แนวคิดโลกเป็นศูนย์กลางจักรวาล (Geocentric Model) คือ แนวคิดเก่าแก่ที่มีกำเนิดมาแต่ยุคสมัยของกรีกโบราณ โดยมีนักปราชญ์ในยุคนั้นอย่างอริสโตเติลให้การสนับสนุน แม้ว่าทฤษฎีนี้จะถูกพิสูจน์ และถูกลบล้างไปด้วยวิทยาการทางดาราศาสตร์สมัยใหม่
แต่แล้วจู่ ๆ Greubel Forsey (เกรอเบล ฟอร์ซีย์) ก็สร้างนาฬิกา GMT Balancier Convexe (จีเอ็มที บาเลนเซียร์ คอนแว็กซ์) รุ่นใหม่ที่จัดวางโลกไว้ ณ ศูนย์กลางของเรือนนาฬิการุ่นนี้ มันคือการแทนที่กลไก GMT และคุณสมบัติทั้งหมดในรุ่นก่อนหน้านี้ และเป็นครั้งแรกของการวางตำแหน่ง Balance Wheel (บาลานซ์ วีล) ในมุมเอียงคล้ายการโคจรรอบโลก
ณ ใจกลางนาฬิกา GMT Balancier Convexe ของ Greubel Forsey คือลูกโลกที่ทำจากไทเทเนียม ซึ่งเต็มไปด้วยรายละเอียดของทวีป ทะเล และมหาสมุทร ซึ่งลูกโลกแบบนี้เคยถูกจัดวางลงนาฬิกาตระกูล GMT มาแล้วหลายต่อหลายรุ่น เช่น GMT Earth (จีเอ็มที เอิร์ธ), GMT Quadruple Tourbillon (จีเอ็มที ควอดรูเพิล ทูร์บิยอง) และ GMT Sport (จีเอ็มที สปอร์ต) ในขณะเดียวกัน Greubel Forsey ก็กำลังทุ่มเทพัฒนากลไก Terrestrial Globe (เทอเรสเรียล โกลบ) รุ่นใหม่เพื่อนำมาแทนที่กลไกรุ่นก่อนหน้าด้วย
อัฒจันทร์ของโลก
ลูกโลกถูกจัดวางไว้ตรงศูนย์กลางโครงสร้างตัวเรือนในรูปแบบอัฒจันทร์ ประดับด้วยกระจกหน้าปัดแซฟไฟร์ในระยะประชิด โดยเคลื่อนที่รอบตัวเองทุก ๆ 24 ชั่วโมง เหมือนกับการเคลื่อนที่ของโลกจริง โดยอัฒจันทร์นี้ล้อมรอบด้วยวงแหวน 3 วงสำหรับบอกเวลาชั่วโมง และนาทีตามเวลาท้องถิ่น
การบอกค่าเวลาท้องถิ่นจะอยู่บนวงแหวนรอบนอก 2 วง โดยบอกเวลารายชั่วโมงบนวงเแหวนสีเทาที่ขัดแต่งผิวแบบซาติน และบอกเวลารายนาทีบนวงแหวนรอบนอกสีดำ ในส่วนเข็มนาฬิกาสามเหลี่ยมสีแดงมีการเคลือบสารเรืองแสง ซึ่งเข็มเหล่านี้จะเคลื่อนที่ไปบนวงแหวนทั้ง 2 วง และฟังก์ชันบอกเขตเวลาที่ 2 ด้วยเข็มสีน้ำเงินบนหน้าปัดย่อยตรงตำแหน่ง 10 นาฬิกา
งานผีมืออันเป็นเลิศ
Greubel Forsey คิดค้นการวางตำแหน่งใหม่ให้ balance wheel แบบทำมุมเอียง 30 องศา ซึ่งนั่นทำให้ดูลวงตาเหมือนจักรกรอกชิ้นนี้ลอยอยู่กลางอากาศ แต่จริง ๆ แล้ว balance wheel ถูกยึดไว้กับสะพาน และ barrel (บาร์เรล) บนเสาอีกที ด้านขวามีเข็มวินาทีเล็ก ๆ แบบ Blue Gold เดินเข็มผ่านสะพานจักรไทเทเนียมตรงด้านหลัง ซึ่งถูกขัดแต่งลวดลายผิวน้ำแข็งด้วยมือในแบบที่ Greubel Forsey ก็ไม่เคยผลิตมาก่อน ก็เลยยิ่งทำให้ลูกโลกมีความโดดเด่นมากขึ้นตอนที่มีแสงมาตกระทบ ปิดท้ายด้วยการขัดเงาตัวเรือนด้านในที่สะท้อนรับกับ escapement (เอสเคปเมนท์) ทำให้ทุกดีเทลของลูกโลกมองเห็นได้ชัดเจนทุกมุมมอง
ตัวเรือนโค้งมนมีเอกลักษณ์
การจัดวางองค์ประกอบทั้งหมดที่เรากล่าวมาแล้วนั้น ถูกถ่ายทอดลงในตัวเรือนที่ผลิตจากวัสดุไทเทเนียม ทรงโค้งมน มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางรวมขอบหน้าปัด 46.5 มิลลิเมตร ทำให้โอบรับกับสรีระข้อมืออย่างลงตัว เพิ่มความทนทานให้เรือนเวลาด้วยกระจกหน้าปัดแซฟไฟร์ กับขอบหน้าปัดขัดแต่งลวดลายซาตินที่โค้งรับกัน มาพร้อมตัวเลือกสายนาฬิกา ทั้งแบบไทเทเนียม หรือสายยางปั๊มลาย
Greubel Forsey วางแผนผลิตนาฬิการุ่น GMT Balancier Convexe เพียงปีละ 22 เรือนเท่านั้น (ในช่วงปี 2022-2024)