อ่านบทสนทนาคำต่อคำของ Nile Rodgers โปรดิวเซอร์ผู้สร้างยุคทองให้กับ David Bowie, Madonna, Daft Punk และ Beyonce ชายผู้มีดนตรีในหัวใจและมีแว่นอยู่บนใบหน้าเสมอ ที่นั่งจับเข่าคุยกันประสาคนรักแว่นกับนางแบบตัวท็อป Vivienne Rohner และ HyunJi Shin ในแคมเปญใหม่ของ CHANEL EYEWEAR
ค่ำคืนแห่งปาร์ตี้สุดเหวี่ยงและวันอันสดใส จิตวิญญาณแห่งดิสโก้ ยุครุ่งเรืองของไนต์คลับที่เคยเป็นแหล่งรวมของศิลปะและสไตล์ที่ไม่อาจต้านทานได้ของยุค 1970 ทั้งหมดนี้เป็นภาพการเฉลิมฉลองให้กับทุกสิ่งที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์อันเย้ายวนใจอันยอดเยี่ยมและสนุกสนาน หลอมรวมสู่แรงบันดาลใจในการรังสรรค์คอลเล็กชั่นแว่นตารุ่นใหม่จาก CHANEL EYEWEAR ผ่านฝีมือการมองภาพและลั่นชัตเตอร์โดย Karim Sadli ช่างภาพผู้มีเอกลักษณ์ในสไตล์ภาพแบบกระด้างแต่เท่
วิเวียนและฮยอนจีสวมแว่นตาสไตล์ใหม่ของ CHANEL EYEWEAR ตั้งแต่แว่นกันแดดสีดำสุดคลาสสิคพร้อมขาแว่นลายควิลต์ ไปจนถึงแว่นตาทรงนักบินสไตล์เรโทรและกรอบทรงโอเวอร์ไซซ์สีครีมประกายมุกและสีชมพู ในขณะที่ไนล์สวมหมวกเบเร่ต์ที่ชาเนลรังสรรค์ขึ้นโดยเฉพาะ และแว่นตาที่มาพร้อมแผงผ้าทวีดสีดำที่ขาแว่น ซึ่งชวนให้นึกถึงชุดสูทเรียบหรูอันเป็นเอกลักษณ์ของ CHANEL
มาฟังบทสนทนาคำต่อคำของพวกเขาที่สะท้อนตัวตนอันสุดคูลไปพร้อมๆ กัน
วิเวียน โรห์เนอร์: ไนล์, จริงไหมที่ จอห์น ลี ฮุกเกอร์ (John Lee Hooker-ศิลปินบลูส์ยุคบุกเบิกอุตสาหกรรมดนตรี) เคยบอกกับคุณว่าห้ามถอดแว่นกันแดดเวลาถ่ายรูปเด็ดขาด ว่าแต่คุณทำตามคำแนะนำนี้มาโดยตลอดหรือเปล่า
ไนล์ ร็อดเจอร์ส: ใช่ เป็นเรื่องจริง ผมทำรายการทีวีบน VH-1 และจอห์น ลี ฮุกเกอร์เป็นแขกรับเชิญในรายการนั้น หลังจบรายการ เขาดึงผมไปบอกว่า “กฎของความเท่มีอยู่ว่า ห้ามถ่ายรูปโดยไม่สวมแว่นกันแดด” ผมเลยสวมแว่นกันแดดตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ฮยอนจี ชิน: แล้วตอนนอนล่ะ ก็ยังสวมแว่นด้วยหรือ
ไนล์ ร็อดเจอร์ส: แหงสิ ผมสวมแว่นกันแดดเข้านอนตามที่หมอแนะนำ แต่ผมถอดแว่นออกก่อนจะหลับนะ
วิเวียน โรห์เนอร์: เราทุกคนรู้ได้จากเพลงของคุณว่าเพลง Le Freak ของวง Chic นั้นอย่างเก๋ บอกเราหน่อยว่ามีอะไรสุดชิกอีกบ้างที่เราคาดไม่ถึง
ไนล์ ร็อดเจอร์ส: วงดนตรีของผม เพื่อนผม เป้าหมายของผม และศิลปินส่วนใหญ่ สำหรับผม คนมีสไตล์อยู่ที่ไหนก็ดูชิกไปเสียหมดแหละ “แฟชั่นอาจล้าสมัยได้ แต่สไตล์จะคงอยู่ตลอดไป” โกโก ชาเนลได้กล่าวไว้!
ฮยอนจี ชิน: 3 เพลงแรกที่คุณนึกถึงเมื่อถูกถามเกี่ยวกับเพลงของตัวเองมีเพลงอะไรบ้าง
ไนล์ ร็อดเจอร์ส: “Good Times, “I’m Coming Out,” และ “Le Freak” เพลง “Good Times” เป็นแม่แบบดนตรีสำหรับ“Rapper’s Delight” เพลงฮิปฮอปสายแมสเพลงแรก ส่วนเพลง “I’m Coming Out” เป็นเพลงที่เราแต่งขึ้นเพื่อยกย่องชุมชนผู้มีความหลากหลายทางเพศกลุ่มใหญ่ที่สนับสนุนวง Chic และไดอาน่า รอสส์ สองเพลงนี้เจ๋งสุดๆ เพราะเป็นเพลงเปิดในการแสดงสดของเธอมานานกว่า 40 ปี
วิเวียน โรห์เนอร์: ปาร์ตี้ที่ดีที่สุดที่คุณเคยไปคือที่ไหน
ไนล์ ร็อดเจอร์ส: งานเลี้ยงทำเนียบขาวครั้งสุดท้ายของประธานาธิบดีโอบามา และงาน Platinum Jubilee ของควีนอลิซาเบธที่ 2 ที่พระราชวังบักกิงแฮม
ฮยอนจี ชิน: คืนหนึ่งคุณนอนกี่ชั่วโมง แล้วตอนนอนคุณฝันบ้างไหม ถ้าฝันฝันถึงอะไรบ้าง
ไนล์ ร็อดเจอร์ส: ปกติผมนอนคืนละ 4 ชั่วโมง ผมฝันถึงทุกอย่าง กระทั่งเพลงฮิตที่มีทั้งเนื้อร้องและการเรียบเรียงเสียงประสาน ผมตั้งชื่อเพลงนั้นว่า ”I Want Your Love” โดยวง Chic ของผมเอง
วิเวียน โรห์เนอร์: อะไรที่ทำให้เพลงๆ หนึ่งเป็นเพลงที่ยอดเยี่ยม
ไนล์ ร็อดเจอร์ส: เพลงนั้นต้องโดนใจ และเข้าถึงจิตวิญญาณผู้ฟัง…และฝ่าเท้า ที่หมายถึงเท้าที่กำลังเต้นรำน่ะ
ฮยอนจี ชิน: ใครคือนักดนตรีที่เป็นแรงบันดาลใจให้คุณในตอนนี้
ไนล์ ร็อดเจอร์ส: บียอนเซ่, ลิล นาส เอ็กซ์, The-Dream และ Thundercat รวมถึงนักดนตรีที่สื่อสารได้จับจิตจับใจผม ทั้ง จอห์น โคลเทรน, นีน่า ซีโมน, เอริก ดอลฟี่ และไมล์ส เดวิส ไปจนถึงโปรโคเฟียฟ, โมซาร์ตและมันชินี่
วิเวียน โรห์เนอร์: คุณมีความเชื่อมโยงกับแบรนด์ CHANEL ยังไงบ้าง และรู้สึกอย่างไรที่ได้เป็นเฟซของแคมเปญนี้
ไนล์ ร็อดเจอร์ส: ผมกำลังเล่นดนตรีในงานปาร์ตี้ของ CHANEL ที่ La Vigie ซึ่งเป็นที่พักของคาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ในโมนาโก ในระหว่างซาวนด์เช็กผมก็เริ่ม “แต่งตัว” ผมเดาว่ามีคนสังเกตว่าผมสามารถแคร์รี่สไตล์ CHANEL ในแบบที่เป็นตัวเองได้สบายๆ หลังจากนั้นผมก็ได้รับการขอให้เป็นเฟซของแคมเปญแว่นตาครั้งต่อไป ผมพูดไม่ออกเลย ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ซาบซึ้ง และขอบอกตามตรงว่ายังช็อกไม่หาย
วิเวียน โรห์เนอร์: ไนล์, ฉันเป็นแฟนพันธุ์แท้ของเดวิด โบวี และแน่นอนว่าคุณเคยร่วมงานกับเขา ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยได้ไหมว่าเป็นอย่างไรบ้าง
ไนล์ ร็อดเจอร์ส: เดวิดทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตผม มันยอดเยี่ยมมาก เราเดินไปด้วยกันอย่างไม่เกรงกลัวบนเส้นทางศิลปะที่สั่นคลอนเพื่อไปสู่อัลบั้มที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขา (อัลบั้ม Let’s Dance ในปี 1983) และเป็นหนึ่งในผลงานที่สำคัญที่สุดของผม และเราทำสำเร็จในเวลาเพียง 17 วัน มหากาพย์ชัดๆ!
ฮยอนจี ชิน: ฉันสนุกมากที่ได้ชมการแสดงของคุณที่ Cruise Show ของ CHANEL ในไมอามี ตอนนั้นฉันยืนอยู่บนผืนทราย โมเมนต์นั้นเป็นยังไงบ้าง
ไนล์ ร็อดเจอร์ส: ผมอยู่ที่ไมอามี และชอบทำงานกับทุกคนที่ได้ทำงานด้วยที่ CHANEL ดังนั้น…มันน่าทึ่งมาก และผมสามารถเดินไปทำงานได้เลย
ฮยอนจี ชิน: CHANEL มีความหมายอย่างไรสำหรับคุณ
ไนล์ ร็อดเจอร์ส: แบรนด์ลักชัวรีที่สูงส่งและมีชื่อเสียงที่สุด…แต่จากนั้นเราไปที่เมืองดาการ์ ประเทศเซเนกัลด้วยกันในเดือนธันวาคม (สำหรับโชว์งานฝีมือ Métiers d’art 2022/23) และผมได้เห็นอีกด้านของเมซง ผมได้เห็นความมุ่งมั่นในความงาม ศิลปะ และความเคารพต่อความสามารถของทุกคนในการแสดงออกถึงสไตล์ ความอบอุ่นใจ และความเชื่อผ่านเสื้อผ้าและเครื่องประดับของพวกเขา
วิเวียน โรห์เนอร์: คุณรู้สึกอย่างไรที่ได้ไปกรุงดาการ์ ประเทศเซเนกัล และเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์นี้
ไนล์ ร็อดเจอร์ส: ผมรู้สึกสะเทือนใจมากเมื่อมองออกไปนอกหน้าต่าง การได้เห็นเกาะกอเร่ สถานที่ที่ทาสหลายล้านคนถูกขายเพื่อสร้างโลกที่เราอาศัยอยู่ในปัจจุบัน มันเศร้ามากนะ แต่การเดินทางครั้งนี้ก็ทำให้ผมมีความสุขเช่นกัน เพราะคนท้องถิ่นที่ผมพบเจอค่อนข้างน่ารัก พวกเขามีแนวคิดก้าวหน้า ผมไม่ได้ไปเที่ยวเกาะและคร่ำครวญถึงอดีต ผมไปกินอาหารกลางวันและฉลองอนาคตร่วมกับพวกเขา
ฮยอนจี ชิน: ยินดีด้วยกับการคว้ารางวัลแกรมมี่! ช่วยเล่าถึงโปรเจกต์ใหม่ๆ หน่อยได้ไหม ว่าแต่คุณจะเปิดตัวเพลงต่อไปเมื่อไร
ไนล์ ร็อดเจอร์ส: ขอบคุณครับ การคว้ารางวัลแกรมมี่อีก 3 รางวัล รวมถึงรางวัล Lifetime Achievement เป็นเรื่องยิ่งใหญ่มาก ผมมีโปรเจ็กต์ที่กำลังทำอยู่เพียบเลย แต่ขออุบเป็นความลับก่อน ตอนนี้เพิ่งมีเพลงที่ไต่ขึ้นอันดับ 1 ร่วมกับศิลปินแจ๊ซชาวดัตช์ แคนดี้ ดัลเฟอร์ และเพลง “CUFF IT” ของบียอนเซ่ก็โด่งดังไปทั่วโลก
ไนล์ ร็อดเจอร์ส: เมื่อเช้าคุณตื่นกี่โมง
ฮยอนจี ชิน: หกโมงเช้า (ยังมีอาการเจ็ตแล็ก)
วิเวียน โรห์เนอร์: ตอน 06:10 น. เพราะต้องพาเจ้าสกิป น้องหมาของฉันไปออกกำลังกายกันก่อนที่เราจะบินไปปารีส กิจวัตรแต่ละวันก็แตกต่างกันไป สำคัญที่สุดคือฉันต้อนอนวันละ 10 ชั่วโมง
ไนล์ ร็อดเจอร์ส: คุณจะเต้นที่ไหนและเมื่อไรบ้าง คุณเต้นที่บ้านเวลาอยู่คนเดียวไหม หรือเต้นเวลาออกไปเที่ยวเท่านั้น
ฮยอนจี ชิน: ฉันจะเต้นกับบรรดาเพื่อนสนิทค่ะ
ไนล์ ร็อดเจอร์ส: ใครคือคนที่มีสไตล์ที่สุดในโลกสำหรับคุณ และเพราะอะไร
วิเวียน โรห์เนอร์: ฉันชอบเดินชิลแถวอัปเปอร์อีสต์ไซด์ในนิวยอร์ก ฉันไม่เคยเห็นผู้คนที่ไหนที่มีสไตล์มากเท่านี้มาก่อน แม้จะเดินทางรอบโลกมานับครั้งไม่ถ้วน พวกเขาเก๋โคตร
ฮยอนจี ชิน: ไดอาน่า เจ้าหญิงแห่งเวลส์ เธอเป็นคนมีสไตล์เสมอและรู้วิธีมิกซ์แอนด์แมตช์ได้เจ๋งมาก ฉันได้รับแรงบันดาลใจมากมายจากเธอเลยละ
ไนล์ ร็อดเจอร์ส: ตาของคุณสีอะไร
ฮยอนจี ชิน: น้ำตาลเข้ม
วิเวียน โรห์เนอร์: ฉันได้ตาสีเขียวมาจากพ่อ
ไนล์ ร็อดเจอร์ส: คุณสวมแว่นกันแดดเพื่อหลบซ่อน หรือเพื่อให้มองเห็นหรือให้คนมอง
ฮยอนจี ชิน: เพื่อให้มองเห็นและหลบแดด
ไนล์ ร็อดเจอร์ส: เพลงไหนที่ทำให้คุณรู้สึกมีชีวิตชีวาที่สุด
วิเวียน โรห์เนอร์: Wild Is the Wind ของเดวิด โบวี เป็นเพลงโปรดของฉันตั้งแต่อายุ 14 และทุกครั้งที่ฟัง มักจะทำให้ฉันอยากร้องไห้ ในขณะเดียวกันก็ทำให้ฉันรู้สึกมีชีวิตชีวาอย่างไม่น่าเชื่อ ฉันอินเรื่องดนตรีสุดๆ แต่เพลงของเดวิดติดอยู่ในหัวฉันตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่นและไม่เคยเปลี่ยนเลย มันเจ๋งมากที่ได้รู้สึกถึงอารมณ์แบบนี้และสัมผัสได้ถึงท่วงทำนอง เพียงแค่หนึ่งเสียง หนึ่งท่อน หรือหนึ่งประโยคก็สามารถสานฝันหรือดึงความทรงจำกลับคืนมาได้
ฮยอนจี ชิน: ตอนนี้ฉันชอบทุกเพลงของไท แวร์เดส (Tai Verdes)
ไนล์ ร็อดเจอร์ส: และเพลงปาร์ตี้เพลงไหนที่คุณชอบสุด
ฮยอนจี ชิน: ก็ต้อง Le Freak ของวง Chic สิ!
ไนล์ ร็อดเจอร์ส: คุณเคยถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าคลับไหม ถ้าเคย มีกลเม็ดเด็ดๆอะไรให้คนเฝ้าประตูใจอ่อนบ้าง
ฮยอนจี ชิน: ถ้าให้ตอบจริงๆ คือไม่เคยเลย อันที่จริงฉันมีเพื่อนหลายคนที่เป็นเพื่อนกับคนเฝ้าประตูนะ
วิเวียน โรห์เนอร์: ฉันชอบไปบาร์เก๋ๆ มากกว่าคลับ… ฉันถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าบาร์หลายครั้งในสหรัฐฯ ตั้งแต่ฉันย้ายไปนิวยอร์กตอนอายุ 19 และไม่อยากเชื่อเลยว่าฉันเข้าไม่ได้เพราะอายุยังไม่ถึง (อายุที่ดื่มได้ตามกฎหมายของสหรัฐฯ คือ 21 ปี)… และพวกเขาเข้มงวดสุดๆ
ไนล์ ร็อดเจอร์ส: คุณมีความทรงจำพิเศษเกี่ยวกับวง Chic ไหม
ฮยอนจี ชิน: ช่วงเวลาที่ฉันจำได้แม่นเลยก็คือ ตอนที่คุณเล่นกีตาร์เพลง Dance, Dance, Dance ต่อหน้าฉัน แล้วยื่นปิ๊กกีตาร์ให้ฉัน!
วิเวียน โรห์เนอร์: Chic วงพ่อดิสโก้ทุกสถาบัน! หรืออะไรก็ตามที่คนนึกขึ้นมาทันทีที่ได้ยินคำนั้น จะดิสโก้ ฟังก์ โฟล์ก หรือร็อกจากยุค 50 พอถึงต้นยุค 90 เพลงเหล่านี้เป็นแนวเพลงโปรดของฉัน ไอดอลของฉันตั้งแต่วัยรุ่นคือเดวิด โบวี และเมื่อฉันได้รู้ว่าคุณแต่งเพลงฮิตอันดับหนึ่งหลายเพลงของเดวิด รวมถึงเพลงฮิตอันดับหนึ่งและเพลงฮิตของศิลปินอีกมากมาย ฉันก็ดำดิ่งสู่โลกของ Chic มากขึ้นไปอีก
ไนล์ ร็อดเจอร์ส: คุณจำได้ไหมว่าเราพบกันครั้งแรกเมื่อไรและที่ไหน แล้วรู้สึกอย่างไรที่ได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้งในแคมเปญนี้
ฮยอนจี ชิน: ฉันพบคุณที่ไมอามีและรู้สึกเป็นเกียรติมาก ไนล์คะ คุณคือตำนาน
วิเวียน โรห์เนอร์: เราได้พบกัน 2-3 ครั้งในที่ต่างๆ ทั่วโลก ครั้งแรกในโมนาโกที่ Cruise Show เมื่อปีที่แล้ว เราพบกันอีกครั้งในไมอามี และฉันได้ฟังเพลง “Le Freak” ของคุณอย่างน้อยหนึ่งพันครั้งและเพลงนี้ไม่เคยเก่าเลย เป็นเพลงที่ทำให้เราเข้าถึงอารมณ์ของแคมเปญ เหมือนย้อนเวลากลับไปในยามค่ำคืนของแอนดี้ วอร์ฮอล พร้อมกล้องโพลารอยด์ของเขา ตอนนั้นคงเป็นช่วงเวลาที่สนุกสุดๆ เลยเนอะ
ไนล์ ร็อดเจอร์ส: คุณชอบทำอะไรเวลาที่ไม่ได้ถ่ายแบบ
ฮยอนจี ชิน: ฉันชอบเดินทางไปที่ใหม่ๆ ดูหนัง เล่นพิลาทิส และเล่นกอล์ฟ ฉันหมกมุ่นอยู่กับการดูแลผิวจึงมองหาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อยู่เสมอ แต่สิ่งที่ชอบสุดคืออยู่กับแม่และน้องหมา
วิเวียน โรห์เนอร์: ฉันชอบขับรถคันใหม่ไปตามอีสต์โคสต์ในมอนทอก นิวยอร์ก
ไนล์ ร็อดเจอร์ส: คุณคิดอย่างไรกับการสวมแว่นกันแดดในที่ร่ม
วิเวียน โรห์เนอร์: ไม่ใช่ทุกคนที่ต้องการเปิดเผยภาพสะท้อนของตัวเองให้โลกเห็น ตัวฉันเองก็สวมแว่นกรองแสงอยู่บ่อยๆ มันทำให้ฉันรู้สึกสบายใจขึ้น และไม่จำเป็นต้องพูดและเปิดเผยทุกอย่างตั้งแต่พบกันครั้งแรก
ฮยอนจี ชิน: การหลีกเลี่ยงแสงจ้าดีต่อดวงตาของคุณ โดยเฉพาะแสงแฟลช และจริงๆ แล้วมันเจ๋งมากเลย
ไนล์ ร็อดเจอร์ส: คุณเป็นตัวแทนของแบรนด์ CHANEL ในหลากหลายแง่มุม CHANEL ต่างจากแบรนด์อื่นอย่างไร
ฮยอนจี ชิน: CHANEL พิเศษมากๆ บรรยากาศของที่นี่อบอุ่นเสมอ ทุกคนทำให้ฉันรู้สึกมีคุณค่ามาก ที่นี่คือครอบครัวค่ะ
ไนล์ ร็อดเจอร์ส: ฮยอนจี คุณเปิดโชว์คอลเล็กชั่นครูสที่ไมอามีเมื่อพฤศจิกายนปีที่แล้ว รู้สึกยังไงที่ได้เป็นเฟซของ CHANEL มีประสบการณ์อะไรกับชาเนลที่อยากแชร์ไหม
ฮยอนจี ชิน: ฉันรู้สึกเป็นเกียรติและภูมิใจเสมอมาที่ได้เป็นนางแบบให้ CHANEL ฉันอยากอยู่กับ CHANEL ไปตลอดกาลค่ะ! คาร์ลคือคนแรกที่ให้โอกาสฉันเดินแบบ จากนั้นจึงได้ชวนให้ฉันได้ร่วมแคมเปญ นี่ล่ะคือจุดเริ่มต้นในเส้นทางการเป็นนางแบบของฉันมานับแต่นั้น วิร์จินี (วิร์จินี วิอาร์ด์ ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ CHANEL คนปัจจุบัน) ก็ได้ดูแลฉันเป็นอย่างดีและแน่นอนว่าเธอคือหนึ่งในสมาชิกครอบครัว ขอบคุณที่ให้ฉันมีโอกาสใส่ชุดสวยๆ สวมแว่นเจ๋งๆ เดินคูลๆ บนรันเวย์!
Words: Ayu Kulahathai