เตย-ณัชชา เมฆรักษาวานิช ดีไซน์เนอร์สาวแถวหน้าของวงการแฟชั่นไทยรุ่นใหม่ ที่ประสบความสำเร็จได้รับความนิยมจากทั้งในประเทศไทยและในต่างประเทศ ด้วยความโดดเด่นของงานออกแบบและสไตล์อันโดดเด่นเฉพาะตัวที่ใส่กลิ่นอายและตัวตนของเธอลงไปในกระเป๋า Nasha Made-in-Mars ได้อย่างลงตัว
Nasha Made-in-Mars คอลเล็กชั่น “Migration”ยังคงไว้ซึ่งคอนเซ็ปต์เดิมนั่นคือการนำเอาดีไซน์ที่หยิบยกเอารูปทรงและรายละเอียดของงานดีไซน์มาจากสิ่งใกล้ตัวที่เราน่าจะคุ้นตากันมาเป็นอย่างดี จากความสำเร็จอย่างสูงไปกับกระเป๋าใบฮิตในรูปทรงของ “ปิ่นโต” ในคอลเล็กชั่นก่อนหน้า มาในคอลเล็กชั่นนี้ Nasha Made-in-Mars ยังหยิบเอากิมมิกของงานดีไซน์เก๋ๆ ที่ได้จากสิ่งของและประสบการณ์ร่วมส่วนตัวของดีไซเนอร์เอง โดยที่ครั้งนี้ เตย-ณัชชา เมฆรักษาวานิช เลือกหยิบเอาปทรงและรายละเอียดของแจกันและเครื่องปั้นดินเผาของจีน จากยุคราชวงศ์หมิง ในช่วงศตวรรษที่ 14-17 ที่คุ้นชินตาในบ้านของคหบดียุคเก่า มาผสมผสานเข้ากับรูปทรงของ Food Container พร้อมหยิบยกเอาจุดเด่นและสีสันของอาหารสัญชาติต่างๆ มาใส่ไว้ในงานดีไซน์กระเป๋าที่ไม่ซ้ำใครในครั้งนี้ด้วย
โดยในคอลเล็กชั่น “Migration” นี้ เปิดตัวด้วยอาหารสีสันสดใส อย่างสีของหมึกดำ (Squid ink) สีผักดอง(pickle) และขนมดังโงะ(Dango) นอกจากสีสันที่สะดุดตาตั้งแต่เห็นในแวบแรกแล้ว ในเรื่องของวัสดุที่นำมาใช้ในคอลเล็กชั่นนี้ ก็ยังน่าสนใจไม่แพ้กัน โดยวัสดุหลักที่ Nasha เลือกใช้กับคอลเล็กชั่นล่าสุด คือ หนังสัตว์ Exotic Skin อย่างหนังงูหลามล้างลายฟอกสี และหนังวัวเรียบคุณภาพดีที่นำเข้าจากประเทศอิตาลี นอจากแมตทีเรียลชั้นยอดแล้ว จุดเด่นสำหรับคอลเล็กชั่น Autumn/Winter 2020 นี้ ยังอยู่ที่กระเป๋าซิกเนอเจอร์ของแบรนด์ อย่าง Pinto ที่ในคอลเล็กชั่นนี้ Nasha Made-in-Mars นำความทันสมัยผสานกับเอกลักษณ์ของแจกันและเครื่องปั้นดินเผาจากยุคสมัยราชวงศ์หมิง ที่สะท้อนกลิ่นอายอารยะธรรมตะวันออกได้อย่างลงตัว จนเกิดเป็นกระเป๋าดีไซน์เก๋ไก๋ ที่เพิ่มเติมเข้ามาเป็นไอเท็มซิกเนอเจอร์ชิ้นใหม่ ‘Pinto Play’ ขึ้นแท่นว่าที่ It-Bag ใบใหม่ของแบรนด์ และสำหรับสาวกของแบรนด์ ผู้ที่ชอบความน่ารักแต่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร
┃Original Text : Torrinee
┃Photography : Courtesy of NASHA
