หากสายแฟหลาย ๆ คนสไลด์ฟีดอินสตาแกรมเพื่ออัพเดตเทรนด์แฟชั่น เราเชื่อว่าในช่วงนี้จะต้องเจอภาพกระเป๋าสุดไวรัลอย่าง ‘Swipe Bag’ ของแบรนด์สุดเก๋สัญชาติฝรั่งเศส ‘Coperni’ อยู่เต็มหน้าฟีดแน่นอนเพราะว่ามันเป็น It Bag ของยุคนี้ที่เหล่าอินฟลูเอนเซอร์หยิบมาถือคอมพลีตลุคกันเป็นว่าเล่น
แต่ที่เป็นไวรัลและทำให้โลกออนไลน์ต้องสั่นสะเทือนคงจะหนีไม่พ้นกระเป๋ารุ่นใหม่อย่าง ‘Swipe Glass Bag’ จากรันเวย์ Autumn/Winter 2022 คอลเลคชั่นล่าสุดของแบรนด์ ที่เป็นการนำเอา It Bag รุ่นฮิตของแบรนด์มาอัพเกรดเวอร์ชั่นให้เก๋ขึ้น จนไปเตะตาเหล่าเซเลบริตี้ชื่อดัง ส่งผลให้ช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาเราได้เห็นกระเป๋าแก้วสุดคอนเซปต์ชวลใบนี้ออกมาโลดแล่นอยู่ในชีวิตจริงผ่านเหล่าคนดังทั้งหลาย
ความจริงแล้วนั้น Coperni ไม่ได้มีดีแค่กระเป๋ารุ่น Swipe หรอกนะ เพราะว่างานออกแบบแฟชั่นของแบรนด์นี้ก็จัดจ้าน และน่าสนใจไม่แพ้กันเพราะว่าแบรนด์นี้ได้ตีความคำว่า ‘French Fashion’ ในมุมมองใหม่ ๆ ผ่านเลนส์แฟชั่นของสองแฟชั่นดีไซเนอร์อย่าง ‘Arnaud Vaillant’ และ ‘Sebastien Meyer’ ที่ได้เอามุมมองของงานดีไซน์ และมาร์เก็ตติ้งมาผสมผสานให้แบรนด์นี้นั้นโดดเด่นในเรื่องของดีไซน์สุดล้ำ และการขายสินค้าแฟชั่นสุดปัง ไม่แปลกที่แบรนด์จะสามารถสร้าง It Bag ให้ทัดเทียมเหล่า Iconic Bag หลาย ๆ ใบได้ วันนี้ LIPS เลยจะพาทุกคนมาทำความรู้จักแบรนด์เก๋สัญชาติฝรั่งเศสนี้กันให้มากขึ้นผ่านแง่มุมต่าง ๆ
A Blend of Fashion Innovation and Scientific
การสร้างสรรค์ผลงานแฟชั่นของ Coperni นั้น Arnuad และ Sebastien เขาได้ชูความเป็น ‘นวัตกรรม’ และ ‘วิทยาศาสตร์’ เป็นเข็มทิศในการออกแบบแฟชั่นทั้งหมดของแบรนด์ และชื่อแบรนด์ Coperni นั้นก็มาจากคำย่อของนามสกุลนักดาราศาสตร์ชื่อดังในยุคเรเนซองส์อย่าง ‘Nicolaus Copernicus’ ผู้ที่ปฏิวัติวงการวิทยาศาสตร์เมื่อเขาคิดสูตรทางคณิตศาสตร์ที่พิสูจน์ได้ว่าโลกไม่ใช่ศูนย์กลางของจักรวาลแต่เป็นดวงอาทิตย์
ซึ่งกระบวนการคิดแบบเปลี่ยนกระบวนทัศน์ของ Nicolaus นั้นส่งผลต่อสองดีไซเนอร์ของ Coperni มากหรือถ้าพูดให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คงจะเป็นประโยคที่ว่า “มองมุมกลับ ปรับมุมมอง” ได้กลายมาเป็นแนวคิดในการออกแบบแฟชั่นของพวกเขา และเมื่อนำเอาเรื่องราวเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีมาหลอมรวมจิตวิญญาณแบบชาวฝรั่งเศสลงไปแล้วจะได้ 3 คำจำกัดความของแบรนด์ Coperni ที่ตรงกับภาพรวมของแบรนด์ที่ถูกถ่ายทอดออกมามาก ๆ นั่นก็คือ “French” “Sexy” และ “Sci-Fi” ซึ่งสามคำนี้เป็นคำจำกัดความที่ถูกถ่ายทอดโดย Arnaud และ Sebastien เองด้วย
Experience is a Key!
กว่าจะมีวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย! เพราะหากมองย้อนกลับไปแล้วแบรนด์ Coperni นั้นเดบิวต์ในวงการแฟชั่นมาตั้งแต่ปี 2014 แล้วโดยทั้งสองนั้นพบกันที่ Mod’Art International School สถาบันด้านศิลปะในปารีส Arnaud เรียนด้านแฟชั่นมาร์เก็ตติ้งส่วน Sebastien นั้นเรียนด้านแฟชั่นดีไซน์ ทำให้ทั้งสองเรียกได้ว่าทำให้ Coperni กลายเป็นที่สนใจของเหล่าสายแฟตั้งแต่ตอนนั้นเลย แถมพาแบรนด์ไปชนะ และร่วมแข่งขันการประกวดแฟชั่นระดับโลกมากมายอย่าง ANDAM Prize งานประกวดที่เปรียบเสมือนใบเบิกทางสู่ Paris Fashion Week ที่พวกเขาสามารถคว้ารางวัลใหญ่มาครอง
และพวกเขาสามารถทะลุเข้าไปสู่รอบ Finalist ของการประกวดแฟชั่นอันยิ่งใหญ่อย่าง LVMH Prize ได้และนี่เองก็ทำให้พวกเขาได้รับโอกาสอันใหญ่หลวงในการร่วมเป็น Co-Artistic Directors ของแบรนด์ ‘Courrèges’ แบรนด์เก่าแก่ชื่อดังในยุค 60s ที่โดดเด่นในด้านสไตล์สุด Futuristic จึงต้องถอนตัวกับการประกวด LVMH Prize และหยุดทำแบรนด์ Coperni ของพวกเขาเองลง ซึ่งภายใต้ชื่อ Courrèges นั้นทั้งสองคนได้รับประสบการณ์มากมายรวมถึงได้ทำงานภายใต้แบรนด์แฟชั่นที่เต็มไปด้วยมรดกตกอันยาวนานที่เขาได้นำเอาประสบการณ์เหล่านั้นมาใส่ไว้ในแบรนด์ของพวกเขาเองซึ่งทั้งสองแบรนด์นี้มีแก่น และแนวคิดคล้าย ๆ กันคือเรื่องของอนาคต และเทคโนโลยี
The Category is Thinking Forward!
อีกหนึ่งสิ่งที่เรารู้สึกว่าทำให้ Coperni นั้นโด่งดังท่ามกลางการระบาดของโรคโควิดนั้นก็คือ ’การคิดไปข้างหน้า’ ในช่วงการระบาดหนัก ๆ ของโควิด-19 หลายแบรนด์นั้นได้หยุดการออกแบบคอลเลคชั่นลงไปหรือทำไม่ได้เต็มที่เท่าที่เคย แต่สำหรับ Coperni นั้น Sebastien และ Arnaud กลับพยายามสร้างสรรค์คอลเลคชั่นเป็นสองเท่าจากปกติ และเมื่อแฟชั่นโชว์แบบปกติได้ถูกหยุด และสลับให้กลายเป็นแฟชั่นโชว์แบบดิจิทัล แต่ Coperni กลับแหวกกระแสจัดแฟชั่นโชว์แบบ Physical เหมือนปกติ
แต่ความพิเศษและล้ำมากๆ นั่นก็คือโชว์นี้จัดขึ้นแบบ ‘Drive-In’ ให้บรรดาแขกรับเชิญขับรถยนต์ส่วนตัวเข้ามาเพื่อชมแฟชั่นโชว์ในมิติใหม่แถมใช้ไฟหน้าของรถเพื่อเป็นสปอตไลต์ส่องรันเวย์ให้เห็นนางแบบในลุคต่าง ๆ แถมพวกเขายังสร้างสถานีวิทยุแบบกองโจรเพื่อให้แขกที่เข้าชมนั้นสามารถฟังเพลงประกอบแฟชั่นโชว์ได้พร้อม ๆ กันภายในรถยนต์ของพวกเขาเอง ปังมากปรบมือ!
เท่านั้นยังไม่พอด้วยความชาญฉลาด และเชี่ยวชาญทางด้านแฟชั่นมาร์เก็ตติ้งของ Arnaud ทำให้พวกเขานั้นใช้ Digital Mageting ในการประชาสัมพันธ์แบรนด์แบบเต็มรูปแบบ ยกตัวอย่างเช่น สร้างอินสตาแกรมที่มีชื่อว่า @copernize_your_life ที่สร้างขึ้นให้แฟน ๆ นั้นมีส่วนร่วมกับกิจกรรมต่าง ๆ ของแบรนด์ได้ รวมถึงสร้างฟีเจอร์ใน IG Story เพื่อสร้างเอนเกจเมนท์จากแฟนคลับของแบรนด์ และสายแฟอีกด้วย
The Bag That Change Everything
มาต่อกันที่เรื่องราว ’Swipe Bag’ กระเป๋ารุ่นฮิตของแบรนด์ที่ขึ้นแท่น It Bag ที่สาวๆ อยากได้ที่สุดในตอนนี้จุดเริ่มต้นของกระเป๋าใบนี้เกิดขึ้นในคอลเลคชั่น Spring/Summer 2020 ที่จัดขึ้นใน Apple Store บนถนน Champs-Elysees กลางกรุงปารีส สองดีไซเนอร์ได้เอาเรื่องราวของเทคโนโลยีและความเชื่อมโยงกับยุคสมัยใหม่โดยนำเอาไอคอนต่างๆ บนระบบปฏิบัติการ IOS มาใช้ในการออกแบบกระเป๋า จึงเป็นจุดเริ่มต้นของ Swipe Bag และกระเป๋ารุ่นอื่นๆ ของแบรนด์อย่างรุ่น ‘Wifi Bag’ ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากไอคอน Wifi ใน iPhone หรือ ‘The Lock’ กระเป๋าทรงกล่องที่เลียนแบบไอคอนล็อคหน้าจอของ iPhone
และในคอลเลคชั่นล่าสุดอย่าง Autumn/Winter 2022 ของ Coperni แบรนด์ได้เปิดตัวกระเป๋ารุ่นใหม่ที่พัฒนาต่อยอดมาจาก Swipe Bag แต่เปลี่ยนจากหนังให้กลายเป็นแก้วเป่าซึ่งเป็นการร่วมมือกันระหว่าง Coperni และ Heven แบรนด์เครื่องแก้วจากนิวยอร์กที่มาช่วยทำให้กระเป๋ารุ่นนี้ของ Coperni กลายเป็นไวรัลและเป็น Wish List ของสาวๆ ทั่วโลก
ตอกย้ำความแรงของมันด้วยการที่ Kylie Jenner และ Doja Cat ถือออกงานในชีวิตจริงโดยเฉพาะการที่ทั้งสองใส่ของใช้ในชีวิตจริงลงไปอย่าง Kylie ใส่ลิปสติกจาก Kylie Cosmetics ของเธอลงไปสองแท่งหรือ Doja ที่คล้องลำโพง JBL กับกระเป๋ารุ่นนี้ทำให้เรารู้ว่ากระเป๋าใบนี้ที่ดูไม่ฟังชั่นเท่าไหร่และดูเปราะบางมากสามารถใช้ได้จริงแบบไม่น่าเชื่อ (แต่ก็ต้องระมัดระวังกันหน่อยเพราะมันคือเครื่องแก้ว) เราเชื่อว่าเมื่อแบรนด์เปิดจองยอดขายจะต้องทะลุเพดานแน่นอน!
