หลายๆ คนอาจจะมองว่าแฟชั่นนั้นเป็นสิ่งที่ไกลตัวและไม่สำคัญกับชีวิตของพวกเขาอย่างเช่น Andrea Sachs ตัวละครหลักในหนังเรื่อง The Devil Wears Prada เห็นได้จากฉากที่เป็นจุดเปลี่ยนของเรื่องอย่างฉากเข็มขัดในตำนาน เรื่องราวมีอยู่ว่าระหว่างที่ Miranda Priestly บรรณาธิการบริหารของนิตยสาร Run Way กำลังเลือกเข็มขัดสองเส้นเพื่อไปถ่ายแฟชั่นเซตอยู่ Andrea ก็เกิดหัวเราะขึ้นมาเพราะเข็มขัดสองเส้นนั้นมีลักษณะที่เหมือนกันมาก ทำให้ Miranda นั้นต่อว่าและสอนเธอว่าอุตสาหกรรมแฟชั่นนั้นสำคัญกับโลกของเรามากมันอาจหมายถึงคนอีกหลายล้านคนและเม็ดเงินอีกมหาศาล
เราขอขยายความเพิ่มว่าเสื้อผ้านั้นสำคัญกับการดำรงชีวิตของเรามากๆ นอกจากเป็นเครื่องนุ่งห่มหนึ่งในปัจจัยสี่ของมนุษย์ที่ให้ความอบอุ่นและปกป้องร่างกายจากอันตรายต่างๆ แล้วเสื้อผ้านั้นยังเป็นสัญญะที่สามารถแสดงความหมายได้ เช่น อารมณ์ วัย อาชีพ บุคลิก ยุคสมัย รวมถึงไปถึงภูมิหลัง เป็นเพราะว่ามนุษย์นั้นเลือกสวมใส่เสื้อผ้าเพื่อในการแสดงสถานะทางสังคม และบ่งบอกถึงตัวตน ความคิด และรสนิยมของเขาพวกเขา ทำให้เสื้อผ้าหรือเครื่องแต่งกายนั้นเป็นสิ่งสำคัญและอยู่คู่กับวิถีชีวิตของมนุษย์มาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยโบราณ
ในหน้าประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติเราจะเห็นถึงพัฒนาการของเสื้อผ้าของเสื้อผ้าตลอดมาโดยเฉพาะช่วงเวลา 100 ปีที่ผ่านมาที่เราจะเห็นได้ถึงความแตกต่างและวิวัฒนาการของการแต่งกายมนุษย์อย่างชัดเจน สอดคล้องกับกระแสโลกาภิวัตน์หรือการเชื่องโยงของผู้คนทั่วโลกที่ทำให้มนุษย์นั้นบัญญัติคำที่เรียกว่าแฟชั่นขึ้นมา แล้วแฟชั่นนี้เองก็ก่อกำเนิดชุดหลายๆ ชุดบนโลกที่เราเรียกว่า ‘Imapacted Dress’ หรือชุดที่เปลี่ยนวิถีการแต่งตัวของมนุษย์ไปตลอดกาล เพราะชุดเหล่านี้ได้ทำการก้าวข้ามและทลายขอบเขตอะไรบางอย่างของการแต่งกายของมนุษย์ วันนี้เรารวบชุดอันทรงพลังเหล่านี้มาให้แล้วไปดูกัน!
Coco Chanel Pants
‘Gabrielle Coco Chanel’ หรือ ‘Coco Chanel’ เป็นหนึ่งในแฟชั่นดีไซเนอร์ที่ทรงอิทธิพลและโดดเด่นที่สุดในยุค 20s เพราะเธอคือดีไซเนอร์ที่มีมุมมองแฟชั่นต่างออกจากนักออกแบบเสื้อผ้าคนอื่นๆ ในยุคนั้น ด้วยอุดมคติทางแฟชั่นที่ยึดถือความอิสระและการเคลื่อนไหวของผู้หญิงเป็นที่ตั้ง ทำให้เธอปลดแอกผู้หญิงด้วยการสร้างสไตล์การแต่งตัวแบบใหม่ๆ เพื่อให้ผู้หญิงนั้นหลุดพ้นจากคอร์เซ็ทและผ้าลูกไม้ผ่านผลงานการออกแบบที่เธอครีเอตขึ้นอย่าง Little Black Dress รวมไปถึงกางเกงขากว้างที่เราจะมาพูดถึงกันในวันนี้
เธอไม่ใช่คนที่คิดค้นกางเกงขึ้นมาเพราะว่ากางเกงนั้นเป็นเครื่องแต่งกายสำหรับผู้ชายมาหลายศตวรรษก่อนหน้านั้นแล้ว แต่เธอเป็นผู้ริเริ่มที่จะสวมมันและทำให้กางเกงนั้นกลายเป็นเป็นวิถีการแต่งกายของผู้หญิงในสมัยนั้นซึ่งปกติผู้หญิงมักจะต้องใส่กระโปรงตามธรรมเนียมของสังคม ความขบถของเธอเกิดขึ้นครั้งแรกในปี 1918 เมื่อเธอสวม ‘Beach Pajamas’ การใส่กางเกงขากว้างทรงตรงแบบทหารเรือจับคู่กับเสื้อเชิ้ตโอเวอร์ไซส์และเสื้อแขนกุด ทำให้กางเกงนั้นกลายเป็นไอเท็มยอดนิยมในของผู้หญิงตั้งแต่ช่วงกลางปี 1920s และกลายเป็นสไตล์สุดคลาสสิคเป็นต้นมาจนถึงทุกวันนี้
Schiaparelli Shocking Pink Dress
มาต่อกันที่นักออกแบบคนต่อมาอย่าง ‘Elsa Schiaparelli’ ดีไซเนอร์หญิงชาวอิตาลีคู่แข่งคนสำคัญของ Coco Chanel เธอมีผลงานการออกแบบอันสุดโดดเด่นด้วยสไตล์แบบ Surrealism จนได้ฉายาว่า “ศิลปินผู้ทำเสื้อผ้า” เพราะเธอที่มักได้แรงบันดาลใจจากงานศิลปะแบบ Surrealism นำมารื้อสร้างและประกอบใหม่จนกลายเป็นเสื้อผ้าชั้นสูง สาเหตุหนึ่งอาจเป็นเพราะเธอมีความสนใจในงานศิลปะและอยู่ในแวดวงสังคมที่มีเพื่อนหลายๆ คนเป็นศิลปินระดับโลกแขนงนี้
ในยุคนั้นงานออกแบบสุดล้ำของเธอทำให้ผู้คนในสมัยนั้นเกิดการตั้งคำถามกับผลงานการออกแบบของเธอโดยเฉพาะการหยิบสีสันอันแปลกใหม่มาใช้ในเครื่องแต่งกายอย่างสี ‘Shocking Pink’ เฉดสีอันเป็นเอกลักษณ์ของเธอที่เธอคิดค้นขึ้นมาจนกลายเป็นอีกเฉดสีที่นิยมใช้ในวงการแฟชั่นจนถึงปัจจุบันและเป็นเฉดสีประจำแบรนด์นี้ด้วย แต่ในตอนนั้นการใช้สีนี้คือถือว่ากล้าและบ้าเป็นอย่างมากเรียกว่าความสุดโต่งของเธอนั้นทำให้แบรนด์ Schiaparelli นั้นไม่ได้รับความนิยมจนปิดตัวลง แต่ผลงานของเธอและสี Shocking Pink ที่เธอได้ทิ้งไว้ให้กับโลกใบนี้ได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อวงการแฟชั่นและวิถีการแต่งตัวของเราจนถึงทุกวันนี้
Dior New Look
‘Christian Dior’ เป็นอีกหนึ่งในดีไซเนอร์ผู้เปลี่ยนขนบการแต่งกายของผู้หญิงไปตลอดกาล แฟชั่นดีไซเนอร์ชาวฝรั่งเศสคนนี้ได้สร้าง ‘Dior New Look’ ขึ้นมาเพื่อเปลี่ยนรูปแบบการแต่งกายของผู้หญิงไปอย่างสิ้นเชิงและยังคงเป็นสไตล์การแต่งตัวที่ยังคงส่งต่อมาจนถึงปัจจุบัน ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 1947 วันเปิดตัวคอลเลคชั่นแรกของเขา ไม่มีใครคาดคิดแม้แต่ตัวของเขาเองว่าคอลเลคชั่นเปิดตัวนี้จะประสบความสำเร็จจนกลายเป็นกระแสไปทั่ววงการแฟชั่นตอนนั้น
ซิลูเอ็ตต์กว่า 90 แบบที่ถูกปล่อยมาในคอลเลคชั่นนี้ถูกรังสรรค์ขึ้นมาเพื่อเยียวยาผู้หญิงด้วยแฟชั่นหลังจากพวกเธอต้องแบบรับภาระอันหนักหน่วงจากสงครามโลกครั้งที่สอง ที่ทำให้พวกเธอต้องแต่งตัวเรียบง่ายและแสนจะธรรมดา Dior New Look คือสิ่งที่ถูกที่ถูกเวลามันจึงทำให้ชื่อของนักออกแบบคนนี้กระฉ่อนไปทั่วโลก แม้ว่าจะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า Dior New Look เป็นชุดที่จำกัดการเคลื่อนไหวของผู้หญิง แต่การที่แบรนด์หรูนี้อยู่คู่กับโลกแฟชั่นมาอย่างยาวนานและกลายเป็นแบรนด์แฟชั่นอันดับต้นๆ ของโลก พิสูจน์ให้เห็นว่าผู้คนชื่นชอบมันมากแค่ไหน
Yves Siant Luarent Le Smoking
อุตสาหกรรมแฟชั่นยังคงเดินหน้าต่อไปอย่างรวดเร็วจนถึงช่วงปี 1960s ยุครุ่งเรืองของแฟชั่นดีไซเนอร์นามว่า ‘Yves Siant Luarent’ ในยุคนี้ผู้หญิงเริ่มมีสิทธิมากขึ้นมากกว่าผู้หญิงยุคก่อนๆ แต่ขนบสังคมก็ยังบังคับให้พวกเธอต้องใส่กระโปรงเพราะคิดว่าสุภาพกว่ากางเกง ทว่าก็มีผู้หญิงหลายๆ คนที่มีวิถีชีวิตที่อิสรเสรี พวกเธอต้องการความคล่องแคล่วว่องไว และไม่ใช่ทุกคนที่มั่นใจในการใส่กระโปรง ในปี 1966 Yves Saint Laurent จึงทลายขนบสังคมนั้นด้วยการนำทักซิโด้ของผู้ชายมาให้ผู้หญิงใส่เรียกว่าชุด ‘Le Smoking’
ในตอนนั้น Le Smoking ได้รับกระแสตอบรับทั้งในแง่บวกและลบ ผู้หญิงหลายคนได้รับการปฏิเสธไม่ให้เข้าร้านอาหารและถูกตำรวจจับเพราะความไม่สุภาพจากการสวมชุดสูทแบบผู้ชาย แต่ด้วยความแปลกใหม่ในช่วงเวลานั้นและเพศวิถีที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัยทำให้ลุคนี้กลายเป็นที่นิยมสำหรับสาวหัวสมัยใหม่ที่เชื่อในความเท่าเทียมและความคล่องแคล่วของผู้หญิง ทำให้ปัจจุบันนี้ Le Smoking ก็ได้กลายมาเป็นที่นิยมของผู้หญิงจนเกิดเป็นเทรนด์อื่นๆ ตามมาอีกมากมายยกตัวอย่างเช่น Power Suit
Calvin Klein Jeans
หากพูดถึงแบรนด์ ‘Calvin Klein’ นอกจากชุดชั้นในแล้วอีกไอเท็มที่โดดเด่นไม่แพ้ก็ต้องยกให้ ‘กางเกงยีนส์’ อเมริกันแฟชั่นดีไซเนอร์คนนี้คือผู้เปิดประตูให้ไอเท็มสุดแคชชวลหรือกางเกงสำหรับทำงานอย่างกางเกงยีนส์มาสู่โลกของไฮแฟชั่นอย่างเต็มตัวจนกลายเป็นไอเท็มชิ้นเบสิคที่ใครก็ต้องมีติดตู้เสื้อผ้าไว้ ต้องบอกก่อนว่า Calvin ไม่ใช่คนที่คิดค้นกางเกงชนิดนี้ขึ้นมาหรอกนะ เพราะมันเกิดขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 16-17 ณ เมืองเจนัว ประเทศอิตาลี ซึ่งแต่ก่อนคำว่ายีนส์เป็นชื่อเรียกชนิดของผ้าที่เอามาตัดเย็บชุดต่างๆ เท่านั้นไม่ได้เป็นคำเรียกเครื่องแต่งกายเหมือนทุกวันนี้
ด้วยความผ้าชนิดนี้มีความคงทนเป็นอย่างมากและมีราคาที่ถูกมาก ทำให้กางเกงยีนส์กลายเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ใช้แรงงานในปี 1910-1940s แต่ยีนส์กลับถูกมองเหยียดจากเหล่าชนชั้นสูงที่มองว่ายีนส์คือเครื่องแต่งกายของคนชนชั้นแรงงานเท่านั้น หลังจากนั้นยีนส์ก็ค่อยๆ กลายเป็นไอเท็มที่เป็นที่นิยมมากขึ้นแต่ก็นิยมอยู่ในเฉพาะผู้ชายเท่านั้นจนในปี 1976 แฟชั่นดีไซเนอร์นามว่า Calvin Klein ได้ลบทุกกรอบที่ครอบไอเท็มชิ้นนี้ออกไปและทำให้มันกลายเป็นไอเท็มที่มีในทุกๆ พื้นที่ของวงการแฟชั่นทั้งชายและหญิง หรือตั้งแต่แฟชั่นรวดเร็วไปจนถึงแฟชั่นชั้นสูงบวกกับโฆษณาอันสุดเย้ายวนและการเย็บชื่อแบรนด์ไว้บนกระเป๋าที่บั้นท้ายทำให้ไอเท็มนี้กลายเป็นไอเท็มที่ทุกคนต้องมีติดตู้ไว้