ม.)
กลไกคาลิเบอร์: 7281
ความถี่: 5 เฮิรตซ์
สำรองพลังงาน: 60 ชั่วโมง
สายนาฬิกา: ชุดสายเปลี่ยนได้รวม 2 สาย ได้แก่ สายหนังลูกวัว และสายผ้า NATO
TYPE XX CHRONOGRAPHE 2067
2057ST/92/3WU
ตัวเรือน: สตีล
เส้นผ่านศูนย์กลาง: 42 มม.
ความหนา: 14.1 มม.
หน้าปัด: สีดำ
กลไก: ขึ้นลานอัตโนมัติ
ฟังก์ชั่น: โครโนกราฟ, “flyback”, วันที่, small seconds, จับเวลา 15 นาที, แสดงเวลาระบบ 12 ชั่วโมง
บาลานซ์สปริง: แบบแบน ทำจากซิลิคอน
เอสเคปเมนท์: inverted straight-line lever และฮอร์นซิลิคอน
กันน้ำ: 10 บาร์ (100 ม.)
กลไกคาลิเบอร์: 728
ความถี่: 5 เฮิรตซ์
สำรองพลังงาน: 60 ชั่วโมง
สายนาฬิกา: ชุดสายเปลี่ยนได้รวม 2 สาย ได้แก่ สายหนังลูกวัว และสายผ้า NATO
Words: Ayu Kulahathai