เวลาเดินเร็วต้องยอมรับ เพราะเราได้พบกับ นิ่ม-สาริศา ล่ำซำ อีกครั้งในวันที่เธอเติบโตเป็นสาวสวยสะพรั่ง เธอเป็นทายาทรุ่นที่ 6 ของตระกูลล่ำซำ เธอเป็นบุตรสาวของสาระ และสลิล ล่ำซำ บอสใหญ่แห่งเมืองไทยประกันชีวิต และเธอยังเป็นหลานสาวของมาดามแป้ง-นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้หญิงเก่งระดับแถวหน้าของเมืองไทยอีกด้วย
เราคว้าตัวสาริศามานั่งคุยกันอย่างใกล้ชิด หลังจากที่เธอเดินทางกลับมาจากเรียนแลกเปลี่ยนที่ประเทศสหรัฐอเมริกาได้ไม่นานนัก สาริศาค่อนข้างขี้อาย และพูดไม่ค่อยเก่ง แต่เราสัมผัสได้ถึงความน่ารัก เป็นตัวของตัวเอง และมีความมั่นใจผ่านทางสายตาคู่สวยของเธอ ปัจจุบันเธอกำลังศึกษาอยู่ในคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ด้านการเงิน (Finance) ภาคอินเตอร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในระดับชั้นปีที่ 4
“ตอนแรกนิ่มไม่คิดจะเรียนด้านการเงิน ตั้งใจจะเรียนด้านบริหารธุรกิจ แต่พอได้เข้าเรียนปี 1 ได้ลองเรียน Business ในหลายๆ สาขา รู้สึกชอบเรื่องการเงินชอบเรื่องหุ้น นิ่มชอบวิเคราะห์ ชอบอ่านพวก Strategy ของบริษัทต่างๆ เลยรู้ว่าชอบทางด้านนี้เลยเรียนด้านการเงิน แล้วการเรียนตรงนี้ก็เป็นความตั้งใจที่ว่าเราจะมาช่วยสืบทอดกิจการของครอบครัวด้วย
…ตอนปี 1 ที่เข้าไปเรียนใหม่ๆ นิ่มยังไม่ค่อยมีเพื่อน แต่พอนิ่มได้เป็นเชียร์ลีดเดอร์ ก็จะมีกลุ่มเพื่อนที่สนิทกันมาก เพราะต้องทำกิจกรรมร่วมกัน ผ่านอะไรด้วยกันมาเยอะมาก เราซ้อมกันหนัก ฝึกความอดทน ตรงจุดนี้ทำให้เรามีความอดทนสูงขึ้นมาก และพอเรามาเจออะไรที่หนักๆ แล้วนึกย้อนกลับไปว่าเราผ่านช่วงเวลานั้นมาได้ ต่อไปเราก็จะผ่านอะไรๆ ได้ไม่ยากเลย
…ล่าสุดนิ่มเพิ่งเดินทางกลับมาจากเรียนแลกเปลี่ยนที่ University of Washington (Foster School of Business) ค่ะ นิ่มไปเรียนแลกเปลี่ยนมา 6 เดือน ตื่นเต้นนะคะ เพราะนิ่มอยากไปเรียนที่อเมริกามานานแล้ว แล้วครั้งนี้ก็ไปกับเพื่อนแค่ 2 คน การไปใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นนิ่มไปอยู่คนเดียว ต้องดูแลตัวเอง ทำงานบ้านเองทุกอย่าง ทำอาหารเอง ซักรีดเสื้อผ้าเอง ส่วนการเรียนก็ยากขึ้น การแข่งขันที่นั่นสูงมากกว่าที่เมืองไทย เรียนเสร็จก็ต้องกลับมาอ่านหนังสือทบทวนทุกวัน ต้องขยันขึ้นให้มาก
…นิ่มมีแพลนว่า ถ้าเรียนจบก็อยากไปศึกษาต่อในระดับปริญญาโทที่อเมริกาด้วยก็คงเป็นเรื่องของธุรกิจ บริหาร การเงิน เพราะเป้าหมายนิ่มค่อนข้างชัด ไม่เคยเปลี่ยน ถึงแม้ตอนเด็กๆ จะชอบเรื่องศิลปะมาก ชอบวาดรูป แต่ก็อยากให้ศิลปะเป็นเรื่องที่ผ่อนคลายมากกว่าจะเป็นอาชีพหลักค่ะ ก่อนที่นิ่มจะไปเรียนต่อก็จะทดลองทำงานกับคุณพ่อก่อนสักปีสองปีค่ะ
“คุณพ่อเป็นแรงบันดาลใจในเรื่องของการทำงานค่ะ นิ่มอยากทำงานให้เก่งเหมือนคุณพ่อท่านสอนให้เรารู้จักคิด วิเคราะห์ เก็บข้อมูล ต้องก้าวให้ทันโลก เราต้องคอยเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เร็ว ให้เข้ากับสถานการณ์ เข้ากับสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วค่ะ”
…นอกจากการเรียนนิ่มยังได้ไปเที่ยวเยอะมากเลยค่ะ เพราะที่อเมริกาจะเที่ยวข้ามรัฐได้ง่าย ก็ไปตามรัฐต่างๆ แล้วพอดีมีเพื่อนเรียนอยู่ที่อเมริกา ก็จะไปกับเพื่อนๆ สนุกดี อย่างที่ซีแอตเทิล ผู้คนที่นั่นน่ารักค่ะ ใช้ชีวิตค่อนข้างเรียบง่าย ติดดิน แต่งตัวง่ายๆ สบายๆ ไม่รีบร้อน ทุกครั้งที่นิ่มไปเที่ยว นิ่มชอบถ่ายรูป ชอบบันทึกภาพค่ะ เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมโปรดที่ทำแล้วมีความสุข เพราะทุกครั้งที่ได้กลับมาย้อนมองดูภาพที่บันทึกก็จะรู้สึกถึงเรื่องราวที่น่าประทับใจ”
นอกจากภาพความงดงามที่หญิงสาวได้เก็บเกี่ยว เธอยังให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวในแบบ Eco- Friendly ด้วยเป็นคนรุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญเรื่องสิ่งแวดล้อม เพราะเธอเชื่อว่าโลกใบนี้จะสวยที่สุดได้ต้องช่วยกันดูแลอย่างใส่ใจ
“ตอนนี้นิ่มไม่ใช้ภาชนะพวกแก้วพลาสติกแล้วค่ะ คือแทนที่เราจะใช้แก้วที่ใช้แล้วทิ้ง เราก็เปลี่ยนมาใช้เป็นแก้วที่เก็บความร้อนเย็นพกติดตัวไปมหาวิทยาลัย หรือในเวลาเดินทาง อันนี้เป็นนิสัยที่ติดมาจากตอนไปอเมริกา เพราะที่อเมริกาแทบจะไม่มีใครใช้ขวดพลาสติก จะใช้แบบแก้ว reused หมดเลยค่ะ แล้วอย่างเรื่องเสื้อผ้า เรื่องการแต่งตัว อย่างที่ทราบอุตสาหกรรมแฟชั่นก็เป็นการทำลายสิ่งแวดล้อมเป็นอันดับต้นๆ แต่ที่บ้านเราทั้งคุณแม่ ตัวนิ่มเอง และน้องนุ่มก็ใช้เสื้อผ้าร่วมกัน แชร์กันเพราะใส่ไซส์เดียวกัน ก็เลยใช้เสื้อ ใช้กางเกง ใช้รองเท้าด้วยกัน ก็เหมือนซื้อเสื้อมาหนึ่งตัวก็ใส่ได้ 3 คน นี่ก็เป็นการรักษ์โลกอีกอย่างหนึ่งนะคะ ที่เริ่มต้นง่ายๆ ทำได้ด้วยตัวของเราเอง”
