เริ่มจากในปี 1921 กลิ่นน้ำหอมสำหรับผู้หญิง สูตรแรกที่ Earnest Beaux คิดค้น พร้อม Gabrielle Chanel นำเสนอให้มีความทันสมัยผสานความเรียบง่ายแต่แฝงความลึกลับ ทำให้น้ำหอม N’5 ฮิตอย่างรวดเร็ว ต่อมาในปี 1932 มาดมัวแซลได้ตีความเครื่องประดับอัญมณีใหม่ในหนึ่งเดียวที่ทำด้วยแพลทินัมและเพชร คอลเล็กชั่น “Bjoux de Dia mants” มิติใหม่ของเครื่องประดับอัญมณ์ ที่เปี่ยมด้วยเสน่ห์เย้ายวน
ในปีนี้ถือเป็นการฉลองครบรอบ 100 ปี การนำทั้งสองสิ่งสุดพิเศษของโลกมาผสานกันผ่าน “Collection No5” ที่ Patrice Leguereau ผู้อำนวยการสตูดิโอ สร้างสรรค์ไฟน์จิวเวลรี่ “Collection N°5” ไอคอนิคเครื่องประดับอัญมณีชั้นสูงที่ได้แรงบันดาลใจจากน้ำหอม N°5 จากขวดแก้วที่มีเอกลักษณ์สู่กลิ่นหอมเย้ายวน ส่งต่อถึงเครื่องประดับ 123 ชิ้นที่สะดุดตา ผสานการเรียงร้อยของจิวเวลลี่ในโครงสร้างขวดน้ำหอม ออกมาเป็นลายเส้นกราฟิกได้สมบูรณ์แบบ ทำให้คอลเล็กชั่นจิวเวลรี่ N°5 แต่ละชิ้นสง่างาม น่าค้นหา ลิปส์พาชมทั้ง 6 ดีไซน์ไฮจิวเวลรี่คอลเล็กชั่น N°5 ชิ้นตระการตาจากองค์ประกอบมาจากขวดน้ำหอม Chanel N°5
55.55 Necklace
จากจิตวิญณาณของน้ำหอม N°5 ตั้งแต่โครงสร้างของขวดน้ำหอมไปจนถึงกลิ่นหอมเย้ายวน เผยออกมากลายเป็นจุดเด่นของสร้อยคอ ที่มีเพชรสุดอลังถึง 55.55 กะรัต
THE STOPPER
เห็นแล้วต้องนึกถึงจตุรัสปราซ ว็องโดม จากการรังสรรค์รูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าตัดมุมจากการเจียระไนทรงเอเมอรัลด์ สู่เครื่องประดับอัญมณีลวดลายกราฟิกทรงแปดเหลี่ยม ที่สะท้อนให้เห็นถึง ความเรียบหรูและสง่างามด้วยการประดับเพชร ออนิกซ์ ไข่มุก และ แซฟไพร์สีเหลือง รวมไปถึงเพชร 5.21 กะรัต พร้อมแหวนทองตกแต่งด้วยคริสตัล มีฐานรองประดับเพชร ส่องประกายงาม ที่เพิ่มความเฟมินีนด้วยริบบิ้นเพชรบนฝาขวด แสดงถึงจุดเริ่มต้นของน้ำหอม N°5
THE BOTTLE
ใครเห็นต้องจำได้ ในความโดดเด่นในรูปทรงเรขาคณิตของขวดน้ำหอม N°5 ดีไซน์ที่เรียงร้อยกันเป็นสร้อยโซตัวร์ ในผลงาน Abstraction เด่นที่การไล่สีของการจับคู่สีขาวเหลืองได้ลงตัว มาพร้อมเข็มกลัด และต่างหู ล้วนประดับด้วยเพชรสีขาว สีเหลือง และแซฟไฟร์สีเหลือง อีกทั้งใช้สีขาว – ดำ เพื่อให้เห็นบอดี้ของจิวเวลรี่เด่นยิ่งขึ้น และยังมีสร้อยเพชรทรงลูกแพร์ และมอร์แกไนซ์สีชมพู ที่ซ่อนดีเทลไข่มุก และเซรามิกมันวาว
THE NUMBER
แรงบันดาลใจจากตัวเลข 5 นำมาเพิ่มลูกเล่นการวางตัวเลขบนสร้อยคอโชคเกอร์ตัวเรือนเยลโลว์โกลด์และเพชร ซึ่งประดับด้วยพลอยเบริลสีเหลือง ตัวเลข 5 ในเวอร์ชั่น XL ของสร้อยคอ Eternal N’5 ที่ทำเป็นสร้อยคอโชคเกอร์ และเข็มกลัดได้ ดีไซน์ที่เด่นด้วยเพชรทรงกลม ทรงลูกแพร์ ทรงนาเว็ตต์ และทรงรี ที่เติมเต็มความสมบูรณ์แบบด้วยเพชรทรงเอเมอรัลด์ น้ำหนัก 10 กะรัต การตกแต่ง ด้วยแซฟไฟร์สีเหลือง ทำให้นึกถึงเสน่ห์เย้ายวนของน้ำหอมที่ตราตรึงใจนี้
THE FLOWERS
ดอกจัสมิน เมย์โรส และอิลัง อิลังที่ผลิบาน เป็นหัวใจสำคัญของการดีไซน์ที่อยู่บนชุดเครื่องประดับอัญมณีหลากสีสัน โดดเด่นด้วยวอลลุ่มในรูปทรงที่แตกต่างกัน ทั้งดวงดาว ดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากคอลเล็กชั่นแพลทินัมและเพชรในปี 1932 สู่งานบนสร้อยคอมุกโซตัวร์ และสายโซ่ประดับเพชร ที่สวยงามประกายเพชร และสุดท้ายของช่อดอกไม้สีขาวจัดเรียงแบบอสมมาตรเพื่อสื่อถึงดอกจัสมิน เมย์โรส และอิลัง อิลัง เผย Absolu N°5 และเพชร N°5 สามารถนำมาเป็นเข็มกลัดได้
THE SILLAGE
ถ่ายทอดการปฏิวัติวงการของน้ำหอม N°5 ประกายสว่างและสีเหลืองอำพันของอิมพีเรียลโทแพซ 350 กะรัตมอบเสน่ห์เย้ายวนเกินต้านทานให้กับสร้อยคอ Golden Burst ในสไตล์คล้ายยุคบาโรก ในโทนสีชมพูเพื่อสะท้อนความเป็นผู้หญิงในชุดเครื่องประดับอัญมณี Blushing Sillage ที่ตกแต่งด้วยเพชร ทับทิม โกเมน และแซฟไฟร์สีเหลือง รวมถึงพลอยสปีเนลสีชมพูและสีแดงที่เล่นสีไล่ระดับ คล้ายกับสีของน้ำหอม N°5 ที่เปล่งประกายสีทอง อีกทั้งยังมีสร้อยคอ Diamond Sillage สีโมโนโครมที่ประดับเพชรน้ำงามหนัก 10 กะรัต และล้อมรอบด้วยอัญมณีล้ำค่า
PHOTOS : Courtesy of Chanel