ไม่ว่าจะเป็นช่างฝีมือที่อิตาลีหรือช่างไม้จากบอตสวานา ล้วนสร้างสรรค์ผลงานที่มีความเป็น Fendi ได้อย่างเข้มข้น ดังที่ปรากฏในคอลเล็กชั่นเฟอร์นิเจอร์ที่ Kim Jones ภูมิใจนำเสนอ Mabeo x Fendi
Fendi ชื่อนี้ทำให้คนส่วนใหญ่นึกถึงแฟชั่นไอเท็มอย่างกระเป๋ารุ่น Baguette, Toujours หรือPeekaboo หากเฟอร์นิเจอร์เป็นอีกสิ่งที่แนบชิดกับความเป็น Fendi ไม่ว่าจะเป็น Fendi Casa ไลน์เฟอร์นิเจอร์ที่ก่อตั้งในปีค.ศ. 1988 โดย Alberto Vignatelli และ Anna Fendi ซึ่งบ้านในอาคารเก่าสมัยทศวรรษที่ 1930 ของทั้งคู่ตกแต่งอย่างน่าตื่นตะลึงที่สุดหลังหนึ่งในกรุงโรมเลยทีเดียว ทั้งสองยังเป็นบิดามารดาของ Silvia Venturini Fendi ทายาทรุ่นสามของตระกูลที่รับช่วงดูแล Fendi Casa ขณะที่ Ilaria Venturini Fendi บุตรสาวอีกคนของอันนาก็ออกไปสร้างแบรนด์ Campus Carmina ที่นำวัสดุเหลือใช้ตั้งแต่เศษผ้าไปจนถึงอุปกรณ์การเกษตรมาทำเฟอร์นิเจอร์
F ที่ Fendi จึงหมายถึงเฟอร์นิเจอร์และแฟชั่น อย่างที่อันนากล่าวไว้ว่า เธอตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ด้วยวิธีการเดียวกันที่ Fendi แต่งตัวให้ผู้หญิงมาหลายชั่วอายุคน
Fendi จึงแสวงหาศิลปินและช่างฝีมือจากทั่วโลกมาร่วมกันสร้างเฟอร์นิเจอร์แบบใหม่ๆ อยู่เสมอและหลังการมาถึงของ Kim Jones ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์เครื่องแต่งกายผู้หญิงและแฟชั่นชั้นสูงคนใหม่ เขาปักหมุดไปที่ประเทศบอตสวานา
ประเทศที่มีประชากรราวๆ 2 ล้านคนแห่งนี้อยู่ทางตอนใต้ของทวีปแอฟริกาซึ่งพื้นที่ 70% ถูกกลืนกินด้วยคาลาฮารี ทะเลทรายขนาด 900,000 ตารางกิโลเมตร หรือใหญ่กว่าประเทศอิตาลี 3 เท่า และใหญ่กว่าประเทศไทยเกือบ 2 เท่า ท่ามกลางความแห้งแล้งของดิน ทว่าทุกหัวระแหงกลับอุดมและสมบูรณ์ยิ่งไปด้วยช่างฝีมือแขนงต่างๆ ตั้งแต่ช่างไม้ ช่างเหล็ก จนถึงช่างทอผ้า
Peter Mabeo ดีไซเนอร์ชาวบอตสวานาที่โด่งดังในหมู่นักออกแบบร่วมสมัยไปทั่วโลก หลังจากก่อตั้งสตูดิโอชื่อเดียวกับชื่อตัว ปีเตอร์ก็ร่วมงานกับ Patricia Urquiola, Claesson Koivisto Rune และ Inès Bressand สิ่งที่ทำให้สตูดิโอออกแบบเล็กๆ ในพื้นที่ทุรกันดารไกลโพ้นโด่งดังในระดับโลกก็คือ งานทุกชิ้น Made in Botswana จากฝีมือช่างท้องถิ่นที่ใช้เทคนิคพื้นบ้านถ่ายทอดแนวคิดร่วมสมัย ชิ้นงานจึงมีเสน่ห์ยิ่ง คล้ายว่ามาจากพื้นที่ห่างไกลแต่ดีไซน์กลับร่วมสมัย และในความเนี้ยบกริบกลับมองเห็นรายละเอียดดิบของวัสดุธรรมชาติ
เสน่ห์ในงานฝีมือของ Mabeo ทำให้คิม โจนส์ถึงกับเดินทางไปถึงบอตสวานา ประเทศที่แฟชั่นดีไซเนอร์ชาวอังกฤษเคยใช้ชีวิตในวัยเด็กเมื่อต้องติดตามบิดานักอุทกธรณีวิทยาที่เดินทางไปศึกษาแหล่งน้ำใต้ชั้นหินที่นั่น
เมื่อคิม ซิลเวียและ Delfina Delettrez Fendi ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์จิวเวลรี่ บุตรสาวของซิลเวียได้พบกับปีเตอร์ และปีเตอร์ได้มาชมสตูดิโอออกแบบของ Fendi ที่กรุงโรม สี่หัวครีเอทีฟบวกกับมืออันเชี่ยวชาญงานช่างหลายต่อหลายคู่ก็คลอดผลงาน ‘Kompa’ คอลเล็กชั่นเฟอร์นิเจอร์ 10 ชิ้น อาทิ Lomo Stool เก้าอี้ 3 in 1 ที่ใช้งานเป็นเก้าอี้สองตัวหรือใช้เป็นที่เก็บของก็ได้ หากเมื่อประกอบเข้าด้วยกันจะกลายเป็นโต๊ะวางของ ชิ้นงานนี้ระดมช่างไม้ ช่างดินเผาและศิลปินท้องถิ่นที่มาเพ้นต์พื้นผิวด้านในอย่างละเอียดลออ
Lomo Stoo
ส่วน Efo Stool ได้แรงบันดาลใจจากลาย F ซ้อนกัน ทาง Mabeo จึงรวมวัสดุที่แตกต่างกันเข้าด้วยกัน ทั้งดินเหนียว และไม้ Panga Panga สร้างเป็นเก้าอี้ที่มีดีเอ็นเอของ Fendi ชัดเจน และ Maduo Chair ที่มองปุ๊บก็รู้ได้ทันทีว่า มีที่มาจาก O’ Lock จิวเวลรี่ที่ Delfina Delettrez Fendi ออกแบบ ช่างฝีมือจาก Mmankgodi จึงโชว์โครงร่างของ O’ Lock ในเวอร์ชั่นเก้าอี้นั่งผ่านรูปทรงเรขาคณิต และเส้นสายโค้งอย่างน่าทึ่งราวกับไม่ได้ทำจากไม้
Efo Stool
Maduo Chair
ซิลเวียและเดลฟิน่ามักจะประชุมซูมกับปีเตอร์ตลอดระยะเวลาที่ร่วมงานกัน ซิลเวียนั้นตื่นตะลึงไปกับฉากหลังของสตูดิโอ Mabeo ที่เป็นลานกว้าง มองเห็นต้นไม้รูปทรงแปลกตาและท้องฟ้าไร้เมฆ นั่นเองที่ทำให้เธอตระหนักได้ว่า ความอัศจรรย์ของ Mabeo ไม่ได้เกิดจากฝีมือของช่างเท่านั้น แต่ภูมิประเทศที่บอตสวานาก็คือช่างฝีมืออีกรายหนึ่งซึ่งเป็นคนสำคัญมากที่จะขาดไปเสียมิได้ ถ้าไม่มีสภาพแวดล้อมเช่นนี้ ผลงานของ Mabeo ก็จะต่างออกไปจากที่เป็นอยู่แน่นอน
นอกจากเฟอร์นิเจอร์ทั้ง 10 ชิ้นแล้ว Kompo Collection ยังมาพร้อมงานฝีมืออีกชิ้น เป็นสิ่งตีพิมพ์ที่รวบรวมเทปบันทึกระหว่างการเดินทาง การประชุม กระบวนการทำงานและภาพวาดแผนผังของเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้น เรียกว่าไม่มีความลับทางการตลาดใดๆ ที่จะปิดบังกันเลย เมื่อทุกฝ่ายใน Fendi x Mabeo ภูมิใจนำเสนอความเป็นคราฟต์ แฟชั่น ท้องถิ่นและความยั่งยืนในทุกแง่มุมให้โลกได้ประจักษ์
Text : SUPHAKDIPA P.
Photography : COURTESY OF FENDI
