สำหรับ Hermès นั้น ‘นาฬิกา’ เป็นมากกว่าเครื่องบอกเวลา ด้วยถ่ายทอดโลกแห่งจินตนาการผ่านการรังสรรค์สุดพิถีพิถันในทุกมิติ เช่นเดียวกับเรือนเวลา 4 รูปแบบจาก Hermès Arceau คอลเล็กชั่นนาฬิกาที่คงความน่าอัศจรรย์ดั่งภาพวาดขนาดเล็กบนหน้าปัดนาฬิกาข้อมือ ที่ผสมผสานความลงตัวของผลงานศิลปะและความชำนาญของช่างหัตถศิลป์ ได้ตรงตามดีเอ็นเอของแอร์เมสได้ครบถ้วนทุกประการ
Arceau Wow
เรือนเวลา Arceau Wow (อาร์โซ ว้าว) คงความคิดสร้างสรรค์แบบดั้งเดิมไว้อย่างต่อเนื่องที่เมื่อ 2 ปีก่อน ศิลปินนักวาดหนังสือการ์ตูน อูโก้ เบียนเวนู (Ugo Bienvenu) ได้ร่วมออกแบบผ้าพันคอไหมอันน่าประทับใจให้กับ Hermès และตั้งชื่อให้ว่า ว้าว (Wow) นำเอาจิตวิญญาณของนักขี่ม้าที่เป็นสัญลักษณ์ของเมซง มารังสรรค์ผลงานศิลปะนำพาไปสู่โลกแห่งการ์ตูนได้อย่างน่าอัศจรรย์
งานออกแบบนั้นเริ่มต้นจากการผลิตขึ้นใหม่ด้วยหมึกสีดำ จากนั้น การตกแต่งทั้งหมดของลวดลายเหล่านี้จะถูกวาดขึ้นด้วยมือบนด้านแรก ด้วยเฉดสีพาสเทลหรือสีอ่อนที่ค่อยๆ บรรจงวาดลงทีละสี โดยวาดสีราวๆ 20 ชั้น ทั้งนี้เพื่อนำเอาทุกๆ มิติอันแตกต่างกันแม้เพียงเล็กน้อยของงานออกแบบนี้ให้เผยออกมา
แต่ละชั้นสียังต้องผ่านการเผาภายในเตาไฟที่อุณหภูมิ 90 องศาเซลเซียส เพื่อสร้างความแข็งแรงและทนทานให้กับเม็ดสีอันล้ำค่า จวบจนผลงานที่น่าอัศจรรย์จากความชำนาญของช่างฝีมือและความคิดสร้างสรรค์ของนักออกแบบ ปรากฏเป็นเรือนเวลาซึ่งมอบศิลปะแห่งโลกการ์ตูนให้แก่ผู้สวมใส่
ลวดลายที่บรรจงวาดด้วยมือด้วยเฉดสีพาสเทล มอบมิติความลุ่มลึกให้กับงานออกแบบ ขณะเดียวกันก็บางพอที่จะปล่อยให้แสงส่องผ่านได้ เป็นความสมดุลอันลุ่มลึกละเอียดอ่อนที่ต้องอาศัยงานหัตถศิลป์อันเชี่ยวชาญและประณีตสูงสุด
Arceau Les folies du ciel
เรือนเวลารุ่น Arceau Les folies du ciel (อาร์โซ เล ฟอลี ดู เซียล) ที่ได้ผสมผสานความงดงามของภาพวาด งานแกะสลัก และการเคลื่อนไหวอย่างมีชีวิตชีวา สู่การสร้างสรรค์องค์ประกอบอันมีเอกลักษณ์เฉพาะหนึ่งเดียว ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากลวดลายโดดเด่นบนผืนผ้าพันคอไหม เล ฟอลี ดู เซียล ของลออิก ดูบิเจียน (Loic Dubigeon) ซึ่งออกแบบขึ้นในปี ค.ศ. 1984 เพื่อเป็นเกียรติแก่วิทยาศาสตร์และการศึกษาเกี่ยวกับอากาศธาตุ โดยถ่ายทอดถึงช่วงเวลาในยุคแรกเริ่มเหล่านั้น ระหว่างพื้นดินและอากาศ ระหว่างความฝันและความจริง
เผยความงดงามวิจิตรบนหน้าปัดเปลือกหอยมุกด้วยพื้นผิวเหลือบสี ที่สามารถมองเห็นได้ผ่านควันอันบางเบาที่ปล่อยออกจากปล่องไฟ ณ ตำแหน่ง 12 นาฬิกาเป็นรูปฮอตแอร์บอลลูนสีชมพูนีโอราไลต์และสีเขียว 2 ลำที่โบยบินไปตามคลื่นสายลม ซึ่งวาดขึ้นด้วยมือและนำมาติดบนหน้าปัด และสามารถหมุนอยู่บนแกนในจังหวะเดียวกันกับการเคลื่อนไหวของข้อมือผู้สวมใส่ แสดงออกถึงความบางเบา และมอบซึ่งสัมผัสอันเหนือจินตนาการที่เป็นดั่งต้นตำรับในผลงานสร้างสรรค์ของเมซง
แต่ละพื้นผิวของเรือนเวลา Arceau Les folies du ciel ผ่านการขัดเงาด้วยมือเพื่อมอบซึ่งรัศมีแห่งประกายแสงอันเจิดจรัส ราวกับล่องลอยเหนือขึ้นไปบนฉากอันมีชีวิตชีวา
Arceau Hermès Story Marquetry
เรือนเวลา Arceau Hermès Story Marquetry (อาร์โซ แอร์เมส สตอรี มาร์เกอตรี) สะท้อนถึงการเดินทางผ่านทุ่งหญ้าสะวันนา เสียงโจษจันที่กระซิบอย่างแผ่วเบาผ่านพรรณไม้เลื้อย และสายลมโชยซึ่งกวาดกระเพื่อมไปทั่วทั้งผืนหญ้าอันไร้พรมแดน ช่างทำนาฬิกาแห่งแอร์เมสหรือแอร์เมส ออร์โลเฌอร์ (Hermès Horloger) เผยโฉมเรือนเวลารุ่นใหม่ที่เชื่อมโยงถึงชีวิต การเล่น และจินตนาการ พร้อมทั้งแสดงออกถึงความเชี่ยวชาญอันแสนพิเศษ กับการผจญภัยครั้งใหม่ในผืนป่าแห่งการประดิษฐ์รังสรรค์เรือนเวลา
ผลงาน อาร์โซ แอร์เมส สตอรี มาร์เกอตรี ได้ถ่ายทอดภาพความโดดเด่นอันเป็นหัวใจของเหล่าสัตว์อันแสนวิเศษเหล่านี้ การสร้างสรรค์ผลงานศิลปะผ่านเสือที่ประกอบขึ้นจากงานต่อลายไม้ มอบความน่าอัศจรรย์ราวกับผลงานที่มีชีวิตพร้อมด้วยดวงตาเทอร์ควอยซ์นี้ได้ผสมผสานขึ้นจากไม้พลัม ทิวลิปวูด มะกอกเทา เมเปิ้ล และไซคามอร์หรือไม้ตระกูลมะเดื่อ รวมแล้วถึง 290 ชิ้นที่ถูกตัดอย่างพิถีพิถัน พร้อมทั้งย้อมสีและประกอบเข้าด้วยกันทีละชิ้น ลำพังเสือตัวเดียวนั้นจำเป็นต้องใช้เวลารังสรรค์ถึง 5 วัน เพื่อมอบซึ่งความเสมือนจริงและความลุ่มลึกมีมิติของรายละเอียดทั้งหมด
Arceau Hermès Story Marquetry เล่นกับเวลาและการก้าวอยู่เหนือแฟชั่นที่โลกแห่งดิจิทัลทั้งหมดได้ล้วนแสดงออกผ่านทักษะเชิงศิลป์อันเก่าแก่ ที่ซึ่งสิ่วสลักและปากกาตัดไม้ได้ครองอำนาจสูงสุด รวมถึงมวลมิติของทองที่สลักรูปด้วยมืออย่างประณีต
Arceau Hermès Story Mother of Pearl
เรือนเวลา Arceau Hermès Story Mother of Pearl (อาร์โซ แอร์เมส สตอรี มาเทอร์ ออฟ เพิร์ล) ถือกำเนิดขึ้นจากลวดลายดินสอสีของนักออกแบบชาวอังกฤษ จอห์น เบอร์ตัน (John Burton) ผู้ซึ่งได้ออกแบบผ้าพันคอไหม แอร์เมส สตอรี (Hermès Story) ในคอกเล็คชั่นฤดูใบไม้ผลิ-ฤดูร้อน 2022
โดยในผลงานชิ้นนี้ เขาได้ตีความใหม่ให้กับการใช้โซเชียลมีเดียต่างๆ ด้วยศิลปะหนึ่งเดียวของการสร้างฉากที่นำมาสู่อาณาจักรเหนือจินตนาการ สร้างอารมณ์สนุกสนานและขบขันด้วยการที่สัตว์เหล่านั้นกำลังเซลฟีหรือถ่ายภาพของตนเอง เช่น ยีราฟที่ผูกหูกระต่ายอย่างหรูหรา นกทูแคนสวมหมวกทรงสูง และเต่ากับหมวกใบโปรด และ ณ ใจกลางของฉาก ยังมีเจ้าหญิงที่ปรากฏโฉมบนม้าไม้
เรือนเวลา อาร์โซ แอร์เมส สตอรี (Hermès Story) ถ่ายทอดผ่านการวาดภาพย่อส่วนบนเปลือกหอยมุก ผสมผสานหลากหลายขั้นตอนของการเคลือบเงา ขัดเงา และขัดเรียบด้วยมือ โดยการตกแต่งด้วยชั้นต่างๆ ถึง 20 ชั้นหรือมากกว่าระหว่างสีสันอันหลากหลาย ที่ออกแบบขึ้นเพื่อเผยเฉดสีที่แตกต่างกันแม้เพียงเล็กน้อย และมอบภาพของแสงสะท้อนอันแวววาวระยิบระยับสะกดสายตา ซึ่งขั้นตอนนี้ใช้เวลาทำ 8 วัน และตามมาด้วยขั้นตอนของการเผาภายในเตาอีกเล็กน้อย ก่อนที่ภาพบรรยากาศชานเมืองอันเต็มเปี่ยมไปด้วยเรื่องราวแห่งความมีชีวิตชีวาจะเผยตัวออกมา
ลวดลายนักขี่ผู้สง่างามบนม้าไม้ประดับอัสสาภรณ์ พร้อมฝูงสัตว์ประจำถิ่นหลากหลายชนิด บนหน้าปัดเปลือกหอยมุกของเรือนเวลา Arceau Hermès Story Mother of Pearl
Words: Ayu Kulahathai