Where : CDGRE ชั้น G สยามพารากอน
What : ร้านอาหารที่จริงจังทั้งในเรื่องกาแฟ เบเกอรี่ อาหาร และยังมีไอเท็มเด็ดๆ จาก Carnival ให้ช้อปฯ อีกต่างหาก
Why : เพราะมีทุกอย่างครบแบบ one stop dining & shopping แถมยังเป็นการรวมตัวของสามสุดยอดฝีมือด้านอาหารและสตรีทแวร์
When : เปิดบริการทุกวันตั้งแต่ 10.00 – 22.00 น.
How : นั่งรถไฟฟ้าลงสถานีสยามแสควร์ หรือถ้าเอารถส่วนตัวมาก็หาที่จอดชั้นใต้ดินสยามพารากอนก็สะดวก จะ walk-in ก็ได้ หรือถ้าจะให้ชัวร์จองโต๊ะล่วงหน้าได้ที่โทร. 0612696711
ถ้าจะเปรียบ CDGRE เป็นงาน collab สักรุ่น จะคงเป็นรุ่นตัวท็อปที่เราเข้าถึงได้ง่าย ไม่ต้องไปต่อแถวข้ามคืน ไม่ต้องวอร์มนิ้วรอกด CF แต่รับรองว่า สุดในทุกด้าน เพราะเป็นการรวมตัวของมือวางอันดับท็อปของทั้งวงการอาหารอย่างเชฟ Gaggan Anand เชฟชาวอินเดียคนดังผู้กวาดดาวมิชลินมาเพียบ เช่นเดียวกับ Thomas & Mathias Suhring เชฟผู้ก่อตั้งร้านอาหารโมเดิร์นเยอรมันที่กวาดดาวมิชลินมาแล้ว 2 ดวง และแบรนด์ Carnival มัลติสตรีทแบรนด์ที่เป็นผู้นำด้านสตรีทแวร์คัลเจอร์ในไทย
ใครชอบทานอาหารฝีมือเชฟดีๆ แบบไม่ต้องนั่งเกร็ง ใส่เสื้อยืด สวมสนีกเกอร์คู่โปรดเข้ามาที่ CDGRE จะต้องเอ็นจอย ด้วยบรรยากาศเท่ๆ ที่คุมโทนด้วยสีดำกินพื้นที่ส่วนใหญ่ของร้าน ให้มู้ดเหมือนคาเฟ่เท่ๆ ที่เราสามารถมานั่งจิบกาแฟ Specialty ที่มีทั้งเมนูมาตรฐาน เมนูที่ต้องใช้กรรมวิธีพิเศษในการสกัดเมล็ดกาแฟทั้ง Slow Bar และ Cyclops Coffee ซึ่งที่นี่ใช้เครื่องดีไซน์สวยจัดของ Ground Control ที่เราเพิ่งเคยเห็นที่นี่ที่แรก และเมนูซิกเนเจอร์ที่ไม่ควรพลาดอย่าง Liquid Granola ที่มีส่วนผสมของวานิลลาโปรตีน อัลมอนด์มิลค์ โอ๊ตมิลค์ และเอสเพรสโซ่ช็อต หรือเมนู non-coffee ก็น่าสนใจหลายตัวเลยทีเดียว
เมนูเบเกอรี่ไว้จับคู่กับกาแฟก็มีหลายชอยซ์ให้เลือกจนตาลาย ไม่ว่าจะเป็น Berliner โดนัทแบบเยอรมันที่มาพร้อมไส้เยิ้มๆ หลากรส ครัวซองค์ที่มาในรูปแบบแซนด์วิชและโรล รวมถึงเค้กหลากรสชาติที่หน้าตาดีน่าลองทุกตัว
มาถึงเมนูอาหารที่เชฟใส่ใจในทุกรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นเมนู Small Bites เรียกน้ำย่อยแบบที่เราพบเจอบ่อยๆ ในร้าน Fine Dining ที่นี่ก็มีให้เลือกหลายตัว เราได้ลอง Foie Gras & Yuzu ที่ให้รสหอมมันเติมความสดชื่นด้วยกลิ่นหอมเอกลักษณ์ของส้มยูสุ ต่อด้วย CDGRE PIcnic ที่ยังอยู่ในหมวดสตาร์ทเตอร์ แต่พอร์ตชั่นและพรีเซ็นเทชั่นอลังการเกินเบอร์ เพราะมาในรูปแบบตระกร้าปิกนิกที่ภายในมีทั้งขนมปัง โคลด์คัตหลากชนิด เครื่องจิ้มสามแบบที่เราชอบเนยหอมกลิ่นสมุนไพรที่สุด แตงกวาดอง และซอสพริกเฮ้าส์เมดที่อร่อยจนอยากซื้อกลับบ้าน
ถ้าใครชอบเฟรนช์ฟรายบอกเลยว่า เฟรนช์ฟรายของที่นี่ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ เพราะมาในสไตล์เยอรมัน เราลอง Currywurst & Ketchup ที่มาแบบตัวอ้วนๆ โรยผงปาปริก้าเผ็ดๆ พร้อมไส้กรอกหอมกลิ่นเครื่องเทศอ่อนๆ ตัวซอสมะเขือเทศที่มีรสสดชื่นเบาๆ ของผลไม้ทำให้รู้เลยว่า เป็นซอสเฮ้าส์เมดแน่นอน
ต่อกันด้วยพาสต้าที่มีให้เลือกหลายเมนูอีกแล้ว มี Vegan Choice ให้เลือกสำหรับชาวมังสวิรัติอยู่หลายเมนูเหมือนกัน แต่ที่เชฟแนะนำให้ลองก็คือ Carbonara Explosion เมนูคาโบนาร่าที่ผ่าเหล่าผ่ากอออกมาเป็น แผ่นแป้งราวิโอลี่บางๆ ห่อหุ้มตัวซอสแสนครีมมี่ไว้ด้านในที่จะสร้างเซอร์ไพรส์ด้านรสสัมผัส ในยามที่ตัวแป้งแตกออกเผยให้ซอสคาร์โบนาร่าด้านในไหลออกมา
แค่นี้ก็อิ่มจนขอ skip เมนคอร์สไปยังของหวานกันเลยดีกว่า เราเลือก Salted Caramel Mille-Feuille & Tonka Bean Ice Cream ตัวนี้ละมุนด้วยรสชาติของไอศกรีมทองก้าบีน ตัดกับเท็กซ์เจอร์กรุบๆ ของมิลล์เฟยล์ ที่มีรสหวานกลมกล่อม
ก่อนกลับบ้านอย่าลืมแวะช้อปฯ ไลฟ์สไตล์ไอเท็มด้านหน้าด้วย บอกเลยว่า มีทุกอย่างให้เลือกสรร ไม่ว่าจะเป็น เสื้อยืด เสื้อเบสบอลเท่ๆ จาน ชาม ช้อน ส้อม แก้วน้ำ แบบที่ใช้ในร้านเมื่อกี้ถ้าอยากได้ดีไซน์เดียวกันไปใช้ที่บ้านบ้าง ก็จัดไปแบบครบเซ็ตได้เลย
