หากในอุตสาหกรรมภาพยนตร์มีงาน ‘ออสการ์’ หรืองานประกาศผลรางวัลด้านภาพยนตร์ที่สำคัญที่สุดในโลก ในอุตสาหกรรมแฟชั่นและแวดวงดีไซน์เราก็คงต้องขอมอบมงให้ ‘Met Gala’ งานอีเวนต์แฟชั่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่รวบรวมเหล่าเซเลบริตี้ระดับเอลิสต์มาไว้ในงานนี้อย่างคับคั่ง ซึ่งผลที่พลอยได้ก็คืองานนี้กลายเป็นหนึ่งในกลไกขับเคลื่อนที่สำคัญต่อวงการแฟชั่นและแวดวงสร้างสรรค์ทั่วโลก แถมยังเป็นแรงบันดาลใจชั้นดีให้กับสายแฟทั่วโลกในการหยิบยกการแต่งกายของเหล่าเซเลบริตี้ในงานนี้มา Reference ในการแต่งตัว
ซึ่งในปีนี้แขกที่เป็นเหล่าเซเลบริตี้ระดับ A-List มาร่วมงานเยอะมากๆ ทำให้งาน Met Gala ปีนี้กลับมาน่าสนใจและเป็นที่พูดถึงอย่างล้นหลามจากผู้คนทั่วโลก อาจเป็นเพราะว่าปีนี้เป็นการกลับมาจัดงาน Met Gala ตามตารางเดิมก็คือวันจันทร์แรกของเดือนพฤษภาคมต่างจากปีก่อนที่จัดขึ้นในเดือนกันยายนชนกับตารางงานของเหล่าเซเลบริตี้ตัวแม่ทำให้พวกเธอติดงานมาร่วมงานไม่ได้หลายคน Met Gala 2022 เราจึงเห็นเหล่าเซเลบตัวแม่ตัวพ่อตบเท้าเข้างานกันอย่างไม่ขาดสายอย่างเช่น Kadarshian Family, Blake Lively, Nicki Minaj, Katy Perry, Billie Eilish รวมไปถึง Sarah Jessica Parker ที่เป็นแขกประจำของงานนี้
How Important is the Met Gala ?
ภาพจำของใครหลายๆ คนในงาน Met Gala ทุกๆ ปีเราจะเห็นนักแสดง นักร้อง แฟชั่นไอคอน นางแบบมากมายแต่งตัวด้วยชุดราตรีสุดครีเอทีฟจากแบรนด์แฟชั่นชั้นนำต่างๆ มาประชันโฉมกันแบบไม่มีใครยอมใคร แต่ความจริงแล้วจุดประสงค์ของงานนี้ไม่ได้เป็นเพียงพื้นที่ในการสร้างสเตทเมนต์ให้กับเหล่าคนดังและแบรนด์แฟชั่นแบรนด์เท่านั้น แต่จุดประสงค์หลักของงานนี้เป็นงานเลี้ยงที่จัดขึ้นเพื่อระดมทุนให้กับแผนกแฟชั่นของพิพิธภัณฑ์ศิลปะ ‘Metropolitan’ หรือ ‘พิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิทัน’ หนึ่งในพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ดีที่สุดของโลก
Metropolitan Museum of Art คือชื่อเต็มๆ ของพิพิธภัณฑ์นี้แต่เราขอเรียกสั้นๆ ว่า ‘The Met’ เพื่อความกระชับ พิพิธภัณฑ์ศิลปะใจกลางกรุงนิวยอร์กแห่งนี้ได้กลายมาเป็นสถานที่ที่มีความผูกพันกับวงการแฟชั่นเป็นอย่างมากสาเหตุเป็นเพราะเป็นสถานที่จัดงาน Met Gala นั่นเอง และงานออสการ์แห่งวงการแฟชั่นนี้ก็ถือเป็นงานเปิดตัวนิทรรศการของแผนกแฟชั่นพิพิธภัณฑ์แห่งนี้อีกด้วยซึ่งในปีนี้นิทรรศการมาในชื่อเดียวกันกับธีมของงาน Met Gala นั่นก็คือ ‘In America: An Anthology of Fashion’
ซึ่งงาน Met Gala หรือ Met Ball จะจัดขึ้นทุกวันจันทร์แรกของเดือนพฤษภาคมตั้งแต่ปี 1948 โดย ‘Eleanor Lambert’ นักประชาสัมพันธ์แฟชั่นผู้อยู่เบื้องหลังโปรเจกต์แฟชั่นใหญ่ของสหรัฐฯ เพื่อระดมทุนให้กับแผนกแฟชั่นของพิพิธภัณฑ์ศิลปะ Metropolitan ซึ่งระดมทุนได้เป็นหลักสิบล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งในปี 2018 สามารถระดมทุนได้มากกว่า 13.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมาจากราคาบัตรและการประมูลต่างๆ ที่เกิดขึ้นภายในงาน
Theme of Met Gala
ในปี 2022 นี้งาน Met Gala มาในชื่อธีม In America: An Anthology of Fashion ซึ่งเป็นธีมที่ต่อเนื่องมาจากธีมงาน Met Gala 2021 ที่ผ่านมาอย่าง In America: A Lexicon of Fashion ซึ่งสองปีนี้ธีมงานและนิทรรศการในแผนกแฟชั่นของ The Met นั้นโฟกัสไปในเรื่องของแฟชั่นในประวัติศาสตร์ของประเทศสหรัฐฯ และช่วยสนับสนุนวงการแฟชั่นฝั่งอเมริกาที่อาจได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 เราจะเห็นได้จากการที่มีคำว่า “In America” นำหน้าเอาไว้โดยมีจุดประสงค์เพื่อเชิดชูวงการแฟชั่นฝั่งอเมริกัน
In America: An Anthology of Fashion นั้นจะถูกจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 7 พฤษภาคม – 5 กันยายนในปีนี้ โดยจัดขึ้นด้วยความร่วมมือกับ The Met’s American Wing ซึ่งเป็นคอลเลคชั่นหนึ่งที่จัดแสดงเรื่องราวบนผืนแผ่นดินอเมริกันตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 17-19 โดยนิทรรศการนี้จะบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการแต่งตัวที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกาในยุค Gilded Age ซึ่งเป็นช่วงปี 1870-1890 ซึ่งเป็นยุคทองของสหรัฐอเมริกาที่มีการเปลี่ยนแปลงมากมายซึ่งนำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่อเมริกา และจะถูกจัดขึ้นภายในห้องจัดแสดง ‘American Wing Period Rooms’
ธีมของงาน Met Gala นั้นจะขึ้นอยู่กับนิทรรศการที่จะถูกจัดขึ้นโดย Costume Insitute ซึ่งธีมของงานนั้นจะเป็นตัวกำหนด Dress Code ให้กับเหล่าแขกที่ผู้ที่ได้รับเชิญให้แต่งกายให้เหมาะสมและเข้ากับธีมของแต่ละปี เราขอยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดอย่าง Met Gala 2017 ที่มีธีมงานคือ ‘Rei Kawakubo/Comme des Garçons’ ทำให้เหล่าเซเลบที่เข้าร่วมงานนั้นสวมเสื้อผ้าที่มีสีสันสดใสและมีดีไซน์สุดล้ำสมัยซึ่งสอดคล้องกับผลงานการออกแบบของ Rei Kawakubo นักออกแบบแฟชั่นชาวญี่ปุ่นเจ้าของแบรนด์ Comme des Garçons เช่น Rihanna ที่สวมชุดจาก Comme des Garçons คอลเลคชั่น Autumn/Winter 2016 เพื่อเป็นการให้เกียรติธีมของงาน
A Process of Met Gala
การที่เราจะเข้าร่วมงาน Met Gala ได้นั้นเราจะต้องมีบัตรสำหรับงานนี้ซึ่งสนนราคาอยู่ที่ 30,000 เหรียญสหรัฐฯ และราคาต่อโต๊ะอยู่ที่ 275,000 เหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเงินทั้งหมดจากการจำหน่ายบัตรของงาน Met Gala นั้นจะถูกบริจาคเข้าสู่แผนกแฟชั่นของพิพิธภัณฑ์ศิลปะของ The Met เป็นเพราะว่าแผนกแฟชั่นเป็นแผนกเดียวของพิพิธภัณฑ์นี้ที่ต้องหาทุนมาสนับสนุนตัวเอง แต่ค่าใช้จ่ายในการจัดงานต่างๆ เช่น งานเลี้ยงสังสรรค์ และการจัดงานนิทรรศการของงานจะมีสปอนเซอร์มาดูแลซึ่งในปีนี้ได้บริษัทโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่อย่าง Instagram มาเป็นสปอนเซอร์หลักในค่ำคืนนี้
ซึ่งแม่งานใหญ่ผู้จัดงาน Met Gala จนทำให้งานนี้กลายเป็นกระแส Break the Internet ภายในชั่วข้ามคืนก็คือ ‘Anna Wintour’ บรรณาธิการบริหารของนิตยสาร Vogue Us ซึ่งเธอรับช่วงต่อจากมาดาม Eleanor ผู้ล่วงลับแต่ในแต่ละปีงานนี้ก็จะมีประธานกิตติมศักดิ์ที่มาร่วมจัดงานอีกด้วยยกตัวอย่างเช่น Karl Lagerfeld และ Gianni Versace เป็นแฟชั่นดีไซเนอร์กลุ่มแรกที่ได้รับเลือกให้เป็นประธานร่วมกิตติมศักดิ์ในปี 1995 โดยในปีนี้ได้แฟชั่นดีไซเนอร์ชาวอเมริกันอย่าง Tom Ford และ Adam Mosseri มาเป็นประธานร่วมกิตติมศักดิ์ ร่วมจัดงาน ส่วน Co-Chairs ในปีนี้ก็ประกอบไปด้วย Regina King, Blake Lively, Ryan Reynolds และ Lin-Manuel
ทำให้ถึงแม้จะมีการจำหน่ายบัตรแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเหล่าเซเลบริตี้ที่เราเห็นเดินพรมแดงนั้นจะต้องซื้อบัตรเพื่อเข้าร่วมงานด้วยตัวเอง แต่อาจจะเป็นการที่แบรนด์ต่างๆ มักจะเชิญคนดังมาแต่งชุดของตัวเอง และนั่งโต๊ะของทางแบรนด์ แต่ในบางปีดีไซเนอร์หน้าใหม่ที่มีผลงานโดดเด่นก็อาจถูกเชิญมางานโดยประธานจัดงานแบบไม่ต้องเสียเงินซื้อบัตรด้วยซ้ำ เช่น Peter Do ดีไซเนอร์ชาวอเมริกันสัญชาติเวียดนามก็ควง Johnny NCT ไปร่วมงานนี้ในฐานะแฟชั่นดีไซเนอร์กับ Muse ของแบรนด์
What Happens at the Met Gala?
โดยปกติสิ่งที่เกิดขึ้นภายในงาน Met Gala นั้นล้วนเป็นความลับจึงเป็นที่มาของกฎที่แขกในงานจะต้องงดใช้โทรศัพท์มือถือซึ่งหมายความว่าพวกเขาจะต้องงดการเล่นโซเชียลมีเดียด้วย แต่กฎเหล่านั้นก็ถูกทำลายลงด้วยกลุ่มคนดังที่โพสต์ภาพสูบบุหรี่ภายในห้องน้ำที่ The Met ในงานนี้เมื่อปี 2017 ซึ่งไม่แปลกเลยเพราะงานนี้มักเต็มไปด้วยเหล่าเซเลบริตี้ระดับโลกที่เมื่อเดินพรมแดงเสร็จพวกเขาก็จะเดินดูนิทรรศการ พูดคุย เข้าห้องน้ำ ก่อนที่จะไปจบลงที่โต๊ะรับประทานอาหารค่ำ ก่อนปิดท้ายด้วยงาน After Party
ทำให้พวกเขาและบรรดาแขกในงานคนอื่นๆ อยากถ่ายภาพและวิดีโอเพื่อบันทึกความทรงจำอันน่าประทับใจที่ยากจะลืมเลือนและโพสต์ภาพลงโซเชียลมีเดียเพื่อบันทึกมันเอาไว้ แต่เราว่าการที่มีภาพเบื้องหลังเหล่านี้ยิ่งทำให้เอนเกจเมนต์ของงานนี้พุ่งสูงและสร้างกระแสหลังจบงานได้เป็นอย่างดี นี่เป็นสาเหตุว่าทำไมงานเลี้ยงเก่าแก่ที่จัดมาร่วม 75 ปีนี้ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องและล้นหลามเป็นเพราะการปรับตัวของงานที่ทันโลกทันสมัยทำให้ Met Gala ยังคงเป็นอีเวนต์แฟชั่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกจนถึงทุกวันนี้