นอนไม่หลับ คือหนึ่งในปัญหาโลกแตกด้านคุณภาพชีวิตที่ใครหลายคนอาจกำลังพบเจออยู่ ไม่ว่าจะเป็นการนอนไม่หลับแบบไหน ก็ล้วนแล้วแต่สร้างความรำคาญใจ และส่งผลเสียต่อสุขภาพตามมา หลายคนจึงพยายามค้นหาวิธีการต่างๆ เพื่อให้นอนหลับ หนึ่งในนั้นคือตัวช่วยที่หลายคนอาจไม่เคยทดลองมาก่อน นั่นก็คือการใช้ ‘เสียง’ และเสียงที่ว่านี้ก็ยังมีความพิเศษเพราะมี ‘สีสัน’ ที่แตกต่างกันออกไปนั่นเอง
เสียงสีต่างๆ ที่หลายคนอาจจะเคยได้ยินกันมาบ้าง โดยทั่วไปมีอยู่ 3 ชนิด ได้แก่
- เสียงสีขาว
- เสียงสีน้ำตาล
- เสียงสีชมพู
ส่วนมากจะเป็น ‘เสียงสิ่งแวดล้อม’ ที่เกิดจากสภาวะทางธรรมชาติที่ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น เสียงน้ำไหลในลำธาร หรือลักษณะเสียงวนซ้ำที่เกิดจากอุปกรณ์บางอย่างในชีวิตประจำวัน เช่น เสียงแอร์หรือพัดลม เป็นต้น
เสียงสีขาว (White Noise)
‘เสียงสีขาว’ คือชื่อเรียกของเสียงที่ถูกผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ใช้ในการแก้ปัญหานอนไม่หลับ ซึ่งมักใช้กับทารกแรกเกิดที่ชอบตื่นมากินนมกลางดึกและไม่ยอมนอนต่อ รวมถึงผู้ที่มีปัญหาการนอนไม่หลับที่กระทบกับสุขภาพ
เสียงสีขาว คือ เสียงที่มีคลื่นความถี่สูง-กลาง-ต่ำมาควบรวมกัน และมีจังหวะที่ราบเรียบสม่ำเสมอ ตัวอย่างเสียงสีขาวก็คือ เสียงแวดล้อมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเสียงน้ำไหลในลำธาร เสียงพัดลม หรือเสียงอุปกรณ์บางอย่างในบ้านที่ทำงานซ้ำๆ ไม่ว่าจะเป็นเสียงเครื่องปรับอากาศ หรือเสียงวิทยุเวลาไม่มีคลื่น ซึ่งสำหรับทารก เสียงสีขาวก็อาจหมายถึงเสียงที่มีจังหวะสม่ำเสมอเหมือนกับ ‘เสียงหัวใจเต้นของแม่’ ที่พวกเขาเคยได้ยินตอนอยู่ในครรภ์ก็ได้
เรามักใช้เสียงสีขาวกลบเสียงที่น่ารำคาญอื่นๆ ขณะนอนหลับ หรือขณะใช้สมาธิ เพราะสมองจะขาดสมาธิถ้ามีการเปลี่ยนแปลงระดับเสียงที่เข้ามากระทบอย่างรวดเร็ว การใช้ Noise แบบต่อเนื่องหรือมีการเปลี่ยนแปลงความดังช้าๆ จึงช่วยบดบังการกระตุ้นจากเสียงแวดล้อมได้ นอกจากนั้น เสียงสีขาวยังนิยมใช้บำบัดอาการเสียงในหู หรือ Tinnitus ได้ดีอีกด้วย
ตัวอย่างเสียงสีขาวจากคลิปวีดิโอ Sleep Sounds Deep White Noise
เสียงสีชมพู (Pink Noise)
‘เสียงสีชมพู’ คือ การผสมผสานระหว่างคลื่นความถี่ต่างๆ ที่มนุษย์สามารถได้ยินได้ เสียงสีชมพูจะเป็นเสียงที่ให้ความรู้สึกลึก แบน ต่ำ แต่นุ่มนวลกว่าเสียงสีขาว
ตัวอย่าง ‘เสียงสีชมพู’ มีหลากหลาย เช่น เสียงน้ำตก เสียงลมพัด เสียงคลื่นกระทบฝั่ง เสียงรถไฟกำลังแล่น โดยเสียงสีชมพูมักจะใช้คลื่นความถี่หรือระดับเสียงที่สม่ำเสมอ ทำให้ผู้ที่ได้ยินรู้สึกผ่อนคลาย ช่วยปรับปรุงความทรงจำระยะสั้นและยาว อีกทั้งยังช่วยเพิ่มคลื่นเดลต้าในสมอง ทำให้ความจำดีขึ้นในผู้ใหญ่
ยิ่งผู้บำบัดอาการนอนไม่หลับด้วยแสงสีนี้มีอายุมากขึ้นเท่าไร เสียงสีชมพูก็ยิ่งมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นเท่านั้น รวมถึง ‘เสียงฝนตก’ ด้วย จึงไม่แปลกที่เสียงฝนจะทำให้เราผ่อนคลายและอยากนอนหลับ จนหลายคนเลือกใช้เสียงฝนจาก Youtube หรือเสียงฝนในรูปแบบ ASMR เพื่อที่จะทำให้นอนหลับได้ง่ายและไวขึ้น
ตัวอย่างเสียงชมพูจากคลิปวีดิโอ Warm Pink Noise
เสียงสีน้ำตาล (Brown Noise)
‘เสียงสีน้ำตาล’ เป็นเสียงที่ถูกนิยามว่ามีลักษณะคล้ายคลึงกับเสียงสีชมพู เพียงแต่จะมีความ ‘ลึก’ และ ‘หยาบ’ กว่าเล็กน้อยในคลื่นความถี่ที่ต่ำลงไป ถ้าพูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือลักษณะเสียงจะทุ้มมากที่สุดในกลุ่ม Noise ทั้ง 3 แบบนี้
ตัวอย่างเสียงสีน้ำตาล เช่น เสียงพายุฝนฟ้าคะนอง เสียงน้ำตก หรือเสียงลมพัดแรง ช่วยให้ผ่อนคลาย และช่วยเพิ่มสมาธิให้จดจ่อดีขึ้น
นิยมใช้ ‘เสียงสีน้ำตาล’ ในการปรับสภาวะแวดล้อมเพื่อบดบังเสียงที่ไม่ต้องการเช่นเดียวกับเสียงสีขาวและสีชมพู แต่จะมีความนุ่มหรือน่าฟังมากกว่า นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยว่า ‘เสียงสีน้ำตาล’ ที่เปิดให้เข้าหูขณะหลับลึก สามารถช่วยเพิ่มความจำในกลุ่มที่มีแนวโน้มจะเป็นโรคความจำเสื่อม และช่วยในเรื่องพัฒนาการของเด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้นได้อย่างดี
ตัวอย่างเสียงสีน้ำตาลจากคลิปวีดิโอ Seriously Smoothed Brown Noise
ทั้งหมดทั้งมวล เราสามารถหาเสียงเหล่านี้ฟังได้ผ่านสมาร์ทโฟน ทั้งทางเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือแม้แต่รายการพอดแคสต์ที่ว่าด้วยเรื่อง White Noise, Pink Noise และ Brown Noise ได้โดยเฉพาะ
Words: Ayu Kulahathai
ข้อมูลจาก:
