Search
Close this search box.
Search
Close this search box.
HOME / Culture / Dining

Coastal Culinary Mediterra

ลิ้มรสอาหารอิตาเลียนตอนใต้ในบ้านสีขาว ประตูสีเขียว ใจกลางซอยสุขุมวิท 23
Culture / Dining

สะดุดตากับบ้านหลังสีขาว ประตูรั้วสีเขียว รายล้อมด้วยต้นกระบองเพชรที่ตั้งอยู่กลางซอยสุขุมวิท 23 อย่างเงียบเชียบแต่แรกเห็น เดาว่าต้องเป็นร้านอาหาร หรือคาเฟ่อะไรสักอย่าง แต่ก็ยังไม่รู้แน่ชัดว่า ภายในเปิดทำการเป็นอะไรกันแน่ จนกระทั่งทราบว่า เป็นร้านอาหารอิตาเลียนที่เน้นเสิร์ฟเมนูอาหารสไตล์อิตาเลียนตอนใต้นั่นแหละ ทำให้เราตัดสินใจไม่นานเลยว่า ต้องแวะมาชิมอาหารของ Mediterra ให้จงได้

     และเมื่อเดินเข้าสู่บ้านหลังสีขาวที่ให้บรรยากาศราวกับบ้านตากอากาศในซิซิลี เราก็รู้สึกเหมือนได้บินไปถึงเมืองชายทะเลเมดิเตอเรเนียนเข้าแล้วจริงๆ ยิ่งได้พบกับเชฟ Walter D’Ambrosio และ Mr. Diego Pignatelli หุ้นส่วนร้าน ที่ออกมาต้อนรับเราด้วยภาษาอังกฤษสำเนียงอิตาเลียนจ๋ายิ่งทำให้อินกับบรรยากาศเข้าไปอีก

     เราเดินชมบรรยากาศรอบร้านที่ออกแบบตกแต่งไว้ได้สวยน่านั่งทุกมุม โซนยอดนิยมคงหนีไม่พ้นโซน dining ที่โดดเด่นด้วยผนังกระเบื้องโมเสกสีน้ำตาลหลากเฉดสลับสีขาวนวล ที่ไล่เรียงเป็นรูปวิวทิวทัศน์ของ Puglia เลื้อยลามไปยันผนังบาร์สีฟ้าครามที่ยังคงเป็นภาพวิวเกาะตอนใต้ของอิตาลีต่อเนื่องกัน

     สิ่งหนึ่งที่ส่งเสริมให้บรรยากาศภายในร้านดูมีชีวิตชีวา คือ งานศิลปะภาพแอ็บสแตรกสีสันสดใส ลายเส้นรื่นเริง และ Indoor Plant ที่คอยอยู่เป็นเพื่อนเราระหว่างเดินขึ้นบันไดไปชั้นบนที่ตกแต่งไว้ได้อบอุ่นสบายน่านั่งพักผ่อน ให้บรรยากาศเหมือนห้องนั่งเล่นบ้านเพื่อนมากกว่า จะเป็นร้านอาหาร โดยเฉพาะมุมโซฟาที่มีเครื่องเล่นแผ่นเสียง พร้อมกรอบรูปประดับเต็มฝาผนัง ที่คาดว่าน่าจะต้องถูกจับจองเป็นประจำในช่วงมื้อค่ำ

     แต่ถ้าหากมาดินเนอร์กับแก๊งเพื่อนแนะนำให้จองห้องไพรเวทที่ดู cozy เหมือนมานั่งทานอาหารในครัว ปรุงเดี๋ยวนั้นเสิร์ฟเดี๋ยวนั้น นั่งจิบไวน์เคล้าเสียงหัวเราะกับเพื่อนๆ ได้เต็มที่ไม่ต้องกังวลว่า เสียงจะดังรบกวนโต๊ะข้างๆ

     หากอยากนั่งสูดอากาศชมนกชมไม้สายพันธุ์หายากคงต้องรีบจับจองโซนเอาท์ดอร์ที่ได้รับความนิยมมากเช่นกัน ต้นไม้ที่เข้ามาเติมสีเขียวให้พื้นที่รอบร้านนั้นได้มือฉมังอย่าง วิทย์-ศิริวิทย์ ริ้วบำรุง แห่งร้าน Little Tree มาเป็นผู้ออกแบบและเลือกสายพันธุ์ไม้มาเนรมิตรให้ดูเป็นเหมือนสวนสไตล์อิตาเลียนจริงๆ 

     กว่าจะเดินชมครบทุกมุมก็ทำเอาท้องเริ่มส่งเสียงประท้วง อย่ากระนั้นเลย มาเริ่มจานแรกกันเลยดีกว่า

Ricciola

     เปิดตัวมาด้วยเมนู starter หน้าตาเรียบง่ายแต่ทันทีได้ชิมคำแรกบอกได้เลยว่า ความสดชื่นฟุ้งกระจายไปทั่วปาก นั่นก็คือ Ricciola ปลาฮามาจิแล่เนื้อบางๆ ท็อปด้วยเมดิเตอร์เรเนียนสลัด ที่ประกอบไปด้วยเฟนเนล ร็อคเก็ต ดิลล์ ส้มฝานบางๆ และเคเปอร์ก้านยาวรสเค็มๆ มันๆ ปรุงรสอย่างง่ายๆ ด้วยเลมอนสดๆ และผงเคเปอร์

Andria

     ต่อด้วยเมนูสลัดหน้าตาสะสวย แถมยังอร่อยมากเสียด้วย อย่าง Andria บูราต้าชีสจากแคว้น Puglia ทางตอนใต้ของอิตาลีที่ขึ้นชื่อเรื่องชายฝั่งทะเลแสนสวย และฟาร์มผลิตวัตถุดิบสดใหม่ บูราต้าชีสจากแคว้นนี้รสหอมมันทานเพลิน เสิร์ฟมาบนมะเขือเทศสายพันธ์ดั้งเดิมจากอิตาลีที่นำมาปลูกในฟาร์มที่เชียงใหม่ มีทั้งสีแดงสุกปลั่ง และสีทองอำพัน ทานคู่กับมะเขือเทศ puree จะได้รสเปรี้ยวสดชื่น แต่ถ้าอยากได้รสเค็มมาตัดรสมันๆ ของบูราต้าชีสอย่าลืมทานแอนโชวี่ที่ท็อปมาด้านบนควบคู่กันไปด้วย

Vongole

     ต่อด้วยเมนูเน้นคาร์โบไฮเดรตเต็มๆ อย่างพาสต้า และพิซซ่า ที่บอกได้เลยว่า ลืมคำว่า “Ketogenic Diet” ไปก่อน เพราะเมนูเน้นแป้งของที่นี่มีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใครจริงๆ โดยเฉพาะพาสต้าที่เราโปรดปรานเป็นพิเศษ โดดเด่นด้วยตัวเส้นที่นวดมือบนเครื่องที่เชฟเรียกว่า “กีต้าร์” ทำให้ได้เส้นที่มีรายละเอียดไม่เหมือนกันเลยสักเส้น เราลองชิมเมนู Vongole ที่เคยทานของร้านอื่นมาแล้วหลายร้าน แต่ไม่มีที่ไหนจะเหมือน Vongole ของที่นี่ตั้งแต่เส้นแบล็คอิงค์ที่สีออกเทามากกว่าจะดำเข้มแบบที่เคยเห็น แถมความหนึบแบบ Al dente ที่แท้จริงนั้นก็พบได้ที่นี่นี่เอง เชฟผัดมาแบบมีซอสไวน์ขาวขลุกขลิกเคลือบเส้นให้เงาสวยฉ่ำกำลังดี รสไม่ถึงกับจัดมาก แต่ได้รสชาติของท้องทะเลมาแบบเต็มปากเต็มคำ 

Mediterra

     ถึงแม้จะกำลังไดเอ็ทอยู่ก็ตาม แต่เมนูพิซซ่าก็ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง บอกได้เลยว่า พิซซ่าที่ออกจากเตาถ่านตกแต่งแผ่นกระเบื้องโมเสกสีแดง สีชมพู และสีขาว นั้น ให้รสชาติที่นุ่มนวล หอมกรุ่น และมีหน้าให้เลือกหลากหลายจนลายตา เราลองพิซซ่า Mediterra ชื่อเดียวกับร้านอันเป็นเมนูซิกเนเจอร์ที่ทางร้านแนะนำให้ลอง ซึ่งก็ไม่ผิดหวังกับความหอมฟุ้งของชีสมอสเซอเรลล่า ที่ผสมผสานกับความสดของหอยแมลงภู่อิมพอร์ต และรสจัดจ้านของ ’nduja ซาลามี่รสเผ็ดนิดๆ ได้กลมกล่อม

Dentice

     นอกจากนี้ยังมีเมนูน่าลองอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Dentice เนื้อปลาเรดสแนปเปอร์ปรุงให้สุกในห่อกระดาษ ปรุงรสด้วยไวน์ขาว เลมอน และสมุนไพร เคียงคู่มากับมะเขือเทศเชอร์รี่ เคเปอร์ และมะกอก ขณะเปิดห่อออกมาหอมเครื่องเทศฟุ้งกระจายชวนน้ำลายสอ

Seafood Platter

     สำหรับคนที่คลั่งไคล้ใน Seafood Platter สดๆ มาที่นี่รับรองว่า ไม่ผิดหวัง เพราะมี Selection ซีฟู้ดอิมพอร์ตจากอิตาลีให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น หอยนางรมอิมพอร์ตตัวเขื่อง ไปจนถึงวัตถุดิบหาทานยากอย่าง กุ้ง Mazara del Vallo กุ้งสีแดงเนื้อหวานที่ใครได้ลองทานแล้วเป็นต้องติดใจ ซึ่งทางร้านสั่งตรงมาจากซิซิลี 

     ใครที่คิดถึงอาหารอิตาเลียนขนานแท้ เน้นวัตถุดิบสดๆ ใหม่ รสสดชื่น บรรยากาศร้านทำให้รู้สึกเหมือนได้วาร์ปไปอิตาลีตอนใต้จริงๆ คงไม่ผิดหวังกับ Mediterra เป็นแน่ และขอเตือนไว้ก่อนว่า ไม่ว่าจะเป็นมื้อกลางวัน หรือมื้อค่ำ ควรสำรองโต๊ะล่วงหน้าเท่านั้น เพราะขนาดเราแวะมาตอนช่วง lunch ในวันธรรมดาโต๊ะยังเต็มอย่างไม่น่าเชื่อ

Mediterra
ซอยสุขุมวิท 23, กรุงเทพมหานคร

Tel. : 0 2115 7776
Facebook : Mediterra Restaurant Bangkok


Photography : Somkiat K. 

Related Articles

เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้ เราได้อธิบายความหมายและวิธีการใช้คุกกี้ของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถเข้าใจแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือการเปิดเผย รวมถึงทางเลือกในการใช้คุกกี้ของเรา อ่านเพิ่มเติม