กระเป๋าที่ผู้หญิงคุ้นตากันดีเเละต่างใฝ่ฝันอยากครอบครองอย่าง CHANEL 11.12 คือกระเป๋ารุ่นคลาสสิคฝีมือการออกเเบบโดย คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ เมื่อครั้งที่เขาเพิ่งมาร่วมงานกับแบรนด์ชาเนลในปี ค.ศ. 1983 ซึ่งได้พัฒนามาจากกระเป๋าถือรุ่น CHANEL 2.55 ที่มาดมัวเเซล ชาเเนลได้ออกเเบบไว้เเต่เดิม
CHANEL 11.12 นั้นถูกพัฒนาโดยยังคงรูปลักษณ์ของรูปทรง เเละช่องด้านในที่ตอบโจทย์การจัดระเบียบในกระเป๋าของสุภาพสตรีของรุ่น 2.55 ไว้อย่างครบถ้วน ซึ่ง คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ ได้ออกเเบบ 11.12 ให้มีสายโซ่โลหะทองหรือเงินร้อยด้วยเส้นหนัง เพิ่มช่องใส่ของภายในกระเป๋า รวมกับมีกระเป๋าใบที่สองซ่อนไว้ภายใน เเละรูปตัวอักษร C ไขว้ ที่เป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นของกระเป๋าสะพายรุ่นนี้
ขึ้นชื่อว่าเป็นกระเป๋า CHANEL เเน่นอนว่าคือสัญลักษณ์เเห่งความหรูหราอย่างไร้ข้อกังขา ซึ่งไม่ใช่เพียงชื่อเเบรน์เท่านั้นที่พาให้ CHANEL มาสู่จุดสุดยอดของห่วงโซ่อาหารบนโลกเเฟชั่น หากเเต่ความพิถีพิถันของกระบวนการผลิตในทุกขั้นตอน รวมไปถึงกระเป๋า 11.12 ที่ผ่านการผลิตอย่างละเมียดละไมกว่า 180 ชั่วโมง ทุกขั้นตอนผ่านกระบวนการควบคุมคุณภาพที่เข้มงวด และต้องใช้เวลาถึง 15 ชั่วโมงใน อาเตอลิเยร์ เดอ แวร์เนย-อ็อง-อาแล็ตต์ (Ateliers de Verneuil-en-Halette) ซึ่งเป็นสตูดิโอผลิตงานฝีมือของชาเนล เมติเยร์ดารท์
LIPS จึงได้นำขั้นตอนการผลิตกระเป๋า CHANEL 11.12 ด้วยผ้าเจอร์ซีย์ มาเผยให้ชาว LIPSTER เเบบเอ็กซ์คลูซีฟ ที่นี่ที่เดียว
กระบวนการผลิตเริ่มต้นจากการวาง “แผ่นแบบ” ลงบนผ้าเจอร์ซีย์สีน้ำเงิน “แผ่นแบบ” นี้ใช้สำหรับการตัดส่วนประกอบต่างๆ สำหรับทำกระเป๋า
▴ นำผ้าเจอรซ์ย์มาเย็บลายควิลท์ด้วยฝีเข็มตามแพทเทิร์น “ลายเพชร” สี่เหลี่ยมทรงขนมเปียกปูน
▴ เย็บตัว C ไขว้ที่เป็นสัญลักษณ์บนหนังแกะ ซึ่งปรากฎที่ด้านล่างของฝาปิดที่อยู่ด้านในของกระเป๋า
▴ กระเป๋าสองใบมาทำกระเป๋า 11.12 (ใบหนึ่งสาหรับเป็นด้านในและอีกใบหนึ่งสาหรับเป็นด้านนอก) ถูกนำมาประกบเข้าด้วยกันด้วยมือตรงบริเวณที่มีพื้นผิวเรียบเเละกลับด้านนอกออก
▴ เมื่อกลับด้านนอกออกให้กระเป๋ามีรูปทรงที่สมบูรณ์เเบบเเล้ว ใช้ค้อนทุบตามขอบกระเป๋าให้เเบน
▴ นำกระเป๋าสองใบมาวางซ้อนเข้าด้วยกันให้เป็นใบเดียว ซึ่งเป็นเทคนิค “กระเป๋าซ้อนกระเป๋า”
▴ ประกอบกระเป๋าทั้งสองใบ วางซ้อนเข้าด้วยกันเป็นรูปตะเข็บคู่ ที่เรียกว่า “ตะเข็บห่วง” เเละเย็บในลักษณะนี้จนเป็นใบเดียวกัน
▴ นำเเถบผ้าเจอร์ซีย์สีน้ำเงินมาสอดเข้าไปตามห่วงของสายโซ่โลหะสีทอง
▴ เมื่อร้อยสายเสร็จเเล้ว สอดสายโซ่เข้าไปตามห่วงของสาบโซ่โลหะสีทอง
▴ ติดตัวล็อคซึ่งประกอบด้วย C ไขว้เเละเเผ่นโลหะซึ่งขันสกรูไว้ที่ด้านในของฝากระเป๋า
▴ กระเป๋าเสร็จสมบูรณ์ โดยมีการตรวจสอบรายละเอียดขั้นสุดท้ายก่อนบรรจุเเละส่งไปที่บูติคชาแนล