แบรนด์แฟชั่นสุดหรูสัญชาติฝรั่งเศสที่มีประวัติยาวนานอย่าง ‘Chanel’ มีความสัมพันธ์อันดีกับอุตสาหกรรมภาพยนตร์อย่างเป็นธรรมชาติไม่ว่าจะบนพรมแดงหรือบนหน้าจอภาพยนตร์ สายสัมพันธ์นั้นถูกเชื่อมโยงผ่านเครื่องแต่งกายที่จัดทำขึ้นโดยเฉพาะหรือคัดเลือกจากคลังข้อมูล ผ่านภาพภาพยนตร์ที่อุทิศให้ Chanel หรือภาพยนตร์ที่ Karl Lagerfeld อดีตครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ในตำนานของแบรนด์สร้างสรรค์ขึ้นเอง
แต่ถ้าเรามองย้อนกลับไปที่ Gabrielle Chanel เองนั้นก็สนิทกับศิลปินมากมายเธอจึงได้สัมผัสกับโลกภาพยนตร์ นักแสดง และผู้กำกับตั้งแต่แรกเริ่มที่เธอเข้ามาสู่วงการแฟชั่น ในช่วงฤดูร้อนของ Monte Carlo ในปี 1930 เธอได้พบกับ Samuel Goldwyn เจ้าของสตูดิโอ MGM ผ่านการแนะนำของ Grand Duke Dimotri Pavlovich ซึ่ง Samuel ขอให้เธอแปลงโฉมนักแสดงของเขาให้กลายเป็นแฟชั่นไอคอนทั้งในภาพยนตร์และชีวิตจริง
ด้วยเหตุนั้นเอง Gabrielle จึงเดินทางสู่มหานครแห่งแสงสี Los Angeles พร้อมกับเพื่อนของเธอ Misia Sert เพื่อพบกับ Greta Garbo นักแสดงสาวชื่อดังในสมัยนั้นจนหนังสือพิมพ์นำเรื่องราวนี้ไปตีแผ่ และนอกจาก Greta ยังมีนักแสดงอีกหลายคนที่ตื่นเต้นและอยากพบเจอกับ Grabrielle เช่น Marlene Dietrich, Gloria Swanson, Erich von Stroheim, George Cukor และ Claudette Colbert แต่ความร่วมมือดังกล่าวก็จบลงอย่างรวดเร็วเพราะฮอลลีวูดไม่เห็นด้วยกับสไตล์สุดเรียบหนูของ Chanel ที่ตรงกันความกับสไตล์สุดเย้ายวนใจที่เป็นที่นิยมในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ฮอลลีวูดในสมัยนั้น
ด้วยเหตุนี้เอง Chanel จึงได้เรียนรู้เกี่ยวกับเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายในภาพยนตร์ควบคู่ไปกับแนวคิดเรื่องการถ่ายภาพ ซึ่งเธอได้นำความรู้นี้ไปใช้กับผลงานของเธอในฐานะนักออกแบบเครื่องแต่งกาย จนอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในฝรั่งเศสกลับมองเธอราวกับนักพยากรณ์ในบริบทของเสื้อผ้า เช่นเดียวกันกับในกรณีที่ Michèle Morgan กำลังมองหาเสื้อผ้าสำหรับ Port of Shadows
ซึ่งสำหรับเครื่องแต่งกายในภาพยนตร์เรื่องนี้ Michèle ต้องการชุดกระโปรงสำหรับฉากสำคัญในภาพยนตร์เรื่องนี้ แต่ Gabrielle ยืนกรานว่าเธอต้องการแค่เสื้อกันฝนกับหมวกเบเรต์เท่านั้น ซึ่งลุคนี้ได้กลายเป็นลุคไอคอนิคในภาพยนตร์เรื่องนี้และพิสูจน์ให้เห็นว่าเธอคิดถูกจน Luchino Visconti ได้ดึงเธอมาสร้างสรรค์ลุคให้ Romy Schneider และบอกเล่าถึงเสน่ห์ของ Chanel ที่มีความก้าวล้ำในทุกมิติซึ่งมักปรากฏให้เห็นในหลายๆ ครั้งในอุตสาหกรรมภาพยนตร์
หลังจากนั้น Chanel ได้แต่งตัวให้กับเหล่านักแสดงและทำงานร่วมกับคนในแวดวงภาพยนตร์มากมายไม่ว่าจะเป็น Jeanne Moreau, Anouk Aimée, Anna Karina, Delphine Seyrig, Katharine Hepburn, Jean Renoir, Robert Bresson และ Louis Malle
และเมื่อเมซงสุดเก่าแก่หลังนี้ได้ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์คนใหม่อย่าง Karl Lagerfeld เข้ามากุมบังเหียนก็ยิ่งตอกย้ำความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ เพราะเขามีมิตรภาพที่ลึกซึ้งกับนักแสดงและผู้กำกับหลายคนตั้งแต่ Stéphane Audran, Lily-Rose Depp, Andy Warhol ไปจนถึง Francis Veber และเขามีความคลั่งไคล้ในภาพยนตร์เป็นอย่างมาก และโรงภาพยนตร์ในย่านละตินที่ปารีสคือที่ที่เขาได้พัฒนาสกิลภาษาฝรั่งเศสให้สมบูรณ์แบบตั้งแต่เขามาถึงปารีสในปี 1952 และเขาก็เห็นความสำคัญของภาพยนตร์ว่ามีความสำคัญต่อแนวคิดด้านการออกแบบแฟชั่นมากแค่ไหน
ทำให้เสน่ห์อันแสนทันสมัยและไร้กาลเวลาของแบรนด์ถูกผสานเข้ากับโปรเจกต์อื่นๆ อีกมากมาย ยกตัวอย่างเช่นภาพยนตร์เรื่อง High Heels ของ Pedro Almodóvar ในปี 1992 ซึ่ง Victoria Abril สวมสูทของ Chanel ตั้งแต่ต้นจนจบ หรือภาพยนตร์เรื่อง Callas Forever ซึ่ง Karl ได้แต่งตัวให้ Fanny Ardant ด้วยเสื้อผ้าที่ดีไซน์ขึ้นมาใหม่กว่า 22 ชุดให้เธอสวมในภาพยนตร์เรื่องนี้
นอกจากนั้น Karl ยังมีมิตรภาพอันดีกับเหล่านักแสดงหญิงชื่อดังในยุคปัจจุบันมากมายทั้งในจอและในชีวิตจริงไม่ว่าจะเป็น Carole Bouquet, Isabelle Huppert, Nicole Kidman, Vanessa Paradis, Anna Mouglalis, Diane Kruger, Keira Knightley, Penélope Cruz, Margot Robbie และ Kristen Stewart ซึ่งนักแสดงทั้งหมดที่เรากล่าวมามักสวมเสื้อผ้าจากแบรนด์ Chanel อยู่บ่อยครั้งทั้งบนพรมแดงและในจอภาพยนตร์
การที่แบรนด์ได้แฟชั่นดีไซเนอร์มือฉมังแห่งยุคมีความคิดที่เปิดรับทำให้แบรนด์ได้มีความร่วมมืออันแสนยอดเยี่ยมมากมายกับภาพยนตร์เรื่องต่างๆ อย่างในเรื่อง Cafe Society ที่ Karl ได้ออกแบบเสื้อผ้าหลายชุดให้กับ Kristen Stewart และ Blake Lively ตลอดทั้งเรื่อง รวมถึงภาพยนตร์เรื่อง Greta และ Once Upon a Time in Hollywood ภาพยนตร์น้ำดีที่ได้เสื้อผ้าจาก Chanel เป็นส่วนหนึ่งในองค์ประกอบภาพยนตร์
นอกจากเสื้อผ้าจิวเวลรี่ของ Chanel ยังได้ส่องแสงระยิบระยับภาพใต้แสงสปอตไลท์ เช่น การที่ Kiara Knightley แบรนด์แอมบาสเดอร์ของคอลเลคชั่น Coco Crush ได้เลือกผลงานการรังสรรค์จิวเวลรี่สุดหรูหราต่างๆ สำหรับภาพยนตร์เรื่อง Antonement (2008) และ Anna Karenina (2012) หรือ Kristen Stewart, Chloe Grace Moretz และ Juliette Binoche ได้สวมทั้งเสื้อผ้าและเครื่องประดับของแบรนด์ในภาพยนตร์เรื่อง Clouds of Sils Maria ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่สนับสนุนโดยแบรนด์ Chanel
ส่งต่อมาให้ Virginie Viard ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์คนล่าสุดของแบรนด์ที่นำเสนอภาพของผู้หญิงแบบตรงไปตรงมา โดยได้นำแรงบันดาลใจจากบรรยากาศของกลุ่ม Nouvelle
Vague และเสน่ห์ของนักแสดงที่เปิดเผยออกมาอย่างอิสระสำหรับคอลเลคชั่น Metiers D’Art 2019/20 Paris – 31 rue Cambon ซึ่งในคอลเลคชั่นนี้เธอได้ยกหน้าที่ตกแต่งให้กับ Sofia Coppola ผู้กำกับชาวอเมริกันซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของแบรนด์ โดยรื้อสร้างสถานที่อันเป็นตำนานของแบรนด์ขึ้นมาใหม่สำหรับแฟชั่นโชว์คอลเลคชั่นนี้
และในฐานะผู้สนับสนุนโครงการ Revelations ที่ Académie des César ตั้งแต่ปี 2018 และเป็นหุ้นส่วนของ Deauville American Film Festival ตั้งแต่ปี 2019 Chanel ได้กลายมาเป็นผู้สนับสนุนหลักของ Cinémathèque française มาจนครบ 3 ปีในปี 2021 และความร่วมมือในครั้งนี้เป็นโอกาสของแบรนด์ที่ได้เน้นย้ำถึงความสัมพันธ์อันใกล้ชิดกับงานศิลปะแขนงที่ 7 และความสัมพันธ์อันใกล้ชิดกับผู้กำกับภาพยนตร์รวมถึงนักแสดงหลายคนที่ Gabrielle ได้สร้างชื่อให้ในช่วงทศวรรษ 1930
นอกจากนั้นในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ครั้งที่ 75 มีนักแสดงสาวหลายคนที่มีความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับแบรนด์ Chanel ได้เดินขึ้นบันไดของเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ในครั้งนี้เพื่อนำเสนอภาพยนตร์ที่พวกเธอแสดง โดยพวกเธอได้พูดถึงความสำคัญของเครื่องแต่งกายในภาพยนตร์และความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างแบรนด์ Chanel กับอุตสหกรรมภาพยนตร์ที่ริเริ่มโดย Gabrielle Chanel ได้ริเริ่มสายสัมพันธ์นี้ตั้งแต่ทศวรรษ 1930 ผ่านคลิปสัมภาษณ์สั้นๆ ประกอบด้วย Marion Cotillard, Rosalie Varda, Tilda Swinton Margaret Qualley, Claire Denis, Lyna Khoudri และนักแสดงสาวสวยมากความสามารถ Kristen Stewart
#CHANELandCinema
#LIPSMAGAZINE
