
‘ริ้วรอยบริเวณหัวคิ้ว’ เป็นอีกหนึ่งเรื่องใหญ่ที่หลายคนกังวลใจ ต้องขอบคุณจักรวาลและการแพทย์ที่นำพา Botulinum Toxin มาช่วยแก้ปัญหานี้ได้ แต่ดูเหมือนว่าจักรวาลจะใจดีมากกว่าเดิม ที่คิดค้น ‘Daxxify’ สารลดเลือนริ้วรอยระหว่างคิ้วทางเลือกใหม่ ที่มีความเสถียรสูงและมีผลวิจัยรองรับว่าอยู่ได้นานถึง 9 เดือน!
ซึ่งแม้ว่าตอนนี้ Daxxify จะผ่าน FDA ที่สหรัฐอเมริกาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ลิปส์เลยอาสาพาไปทำความรู้จักก่อนเขาก่อนใคร! หากได้รับการรับรองในไทย จะได้ตบเท้ากันไปสวย


ทบทวนเรื่อง ‘Botox’
เราเคยได้ยินคำพูดติดปากว่า “ไปเติมโบท็อกซ์” แท้จริงแล้วคำว่า ‘Botox’ เป็นชื่อทางการค้าของสาร Botulinum Toxin Type A โดยบริษัท Allergan เป็นเจ้าแรกที่นำเจ้า Botulinum Toxin Type A นี้ มาใช้ลดเลือนริ้วรอยและปรับรูปหน้า ที่เรามักเรียกกันว่า ‘โบท็อกซ์ Allergan’ หรือ ‘โบฯ อเมริกา’ ก่อนที่จะมีอีกหลากหลายแบรนด์เข้ามาทำตลาด
โดยเจ้า Botulinum Toxin Type A นี้เป็นสารสกัดจากแบคทีเรีย Clostridium Botulinum (คลอสตริเดียม โบทูลินัม) ที่ออกฤทธิ์ยับยั้งการหลั่งของสารสื่อประสาท Acrtylcholine (อะซีทิลคอลีน) ที่บริเวณรอยต่อระหว่างปลายประสาทและกล้ามเนื้อ ส่งผลให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงลง ทำงานลดลง ช่วยลดริ้วรอยได้ชั่วคราว

ข้อมูลเพิ่มเติมคือในตัว Botulinum Toxin Type A นี้ต้องอาศัยส่วนผสมพิเศษบางอย่างจากคนและสัตว์ เพื่อทำให้เกิดการคงตัว เช่น แบรนด์ Botox ใช้ Human Serum Albumin (HSA) หรือซีรั่มอัลบูมินของมนุษย์ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์จากเลือด หรือแบรนด์ Dysport ที่ใช้ HSA และโปรตีนนมวัวเป็นตัวช่วยเสริมด้วยเช่นกัน
Daxxify คืออะไร
Daxxify หรือ DaxibotulinumtoxinA-lanm จัดเป็น Neuromodulator หรือสารทางการแพทย์ที่สามารถควบคุมโครงสร้างในกระบวนการทำงานของเซลล์ประสาท ใช้สำหรับการลดเลือนริ้วรอยระหว่างคิ้วชนิด Glabellar Lines (รอยย่นระหว่างคิ้วลักษณะเหมือนเลข 11 ที่เกิดจากการทำงานของกล้ามเนื้อระหว่างคิ้ว)

ซึ่ง Daxxify นี้มีความเสถียรค่อนข้างสูง ไม่มีส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์จากคนหรือสัตว์ดังกล่าวข้างต้น เพราะอาศัยเทคโนโลยี Peptide Exchange Technology™ (PXT) ที่ใช้เปปไทด์ประจุบวกเป็น ‘Stabilizer’ หรือสารทำให้คงตัว ส่งผลให้เกิดการยึดเกาะบริเวณเซลล์ประสาทได้นานขึ้น จึงทำให้มีความเสถียรสูง และผลลัพธ์อยู่ได้นานกว่าการรักษาริ้วรอยขมวดคิ้วแบบธรรมดา (อ้างอิงข้อมูล www.jaad.org/article/ และ www.jaad.org/action/showPdf )

FDA รับรอง Daxxify
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (FDA) ได้อนุมัติ Daxxify เป็นที่เรียบร้อย ภายใต้ผลวิจัยที่น่าเชื่อถือได้ อ้างอิงจากข้อมูลตามโครงการทดลองทางคลินิกเฟส 3 (SAKURA) ซึ่งทดลองกับผู้ร่วมทดลองมากกว่า 2,700 ราย โดยใช้รักษาประมาณ 4,200 ครั้ง ซึ่งพบว่า 74% ของผู้ร่วมการทดลอง มีริ้วรอยหว่างคิ้ว (Glabellar Lines) ดีขึ้นไม่ต่ำกว่า 2 ระดับในสัปดาห์ที่ 4 และประสิทธิภาพของยาคงอยู่นาน 6 เดือน และพบว่าผู้ร่วมการทดลองบางคนผลลัพธ์อยู่ถึง 9 เดือนเลยทีเดียว

ส่วนระยะเวลาการเกิดผลลัพธ์ ผลวิจัยชี้ว่าเห็นผลเร็วสุด 1 วัน หลังจากการทำหัตถการ แต่โดยทั่วไปจะเห็นได้เร็วสุดภายใน 2 วัน
และในด้านความน่าเชื่อถือนั้น ผลการทดลองทางคลินิกระบุว่า Daxxify ให้ผลคงทนโดยมีผลข้างเคียงน้อยมาก จากการทดลองพบอาการไม่พึงประสงค์ไม่เกิน 1%

ผลลัพธ์จากผู้ใช้จริง
แม้ว่า Daxxify ยังเป็นเรื่องใหม่สำหรับวงการความงามไทย แต่เราก็ขอเอาผลลัพธ์จากแพทย์ผู้ใช้จริงในอเมริกา (เติมจริง อะไรจริง) มาฝาก ลองดูรีวิวจากแพทย์ผู้ใช้งานจริงอย่าง ดร.แอนโทนี ยูน แห่ง America’s Holistic Plastic Surgeon เจ้าของหนังสือ The Age Fix: A Leading Plastic Surgeon Reveals How To Really Look Younger Ten Years ที่ปลื้มนักปลื้มหนาถึงผลลัพธ์
@doctoryoun Testing DAXXIFY- new Botox alternative! #daxxify #daxxifyinjections #plasticsurgeon #botox
♬ Banana Wind – Instrumental – Jimmy Buffett
และลองดูรีวิวจากผู้ใช้จริงที่เป็นคนธรรมดากันบ้าง ที่ต่างล้วนแล้วแต่ประทับใจในผลลัพธ์มากกว่าวิธีลดริ้วรอยปรับรูปหน้าแบบเดิมๆ เสียอีก
@refinery29 Is Daxxify better than Botox? We tried it out! daxxify botox dysport
♬ Future Is Now – Marcus Manderson
แม้ว่ายังใหม่…ยังสับ แต่ก็จงจับตามองเจ้า Daxxify ไว้ให้ดี ไม่แน่ในบ้านเรา Daxxify อาจจะกลายเป็นคำฮิตตีคู่คำว่า ‘เติมโบฯ’ เป็นคำว่า ‘เติมแดกซีฯ’ ก็เป็นได้!
Words: Varichviralya Srisai
ที่มา: