คอลเล็กชั่น Cartier Privé ที่นำมาจัดแสดงในงานงาน Watches and Wonders 2023 กรุงเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ มีจุดเด่นตรงความเป็น ‘จุดนัดพบของนักสะสม’ โดยเรือนเวลารุ่นตำนานของ Cartier จะเป็นรุ่นลิมิเต็ดสลักหมายเลขกำกับบ่งบอกความแรร์ไว้ทุกเรือน ปีนี้ขนมาทั้ง Tank, Baignoire, Baignoire และ Clash ซึ่งปรับเปลี่ยนดีไซน์และกลไกมาอย่างยาวนานและต่อเนื่องกว่าร้อยปี รวมทั้งเปิดตัวเรือนเวลาน้องใหม่ La Panthère ให้เสือแพนเตอร์ได้มีเครื่องบอกเวลาเป็นของตัวเองครั้งแรก
TANK NORMALE
ผลงานเดียวที่ Louis Cartier ทายาทผู้ก่อตั้งเมซงออกแบบในปี 1917 โดยได้แรงบันดาลใจจากรถถัง Renault ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งดีไซน์ตัวเรือนรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าก็ได้บุกมาอยู่แถวหน้าของวงการนาฬิกาจนมาถึงวันนี้ และไม่เคยทิ้งดีไซน์ไร้กาลเวลาแม้เทรนด์โลกจะผันแปรไปเช่นไรตลอด 106 ปีที่ผ่านมา
Tank Normale ในปี 2023 ยังรักษาดีเอ็นเอของ Tank รุ่นต้นตำรับไว้ทุกกระเบียด ทั้งเข็มบอกเวลาสีน้ำเงิน เม็ดมะยมคาโบชงและแบบไม่ฝังเพชรที่มาพร้อมเส้นบอกนาทีรูปรางรถไฟและลายเซ็นลับ
Tank รุ่นสเกเลตัน ผลิตเพียง 50 เรือน พร้อมสลักหมายเลขกำกับทุกเรือน มีให้เลือกแบบตัวเรือนเยลโลว์โกลด์ สายหนังอัลลิเกเตอร์สีน้ำตาลอมเขียว ปุ่มไขลานประดับแซฟไฟร์คาโบชงสีน้ำเงิน หรือตัวเรือนแพลทินัม สายหนังอัลลิเกเตอร์สีแดงเบอร์กันดีสลับเทา เม็ดมะยมฝังทับทิมคาร์โบชง และแบบสุดท้ายที่ผลิตเพียง 20 เรือน พร้อมสลักหมายเลขประจำตัว ตัวเรือนฝังเพชรทรงกลมเหลี่ยมเกสร สายหนังอัลลิเกเตอร์สีฟ้าอมน้ำเงิน เม็ดมะยมฝังเพชรเหลี่ยมเกสร
SANTOS-DUMONT
นาฬิการุ่นเก่าแก่อายุ 119 ปี ที่กำเนิดมาตั้งแต่ปี 1904 ซึ่งรุ่นปี 2023 วอทช์เลิฟเวอร์เห็นแล้วจดจำได้ทันทีในดีไซน์ตัวเรือนโกลด์และตัวเรือนสตีลอวดสกรูว์บนตัวเรือน พร้อมเม็ดมะยม beaded crown ทำด้วยคาโบชงสีน้ำเงิน ภายในบรรจุกลไกสเกเลตันที่เผยฟันเฟืองทุกชิ้นที่เต็มไปเรื่องราวของการคารวะ Alberto Santos-Dumont นักบินผู้ยิ่งใหญ่ อาทิ จานเหวี่ยง (functional oscillating weight) ขนาดจิ๋วรูปเครื่องบิน Demoiselle (เดอมัวแซลล์) อากาศยานรุ่นบุกเบิกที่ซานโตส-ดูมงต์ออกแบบไว้เมื่อปี 1907
Cartier Manufacture ที่หุบเขานาฬิกา La Chaux-de-Fonds (ลา โช เดอ ฟง) ในสวิตเซอร์แลนด์ ยังนำกลไกจักรกลอัตโนมัติ 9629 MC แบบสเกเลตันที่พัฒนาขึ้นเป็นพิเศษมาเปิดตัวในปี 2023 ด้วย โดยเป็นกลไกไมโคร-โรเตอร์ (micro-rotor) แบบใหม่ที่ใช้เวลาพัฒนาชิ้นส่วนทั้งหมด 212 ชิ้นนานเกือบ 2 ปี
BAIGNOIRE WATCH
Baignoire คือสัญลักษณ์แห่งการคิดนอกกรอบและความสามารถในการพลิกวัตถุที่คาดไม่ถึงให้กลายเป็นมาของลักชัวรีได้ของ Cartier โดยนาฬิกาหน้าปัดวงรีนี้พัฒนาดีไซน์มาจากอ่างอาบน้ำเมื่อปี 1912 ในรุ่นปี 2023 อ่างอาบน้ำเรือนงามได้ปรับปรับสัดส่วนใหม่ ส่งผลให้ขอบทองเหนือหน้าปัดและตัวเลขโรมันมีขนาดใหญ่กว่าเดิม และรูปทรงหน้าปัดที่เป็นเอกลักษณ์ปรับมาใช้กับขอบตัวเรือนเพื่อให้แนบสนิทกับข้อมือ จนก้าวไปสู่การเป็นจิวเวลรีวอทช์รุ่นใหม่ของเมซง
CLASH [UN]LIMITED
จิวเวลรีวอทช์ที่นักสะสมเลิฟในจุดเด่นของเม็ดมะยมหมุดปิโกต์ คลู คาร์เร (clou carrés) หน้าปัดทรงโดม รูปทรงเรขาคณิตทรงกลมและทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส การกลอกกลิ้งทับกันของลูกปัด บานพับสายนาฬิกา ไปจนถึงตัวเรือนขนาดมินิ พร้อมกระจกเจียระไน 16 เหลี่ยมที่ย้อนแย้งแต่กลมกลืนกันได้อย่างน่าทึ่ง เป็นผลงานที่ทะเยอทะยานที่สุดชิ้นหนึ่งของเมซง
Clash [Un]Limited 2023 โดดเด่นด้วยสีที่ตัดกันมาสร้างเป็นสายรูปทรงเรขาคณิต โดยใช้ทองขัดลายสลับกับทองขัดซาติน จากนั้นจึงผสานทองเยลโลว์โกลด์หรือโรสโกลด์ กับทองเฉดสีใหม่ประกายเหลือบม่วงไวโอเล็ต ที่พัฒนาขึ้นเพื่อคาร์เทียร์โดยเฉพาะ ซึ่งปรากฏทั้งบนคลู คาร์เร่ และตุ่มบนสายนาฬิกา Clash [Un]Limited รุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่น
LA PANTHÈRE DE CARTIER
เสือแพนเตอร์ หนึ่งในสัญลักษณ์ที่เผยด้านดุดันน่าเกรงขามของคาร์เทียร์ โดย La Panthère เปิดตัวเป็นจิวเวลรีวอทช์รุ่นล่าสุดของเมซง ซึ่งแฟนๆ ที่รักเครื่องประดับจะตกหลุมรักอีกครั้งกับเสือขบหน้าปัดเคลือบแลคเกอร์สีดำเป็นลายจุดที่สร้างชื่อให้กับงานดีไซน์รุ่นนี้
ส่วนเสือแพนเตอร์คืองานประดับประติมากรรมบนข้อมือ ซึ่ง Cartier Manufacture เพียรพยายามออกแบบทุกส่วนให้เป็นสามมิติ ทั้งจมูก แก้ม ดวงตา และใบหูแหลมตั้ง ไปจนถึงสายนาฬิกาที่เชื่อมด้วยบานพับที่ซ่อนไว้อย่างแนบเนียน และยืดหยุ่นแนบสนิทไปกับข้อมือแบบไร้รอยต่อ
Words: Suphakdipa Poolsap