จะมีสักกี่คนที่เสื้อผ้าลายชาติพันธุ์และชนเผ่า สร้างผลงานจากสีสันแห่งลาตินอเมริกา และนำฉายแสงส่องไปที่ดีไซเนอร์จากแอฟริกา แต่นั่นละที่ทำให้ทุกชิ้นงานของ ‘จีจี้ – พิชญา ธนาวงษ์รัตน์’ นักสร้างแฟชั่นคอลลาจตรึงสายตาได้ตั้งแต่วินาทีแรก
LIPS: รูปแบบการทำงานของคุณเป็นแบบ Fashion Collage ที่มีส่วนผสมระหว่างงานวาดมือกับดิจิทัลอาร์ต ค้นพบสไตล์ของตัวเองอย่างไร
จีจี้: ย้อนกลับไปหลายปีก่อน เราเริ่มทำภาพคอลลาจแฟชั่นจากนิตยสารเป็นงานอดิเรก และค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นการสร้างสรรค์ดิจิทัล ในตอนนั้นมี Polyvore ซอฟต์แวร์การออกแบบมู้ดบอร์ดรองรับผู้ชื่นชอบแฟชั่นที่เปิดให้ผู้ใช้สามารถสร้างคอลลาจของเสื้อผ้าได้ เราค่อนข้างใช้เวลากับแพลตฟอร์มนี้มาก ความหลงใหลในคอลลาจดิจิทัลจึงเริ่มก่อตัวขึ้น
หลังจากนั้นเราเริ่มวาดรูปลงสมุดสเก็ตช์ ร่วมกับการทำคอลลาจจากสนิตยสารเเฟชั่น ทำโมเดลตุ๊กตากระดาษเล่นวนไป จนกระทั่งวันที่เราได้เปลี่ยนสายอาชีพมาทำกราฟิก จึงได้มีโอกาสวาดรูปเเบบดิจิทัล ใช้เครื่องมือที่เรียกว่า Wacom ทีนี้ก็สนุกเลย เราก็ฝึกวาดภาพแฟชั่น ทดลองด้วยเทคนิคต่างๆ เล่นกับเค้าโครงที่ผสมผสานกับเส้นและภาพคอลลาจ หลังจากนั้นก็ทดลองใช้เครื่องมือพู่กันต่างๆ สำหรับการเรนเดอร์เสื้อผ้า สีผิว ผม ใส่แสงเงาเเละตัวคาแรกเตอร์ก็ได้รับการพัฒนามาเรื่อยๆ จนเป็นสไตล์ปัจจุบัน มันคือการทำงานไปเรื่อยๆ และต้องใช้เวลาทดลอง พัฒนา ฝึกฝนและทำบ่อยๆ ค่ะ
LIPS: คุณใช้วัตถุดิบอะไรในการสร้างผลงานบ้าง
จีจี้: ส่วนใหญ่มาจากการรีเสิร์ชรูปและข้อมูลตามเว็บไซต์ต่างๆ สำหรับรูปรันเวย์จะเข้าไปอัปเดตคอลเล็กชั่นล่าสุดที่ Tag-Walk รวมถึงเว็บไซต์ช้อปปิ้งออนไลน์ เช่น Moda Operandi เราจะดูแฟชั่นเซตจาก Digital Magazine และมีเว็บที่ชอบเข้าประจำอย่าง anneofcarversville.com ที่จะมีเรื่องราวแฟชั่นที่อัพเดตตลอด หรือเวลาหาแบ็กกราวนด์สถานที่สวยๆ รูปคุณภาพดีก็จะเข้าไปที่ Unsplash.com
LIPS: เพราะอะไรแฟชั่นจึงดึงดูดความสนใจคุณได้มาก อะไรคือเสน่ห์ของแฟชั่นที่กระทบใจคุณ
จีจี้: แฟชั่นเป็นสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกมีชีวิตชีวาเสมอ เป็นสิ่งที่ขับเคลื่อนการใช้ชีวิตและเป็นความรัก ย้อนกลับไปสมัยเด็กมันคือความตื่นเต้นที่จะได้เห็นนิตยสารเเฟชั่นที่เราชอบวางเเผง คือความสุขที่ได้เห็นภาพปกใหม่ๆ ได้อัพเดตสิ่งสวยๆงามๆ พอเราโตขึ้น เราก็ค้นพบว่าเราชอบสไตล์แบบไหน เราสามารถเเสดงตัวตนของเราให้โลกนี้รู้ว่าเราเป็นคนเเบบไหน มีความเชื่ออะไรผ่านเสื้อผ้าที่เราใส่ นั่นคือเสน่ห์ของแฟชั่น มันคืออิสระในการแสดงออก ความสนุกในการเลือกใส่ชุดที่จุดประกายความสุขให้กับเรา ทำให้เรารู้สึกดีกับตัวเราเอง มีความมั่นใจ มันคือความสุขในการเเต่งตัวและความเพลิดเพลินชีวิตประจำวัน
LIPS: ไม่ใช่แค่แฟชั่นวีคของ 4 เมืองใหญ่ ปารีส ลอนดอน มิลานและนิวยอร์กเท่านั้น แต่คุณยังทำคอลลาจของแฟชั่นวีคเมืองอื่นๆทั่วโลกด้วย เช่น รวันดา หรือนำเสนอคอลลาจของดีไซเนอร์จากไนจีเรีย เอกลักษณ์ของแฟชั่นเมืองต่างๆในความคิดเห็นของคุณเป็นอย่างไร มีแฟชั่นของที่ไหนที่รู้สึกว่าน่าสนใจเป็นพิเศษบ้างหรือไม่
จีจี้: เรารู้สึกว่าเเฟชั่นจากทางฝั่งยุโรปจะมีความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบมาก บางทีเเบบสนุกสุดโต่ง ในขณะที่ทางฝั่งนิวยอร์กมีความเท่ เน้นใส่ได้จริง สำหรับเราแล้วการค้นพบดีไซเนอร์หรือแบรนด์ใหม่ๆ จากทางฝั่งแอฟริกาเป็นอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจมาก เพราะยังมีเเบรนด์อีกมากมายที่สร้างสรรค์ออกมาน่าทึ่งในความเป็นงานศิลปะที่มีหนึ่งเดียว ความเป็น one-of-a-kind สีสัน เทคนิคสิ่งทอแบบแอฟริกันแบบดั้งเดิม ลายผ้าที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ รวมถึงการใช้วัสดุที่มาจากธรรมชาติเเละการเน้นให้ช่างฝีมือท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการผลิต
LIPS: ดีไซเนอร์หรือแบรนด์โปรดของคุณคือใคร หรือแบรนด์ใด เพราะอะไร
จีจี้: เยอะมากค่ะ เราชอบแบรนด์ชุดรีสอร์ท เสื้อผ้าที่มีกลิ่นอายของการเดินทางในวันหยุดและมีลักษณะของงานฝีมือ เช่น งานปัก ผ้าทอมือ ผ้าพิมพ์ลาย กระเป๋าสาน เครื่องประดับที่ทำจากวัสดุที่มาจากธรรมชาติอย่าง Raffia และ Iraca Palm เช่น Etro, Johanna Ortiz, Ulla Johnson, Alix of Bohemia, Vita Kin, Figue, Farm Rio, Rhode, Stella Jean, Escvdo, Cult Gaia, All Things Mochi และ Made For A Woman
นอกจากนี้ยังมีดีไซเนอร์จากทางฝั่งแอฟริกาที่มักจะสร้างแรงบันดาลใจสำหรับการสร้างสรรค์ที่สนุกสนาน เช่น Pepperrow, IAMISIGO, Lisa Folawiyo, Studio 189, Kenneth Ize และ Duro Olowu
LIPS: เล่าถึงการได้ไปนำผลงานไปจัดแสดงที่งาน ARTLIFE FEST 2022 ที่มอสโก ว่าเป็นมาอย่างไร ผลตอบรับและประสบการณ์ที่ได้รับมีอะไรบ้าง
จีจี้: เมื่อปลายปี 2021 เราได้รับการติดต่อมาจาก Anastasia Andreeva (ภัณฑารักษ์ของ The International Interactive Festival of Contemporary Art ARTLIFE) เขาอยากเชิญเราไปเเสดงผลงานร่วมกับศิลปินอื่นๆจากทั่วโลก เราก็ทำ Fashion Illustration ส่งไป 9 งาน โดยมีงานหนึ่งเป็น Handmade Collage จากเเมกกาซีน อีก 8 ชิ้นเป็น Digital Drawing & Collage ในใจตอนนั้นก็รู้สึกตื่นเต้นเเละดีใจกับโอกาสนี้มากเพราะว่าเป็นงานนิทรรศการที่เเรกของเรา
นอกจากนี้ในงาน เรายังได้ทำกิจกรรม เช่น “Let’s make a fashion collage!” ซึ่งเป็น Master Class และ Creative Meeting แบ่งปันประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมา ให้กับคนที่สนใจในสไตล์งานของเราเข้ามาฟังเเละถามคำถามได้ประสบการณ์ครั้งนี้ที่ได้รับนั้นมีคุณค่าเเละความหมายกับชีวิตเรามาก เพราะตลอดการเดินทางที่ได้ทำในสิ่งที่เรารักมันท้าทาย ต้องใช้ความอดทน ความทุ่มเทและการฝึกฝนมาก ซึ่งการได้มีโอกาสไปเเสดงงานที่ ARTLIFE FEST นี้ ทำให้เราได้เจอกับผู้คนที่เข้ามาชื่นชมผลงานของเรา ถ่ายรูปงาน หรือเข้ามาพูดคุยให้ฟีดเเบ็กที่ดีก็ทำให้เราเซอร์ไพรส์และดีใจ ในขณะเดียวกันการได้ทำอะไรใหม่ๆ ออกจากคอมฟอร์ทโซนก็ทำให้เรารู้สึกภูมิใจในตัวเอง เเละรู้สึกว่าการทุ่มเททำสิ่งที่เรารักมันคุ้มค่า ได้เจอเพื่อนใหม่ๆ ที่ต้อนรับเราอย่างอบอุ่น เเละทีมงานที่เป็นมิตร มีสปิริตที่ดีในการทำงานและเต็มที่กับงานนี้มาก เรามีโอกาสได้อยู่ที่งานวันสุดท้ายจนถึงปิดงาน เรารู้เลยว่างานนี้ใช้พลังทีมงานเยอะมาก เเละเห็นทุกคนดูภูมิใจกับงานนี้มากค่ะ
LIPS: สีสัน ลวดลายและฉากหลังตามจินตนาการคือเอกลักษณ์ในงานของคุณ มีกระบวนการคิดและสร้างสรรค์งานแต่ละชิ้นอย่างไร
จีจี้: เราเองมักถูกดึงดูดเข้าหางานที่มีสีสันและลวดลายเสมอ นั่นคงเป็นเหตุผลที่ทำให้เราอยากจะใช้สีสันเพื่อให้งานดูน่าสนใจเป็นพิเศษ กระบวนการคิดงานมันก็เป็นไปตามเรื่องที่เราอยากจะเล่า อยากจะสื่อ อย่างงาน Commission เราจะดูว่าลูกค้าอยากจะเล่าเรื่องอะไร ไปที่ไหน เเรงบันดาลใจสำหรับการออกเเบบคอลเล็กชั่นนั้นคืออะไร ส่วนใหญ่สร้างสรรค์งานแต่ละชิ้นของเรามักจะได้เเรงบันดาลใจจากการเดินทางไปที่สถานที่ที่มีวัฒนธรรมสวยงาม เมืองสีสันสดใสตามจินตนาการของเรา เช่น แอฟริกา อินเดีย เม็กซิโก หรือโมร็อกโก
เราสนุกกับการทดลองใช้ลวดลายกับสีสันมาซ้อนทับกันหลายๆชั้นเป็นฉากหลัง ซึ่งบางทีผลลัพธ์ก็ออกมาเเบบที่เราคาดไม่ถึง บางครั้งก็ใช้ Color Palette จากหนังสือเพื่อหาคู่สีที่น่าสนใจ ทดลองเล่นไปเรื่อยค่ะ สิ่งสำคัญที่เราอยากจะเน้นในการพัฒนางานของเราเสมอๆก็คือ เราอยากสร้างสรรค์ภาพออกมาให้ดูมีชีวิตชีวามากที่สุด หรือคิดเสมอว่าจะทำอย่างไรให้งานเราสนุกเเละมีพลังได้มากกว่านี้อีกค่ะ
LIPS: มีแมสเสจอะไรบ้างที่คุณสอดแทรกในผลงาน
จีจี้: เราอยากสร้างสรรค์งานศิลปะพร้อมกับการส่งเสริมเเละเฉลิมฉลองความสามารถของช่างฝีมือ จุดเริ่มต้นมาจากความสนใจในงานคราฟต์ที่เรารู้สึกว่าเป็นสิ่งพิเศษ เพราะเต็มไปด้วยเอกลักษณ์ ความสวยงามของความไม่เพอร์เฟกต์ และจิตวิญญาณของผู้ที่สร้างมันขึ้นมา เราสนุกกับการผสมผสานความสนใจในงานฝีมือเข้ากับความรักในแฟชั่นและแสดงออกผ่านภาพประกอบแฟชั่นที่สนุกสนาน เรารู้สึกสบายใจที่จะแบ่งปันสิ่งที่เราชื่นชม เราหวังว่าสิ่งที่เราทำจะช่วยสนับสนุนช่างฝีมือท้องถิ่นทั่วโลก ร่วมเเบ่งปันเเรงบันดาลใจให้เเก่กันละกัน
LIPS: แฟชั่นส่งอิทธิพลต่อความเป็นคุณอย่างไรบ้าง เห็นว่าคุณมีสไตล์การแต่งตัวที่มีสีสันและลวดลายเหมือนกับผลงานที่ทำ
จีจี้: ที่ชอบหยิบมาใส่บ่อยๆคือชุดเดรสผ้าแอฟริกัน เราชอบลวดลายที่มีความเป็นเอกลักษณ์โดดเด่น สีสันที่สดใสดูสนุก อิทธิพลต่อความชอบ ศิลปะและแฟชั่นแอฟริกันน่าจะเป็นการถูกห้อมล้อมด้วยศิลปะแอฟริกันในวัยเด็ก เเละหล่อหลอมให้เป็นสไตล์เราในวันนี้
แม่มีอิทธิพลต่อความสนใจในศิลปะแอฟริกันอย่างมาก เธออาศัยอยู่ในกานาเป็นเวลานาน เธอมีร้านตัดเสื้อที่ใช้ผ้าแอฟริกัน เมื่อกลับมาประเทศไทยก็ได้นำศิลปะแอฟริกันกลับมาด้วยมากมาย เสื้อผ้า เครื่องประดับ หน้ากากไม้ เฟอร์นิเจอร์ ผ้าแอฟริกัน และภาพวาดคือของขวัญที่เราได้รับในวันเกิด และนั่นเองก็จุดประกายการสร้างสรรค์งานของเราด้วย
LIPS: การ collaboration กับแบรนด์หรือดีไซเนอร์ต่างๆที่ผ่านมา มีเกณฑ์การคัดเลือกหรือตัดสินใจจะร่วมงานกับแบรนด์ใดๆอย่างไรบ้าง พิจารณาอะไรบ้างก่อนจะ say yes และมีงาน collab ใดที่ประทับใจเป็นพิเศษบ้าง
จีจี้: ส่วนมากแบรนด์หรือดีไซเนอร์ที่ติดต่อเรามา จะเป็นสไตล์ที่ใกล้เคียงกับงานที่เราทำค่ะ มีลักษณะความเป็นงานฝีมือ มีเรื่องราวและแรงบันดาลใจในการออกแบบจากการเดินทาง การพิจารณาก็จะต้องดูเรื่องของระยะเวลาการทำงาน
งานที่ประทับใจเป็นพิเศษคืองานที่มีโอกาสได้ร่วมงานกับ Fashion Illustration Gallery London (FIGA14) โจทย์คือเขาให้เราวาด Fashion illustration คอลเล็กชั่น Spring-Summer 2021 International Read-to-Wear จำนวน 10 รูป เเล้วเขาจะเลือก 5 รูปเพื่อนำภาพไปประมูลออนไลน์ เราก็เข้าไปดูว่าที่ผ่านมาคนอื่นวาดอะไรกัน ที่เห็นคือมีเเต่งานวาดมือสวยๆ จากศิลปินที่เรารู้จักเเละติดตามในไอจี เราไม่แน่ใจว่างานเราจะใช่ไหม เลยตัดสินใจส่งอีเมลกลับไปถามว่า งานเราเป็นเเบบวาดดิจิทัลผสมคอลลาจนะ จะใช่ตรงความต้องการคุณไหม เขาตอบกลับมาว่า “Would they be unique works?” เราก็เข้าใจทันทีเลยว่าสิ่งที่สำคัญก็คือความมีเอกลักษณ์นั่นเอง เลยตอบกลับไปว่า “Of course, they would be unique works!!! “
ตอนนั้นเราทำเต็มที่สุดๆ จำได้ว่าวาดถึงเช้าทุกวัน เพราะเวลาที่มีตอนนั้นกระชั้นมาก เราต้องเผื่อเวลาสำหรับปริ๊นท์ เเล้วต้องส่งอาร์ตเวิร์กไปที่ลอนดอน พอถึงวันที่เริ่มมีการประมูล เราก็นั่งลุ้นว่าจะมีคนชอบงานเราบ้างไหม ดีใจมากๆที่สุดท้ายก็มีคนประมูลไป 3 ชิ้น ก็เลยเป็นประสบการณ์ที่สนุกเเละท้าทายมากงานหนึ่ง
Words: Suphakdipa Poolsap