ฉันยืนน้ำตาไหลอาบแก้มอยู่หน้าแกลเลอรีชั้น 2 ของ River city หลังจากที่ได้เห็นแถวยาวเหยียดที่ต่อคิวรอเข้าชม Everybody/Cries/Sometimes นิทรรศการเดี่ยวของ Crybaby มันเป็นน้ำตาของความปลื้มปิติที่ศิลปิน Art Toy ที่ฉันเป็นแอบเป็นแฟนคลับมาตลอด 4 ปีได้รับความนิยมมากขนาดนี้ (ประกอบกับโดนคนข้างหลังเหยียบส้นเท้า) ใครจะไปคิดว่า วันหนึ่งสองสิ่งที่มักจะถูกแปะป้ายว่าเป็นเครื่องหมายของผู้หญิงอ่อนไหวอย่าง “ศิลปะและการร้องไห้” จะแมสขนาดนี้
สำหรับคนที่ตามติดวงการ Art Toy แล้ว คงไม่มีใครไม่รู้จัก ‘Crybaby’ ของ ‘มอลลี่’ หรือ มด นิสา ศรีคำดี ที่โด่งดังระดับเอเชีย แฟนคลับจากหลายประเทศแย่งชิงงานของมอลลี่กันหลักแสนบาท เป็นศิลปินไทยคนเดียวที่ได้เซ็นสัญญาและออกผลงานกับ POP MART เจ้าของคาแรกเตอร์น้องหนูเจ้าน้ำตา จากแนวคิดของมอลลี่ที่มองการร้องไห้เป็นเรื่องธรรมชาติในชีวิตที่มีทั้งสุขและทุกข์ เป็นเรื่องธรรมดาที่เราทุกคนต่างเคยร้องไห้ ปลดปล่อยความรู้สึกอันท่วมท้น ไม่ว่าทางบวกหรือทางลบเพื่อสร้างสมดุลให้กับจิตใจ
Everybody/Cries/Sometimes มีองค์ประกอบหลายอย่างที่ช่วยให้เข้าถึงคนหมู่มากได้อย่างดี ไม่ว่าจะเป็นความเป็นป๊อปคัลเจอร์ของอาร์ตทอย คอนเซปต์ที่เรียบง่ายแต่กินใจเชื่อมโยงกับความรู้สึกพื้นฐานของคน และความน่าสนใจของนิทรรศการที่นำเอาเอกลักษณ์ของงานอีเวนต์ที่มอลลี่เคยมีประสบการร์ทำงานมาผสมผสานอย่างลงตัว
จุดเด่นอันดับแรก คือส่วนของ The Insomniac ที่จัดแสดงอยู่ที่ชั้น 1 ห้องสีขาวบุนวมขนาดใหญ่ที่วางไว้กลางลานกว้างกลางห้าง สามารถมองลงไปได้จากชั้นบนเห็นน้อง Crybaby ไซซ์ยักษ์นอนร้องไห้อบู่บนฟูก สื่อถึงห้วงอารมร์ความรู้สึกของการร้องไห้จนนอนไม่หลับ แม้จะเป็นเวลาต้องดับไฟเข้านอน แต่หลายครั้งเรื่องราวมากมายก็ยังวนเวียนในหัวพาจิตใจให้ว้าวุ่นล่วงเลยถึงเช้า
ขึ้นมาที่ชั้น 2 ก่อนที่จะไปต่อคิวเข้าชมนิทรรศการที่แถวยาวเหยียดในทุกวันหยุด เราจะเห็นลูกตาดุกดิกของน้องหนู Crybaby ที่ขยับไปมา ชวนให้พินิจขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงอารมณ์ตั้งแต่เริ่มเศร้า น้ำตาคลอ จนถึงร้องไห้ ผ่านเข้าไปในตัวนิทรรศการจะมีงานของมอลลี่ทั้งที่เป็นอาร์ตทอยและภาพวาดแบบต่างๆ จัดวางสลับกับจุดเซลฟี่ถ่ายรูปมากมาย ซึ่งมีเพื่อทลายเส้นแบ่งระหว่างความเป็นนิทรรศการศิลปินจัดๆ กับวัฒนธรรมประชานิยมในปัจจุบันที่ให้ความสำคัญกับการถ่ายรูปอัปขึ้นโซเชียลมีเดีย
ตามจุดถ่ายรูปต่างๆ ก็มีความเป็นงานศิลปะแบบ Installation ที่สื่อสารถึงธีม Everybody/Cries/Sometimes ทุกๆคนต่างเคยร้องไห้ ไม่ว่าจะเป็นตัวงานที่เป็นกระจกเงา หรือ Sculpture ต่างๆ ที่น่าสนใจที่สุดน่าจะเป็น “ชิ้นส่วน” ของน้อง Crybaby ที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วงาน แขนขาขนาดยักษ์วางกีดขวางตลอดทางเดิน ทางนู้นทีทางนี้ที และหัวที่หล่นอยู่ใจกลางนิทรรศการ ชิ้นส่วนเหล่านี้เป็นองค์ประกอบของ The Broken One ตัวแทนของความเศร้าเสียใจจนรู้สึกแตกสลาย
จากในอดีตที่ศิลปะดูเป็นเรื่องเข้าถึงยาก แกลเลอรีเป็นสถานที่เงียบขรึมเดินแล้วชวนตัวเกร็ง สมัยที่การร้องไห้ให้ใครเห็นเป็นเรื่องต้องห้าม โรคซึมเศร้าเป็นเรื่องที่ไม่มีใครเข้าใจ มาในปัจจุบัน ทั้งวิทยาการความเข้าใจในโรคซึมเศร้า จิตวิทยา และอารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์พัฒนาการขึ้น ได้รับการยอมรับและพูดถึงในวงกว้าง งานศิลปะก็ได้รับความนิยมจากการเติบโตของป๊อปคัลเจอร์เช่นกัน
สำหรับสาวติสต์เจ้าน้ำตาอย่างฉัน โลกสมัยนี้อยู่ง่ายขึ้นเยอะ หึ
เข้าชม Everybody/Cries/Sometimes ได้วันนี้ถึง 30 ก.ย. 2023 ณ Trendy Gallery, River City Bangkok
Words: Roongtawan Kaweesilp