‘Cartier’ แบรนด์เครื่องประดับสุดหรูสัญชาติฝรั่งเศสอายุกว่า 175 ปีที่มีคอลเลคชั่นเครื่องประดับมากมายอยู่ภายใต้การสร้างสรรค์ของแบรนด์นี้ไม่ว่าจะเป็น High Jewelry รวมทั้ง Fine Jewelry ที่เป็นที่รักและชื่นชอบของสายแฟทั่วโลกไม่ว่าจะเป็น Juste un Clou ไลน์เครื่องประดับที่ได้แรงบันดาลใจจากตะปูที่กลายเป็น Must Have Item สำหรับสายแฟยุคนี้ นอกจากนั้นยังมี LOVE ไลน์เครื่องประดับสุดคลาสสิคของแบรนด์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความรักชั่วนิรันดร์ ทำให้ Cartier กลายเป็นแบรนด์เครื่องประดับต้นๆ ลิสต์ของสายแฟเมื่อพวกเธอต้องการจิวเวลรี่คุณภาพดีและอบอวลไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนาน
Cartier สามารถหยิบยกทุกสรรพสิ่งมาเป็นแรงบันดาลใจในการรังสรรค์เครื่องประดับ ไม่ว่าจะเป็นนอต สกรู ตะปูหรือสถาปัตยกรรมไปจนถึงสิ่งมีชีวิตและธรรมชาติ ในขณะเดียวกันยังสามารถเผยความงามที่อยู่เหนือความคาดหมายได้เสมอ ความกล้าที่จะทลายทุกกฎเกณฑ์ถือเป็นหนึ่งใน DNA สำคัญของ Cartier การท้าทายขนบอย่างสร้างสรรค์ได้ถูกถ่ายทอดออกมาตั้งแต่ในผลงานยุคแรกเริ่มของเมซงไม่ว่าจะเป็นหมุดประดับอันโดดเด่นของนาฬิกาซานโตส (Santos) เข็มกลัดทรงตะปูในช่วงต้นของศตวรรษที่ 20 หรือผลงานที่ได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปะอุตสาหกรรมในทศวรรษที่ 1930 ซึ่งภายหลังได้ถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่องจากความคิดสร้างสรรค์แบบไม่ซ้ำใครของ Jeanne Toussaint ครีเอทีฟไดเรกเตอร์หญิงคนแรกของ Cartier
ทลายทุกกฎเกณฑ์ด้วยผลงานสร้างสรรค์สุดท้าทาย
Cartier นำรหัสการรังสรรค์เครื่องประดับแบบดั้งเดิมมาตีความใหม่ โดยผลงานแต่ละชิ้นนั้นเปี่ยมไปด้วยความแข็งแกร่ง โครงสร้างของตัวเรือนที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากอุตสาหกรรมหลากหลายแขนงและฮาร์ดแวร์ต่างๆ ดีไซน์ที่เน้นย้ำถึงโครงสร้างเป็นสำคัญก่อให้เกิดเป็นรูปทรงที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง อันเป็นที่นิยมของสตรีในยุคสมัยนั้นที่ชื่นชอบเครื่องประดับดีไซน์เชิงสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นที่รังสรรค์จากลูกปัด หมุดจัตุรัสทรงโดม (Clous Carrés) และหมุดสตั๊ด เอกลักษณ์ความงามที่หยั่งลึกอยู่ในมรดกล้ำค่าของ Cartier ได้ถูกนำมาตีความใหม่อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ประวัติศาสตร์อันยาวนานของเมซงจวบจนถึงคอลเลคชั่น Clash de Cartier
‘หมุดสตั๊ด’ หนึ่งในที่สุดแห่งดีไซน์จากเมซงจากอดีตจวบจนปัจจุบัน
คอลเลคชั่นไฟน์จิวเวลรี่ที่ชื่อว่า ‘Clash de Cartier’ เป็นคอลเลคชั่นเครื่องประดับนที่ผสานความแตกต่างเข้าด้วยกัน เครื่องประดับคอลเลคชั่นนี้จะพาคุณหลีกหนีความจำเจแต่ยังคงไว้ซึ่งความคลาสสิคอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากผลงานการออกแบบเครื่องประดับของแบรนด์ในปี 1925 ที่ Cartier ได้สร้างปรากฏการณ์อันน่าตื่นตาตื่นใจ เมื่อได้เข้าร่วมจัดแสดงที่งานนิทรรศการ ‘International Exhibition of Modern Decorative and Industrial Arts’ ณ Pavillon de l’Elégance โดยหนึ่งในผลงานชิ้นสะดุดตาคือเครื่องประดับผมรูปทรง ดอกกล้วยไม้คู่ประดับเพชรและหมุดโอนิกซ์ โดยก่อนหน้าที่จะเกิดเป็นเครื่องประดับสุดโมเดิร์นคู่นี้ ‘Louis Cartier’ ได้พัฒนาผลงานดีไซน์รูปทรงกลมที่ขับเน้นความพิเศษด้วยหมุดทรงคาโบชงทรงแหลมมาแล้วสักระยะ ก่อนจะกลายมาเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์สำคัญของแบรนด์ Cartier
ในยุครุ่งเรืองของศิลปะอาร์ตเดโค (Art Deco) การประดับหมุดสตั๊ดรวมถึงลูกปัดและหมุดจัตุรัสทรงโดม (Clous Carrés) ได้กลายมาเป็นหนึ่งในนิยามแห่งสไตล์ของ Cartier การประดับหมุดสตั๊ดกลับมาอีกครั้งในช่วงต้นทศวรรษ 1940 ช่วงเวลาที่เครื่องประดับพร้อมดีไซน์แบบเน้นโครงสร้างเข้ามาเสริมความโดดเด่นให้หมุด ได้ถูกริเริ่มนำมาใช้เป็นสัญลักษณ์สำคัญในการออกแบบเครื่องประดับ ในปัจจุบันนี้หมุดสตั๊ดยังมีบทบาทสำคัญกับงานดีไซน์ โดยเฉพาะในคอลเลคชั่น Clash de Cartier ซึ่งเปิดตัวเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2019 คอลเลคชั่นเครื่องประดับสองขั้วที่ทลายทุกกฎเกณฑ์จากเมซง โดยนำหมุดสตั๊ดมาผสมผสานกับลูกปัดและหมุดจัตุรัสทรงโดม (Clous Carrés) เรียงร้อยเป็นชิ้นงานออกแบบอันโดดเด่นสะดุดตา
ในปี 2021 หมุดสตั๊ดกลับมาเฉิดฉายเป็นดาวเด่นอีกครั้งในคอลเลคชั่นเครื่องประดับ ‘Clash [Un]limited’ ที่สะท้อนความคิดสร้างสรรค์อันไร้ขีดจำกัด และสำหรับดีไซน์ใหม่ประจำปี 2022 Clash de Cartier ถ่ายทอดความสมดุลแห่งดีไซน์ผ่านสัญลักษณ์ของศิลปะสองขั้วโดยเพิ่มการจัดเรียงหมุดขึ้นเป็นสองแถว เป็นการนำรหัสความงดงามของชิ้นงานในอดีตผสานเข้ากับความร่วมสมัยของห้วงเวลาปัจจุบันรังสรรค์เป็นเครื่องประดับชิ้นไอคอนิคแห่งอนาคต
เติมเต็มสไตล์ของคุณให้โฉบเฉี่ยวยิ่งกว่าเคยด้วยเครื่องประดับคอลเลคชั่น ‘Clash de Cartier’ ได้ที่ Cartier บูติคสยามพารากอน, ดิเอ็มโพเรียม และไอคอนสยาม ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และร่วมสัมผัสประสบการณ์ในแบบฉบับของ Clash de Cartier อย่างใกล้ชิดด้วยตัวคุณเอง เร็วๆ นี้
#ClashdeCartier
#CartierThailand
#LIPSMAGAZINE
