
นิโกลาส์ เกสกิแยร์ (Nicolas Ghesquiere) จะสร้างผลงานได้ดีที่สุดเมื่อมีโจทย์เป็น อนาคต? ไม่ใช่ ประวัติศาสตร์? ใกล้เคียง แต่ยังไม่ใช่ สถาปัตยกรรม? โอ้! ใกล้มากละ แต่เอาทุกคำตอบมารวมกันซิ แฟนตาซี? ใช่เลย นั่นคือคำตอบที่ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์เครื่องแต่งกายสตรีของ Louis Vuitton ส่งคำตอบไว้ใน Cruise 2024 คอลเล็กชั่นที่ดีที่สุดของเขาหลังจากยุค Balenciaga ตั้งแต่ปี 1997 – 2012 และมิวส์ที่ดึงพลังสร้างสรรค์ของนิโกลาส์ออกมาก็คือ…อีโซลา เบลลา (Isola Bella)
แฟชั่นโชว์ Louis Vuitton Cruise 2024 บนเกาะอีโซลา เบลลา ในทะเลสาบมัจจอเร ทางตอนเหนือของอิตาลี
ต้นตระกูลผู้ครอบครอง เกาะอีโซลา เบลลา
คาร์โล หรือชาร์ลส์ บอร์โรเมว ขึ้นสู่ตำแหน่งเกือบสูงสุดในศาสนจักร เมื่อดำรงตนเป็นอาร์กบิชอป หรือพระอัครสังฆราชแห่งมิลานในศตวรรษที่ 16 ถูกสถาปนาเป็นนักบุญแห่งโบสถ์คาทอลิก และถึงกับมีรูปปั้นนักบุญคาร์โลในเมืองอโรนา ซึ่งบ่ายหน้าไปทางทะเลสาบมัจจอเร สถานที่เกิดของคาร์โล


Photo: www.ambrosiana.it
ทะเลสาบมัจจอเร (Lake Maggiore) ทอดตัวยาว 69 กิโลเมตร นับเป็นทะเลสาบทางตอนเหนือที่ใหญ่ที่สุดของอิตาลี รอบด้านโอบล้อมด้วยขุนเขา ทั่วผืนน้ำเป็นที่ตั้งของเกาะแก่งใหญ่ 4 แห่งอันเป็นที่ตั้งปราสาทของตระกูลบอร์โรเมว ซึ่งสืบเชื้อสายไปได้ถึงพระสันตะปาปา ปีโอ ที่ 4 และตระกูลเมดิซีอันทรงอิทธิพลในอิตาลี ปัจจุบันสมาชิกที่มีชื่อเสียงที่สุดของตระกูลคือ เบอาตรีเชอ บอร์โรเมววัย 37 ปี ภรรยาของปิแอร์ คาสิรากิ น้องชายคนเล็กของชาร์ล็อต คาสิรากิ ธิดาของเจ้าหญิงกาโรลีน พระราชธิดาในเจ้าหญิงเกรซแห่งโมนาโกนั่นเอง


Photo: Getty Images
อีโซลา เบลลา (Isola Bell) เกาะอันสวยงาม
ในบรรดาเกาะทั้งสี่แห่งของทะเลสาบมัจจอเร ‘เกาะอีโซลา เบลลา’ ได้ชื่อว่างามที่สุด สมดังชื่อที่แปลตรงตัวว่า ‘เกาะอันงดงาม’ ซึ่งได้นามมาจาก ‘อีซาเบลลา แดดดา’ หนึ่งในภรรยาของคนในตระกูลบอร์โรเมว
ตระกูลบอร์โรเมวเข้าครอบครองเกาะแห่งนี้ในศตวรรษที่ 17 และใช้เวลาเกือบ 400 ปีระดมสถาปนิก วิศวกร จิตรกร ช่างทาสี ไปจนถึงนักออกแบบสวนและช่างฝีมือแขนงต่างๆ หลายร้อยชีวิตแปลงโฉม ‘อีโซลา เบลล่า’ จากเกาะที่อยู่ของชาวประมงให้กลายเป็นเกาะที่ตั้งปราสาทและสวนที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

Photo: Archivio Borromeo

Photo: Louis Vuitton
ช่วงสองทศวรรษแรกหมดไปกับการออกแบบสถาปัตยกรรมต่างๆ บนเกาะ ก่อนจะเริ่มก่อสร้างในปี 1630 ในยุคของ วิตาเลียโนที่ 6 หรือสมญา ‘บิดาแห่งอีโซลา เบลลา’ จวบจนถึงปี 1948 ในยุคของวิตาเลียโนที่ 9 ท่าเรือและกรอบปราสาทฝั่งเหนือเพิ่งจะเริ่มก่อสร้าง
ในคอลเล็กชั่นครูส 2024 ของ Louis Vuitton ไม่ได้คิดแบบแยกส่วน ออกแบบก่อนแล้วค่อยหาสถานที่จัดแฟชั่นโชว์ แต่นิโกลาส์มีแรงบันดาลใจจากสถานที่สำคัญสไตล์บาโร้ก 2 แห่งบนเกาะอีโซลา เบลลา นั่นก็คือ ปราสาทบอร์โรเมว (Palazzo Borromeo) และสวน
Palazzo Borromeo ปราสาทบาโร้กที่เต็มไปด้วยงานศิลปะและถ้ำ
ปราสาทบอร์โรเมวสูง 4 ชั้น ก่อสร้างในสถาปัตยกรรมบาโร้กแบบลอมบาร์ด อันเป็นที่นิยมในแคว้นลอมบาร์เดียของอิตาลี ภายในปราสาทมีห้องเก็บงานศิลปะมากกว่า 20 ห้อง โดยหัวใจอยู่ที่ ‘แกลเลอเรีย แบร์เทย์’ (Galleria Berthier) ทั่วทั้งผนังหาที่ว่างไม่เจอ เพราะแขวนภาพเขียนชิ้นก็อปปี้จากศิลปินชั้นครูกว่า 130 ภาพ ทั้งจากราฟาเอล, กอร์เรจโจ, ทิเชียน ไปจนถึง กุยโด เรนี แบบแน่นๆ


Photo: Archivio Borromeo


Photo: Archivio Borromeo
ปราสาทบอร์โรเมว งดงามมากเสียจน ‘นโปเลียน โบนาปาร์ต์’ กับชายา ‘โจเซฟีน’ เคยมาพักในปี 1797 ทางปราสาทยังจัดแสดงเตียงนอนที่ทั้งสองเคยทิ้งร่างไว้ให้ชมกัน และห้องบอลรูมโอ่อ่าแม้แต่เจ้าหญิงไดอานาที่เคยมาเยือนยังติดใจ โดยเฉพาะบันไดที่ทอดตัวลงไประดับเดียวกับทะเลสาบ สร้างเป็น ‘ถ้ำ’ 6 แห่งประดับด้วยหิน กรวด เปลือกหอย เศษหินอ่อน ไปจนถึงหินแร่ไมกา (ที่ใช้ผสมในเครื่องสำอางให้ประกายวิบวับ) ในธีมทะเล ตามไอเดียของเคานต์วิตาเลียโนที่ 6 ที่อยากได้ห้องพักสำหรับฤดูร้อนที่หน้าตาคล้ายถ้ำ
Teatro Massimo อนุสาวรีย์ในสวนแห่งรัก
สวนที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ไม่เพียงเพราะ Garden of Love ดันไปโผล่อยู่กลางทะเลสาบเท่านั้น แต่ยังเต็มไปด้วยพรรณไม้ที่เบ่งบานหมุนเวียนในทุกฤดูกาล เนื่องจากภูมิอากาศแบบจุลภาค จึงมีสภาพอากาศเฉพาะพื้นที่หรือเฉพาะจุดย่อยๆ ที่แตกต่างจากสภาพแวดล้อมโดยรอบเล็กน้อยหรือแตกต่างมาก ทำให้สวนที่นี่มีตั้งแต่สวนไผ่ ดงไม้ตระกูลซิตรัส เช่น ส้ม เลมอน เกรปฟุตและส้มโอ ต้นการบูรอายุหลายร้อยปีไปจนถึงรูห์บาบยักษ์หรือที่เรียกว่าผักกาดไดโนเสาร์ที่ใบมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 2 เมตร พุ่มแพงพวยและหอมหมื่นลี้ ทั้งยังมีสวนฤดูหนาวที่เป็นเรือนกระจกปลูกพืชพรรณหายาก




Photo: Archivio Borromeo
จุดที่กลายเป็นฉากหลังในแฟชั่นโชว์ Louis Vuitton Cruise 2024 คือ ‘เตียโตร มาสซิโม’ (Teatro Massimo) สวนสูง 37 เมตรที่เกิดจากระเบียงกลางแจ้ง 10 แห่งที่สลับไขว้ซ้อนกันไปมาเป็นรูปทรงปิรามิด แทรกแมกไม้ด้วยเสาโอเบลิสก์ น้ำพุ นกยูงตัวเป็นๆ และรูปปั้นม้ายูนิคอร์น สัญลักษณ์ของตระกูลบอร์โรเมวบนยอดสุด


Photo: Archivio Borromeo, Louis Vuitton



Photo: Louis Vuitton




Photo: Louis Vuitton



ไอเดียเริ่มต้นของคอลเล็กชั่นคือภาพของหมู่หญิงสาวที่ขึ้นมาจากน้ำ อาจเป็นเงือกที่อยู่ในทะเลสาบ พวกเธอขึ้นมาเดินชมปราสาทบอร์โรเมว พินิจดูแมกไม้ในสวน ก่อนจะเจอความงามของดอกไม้ที่ทำให้พวกเธอกลายร่างไปเป็นดอกไม้เสียเองในท้ายที่สุด สะท้อนในเครื่องแต่งกายทำจากวัสดุนีโอพรีนเหมือนชุดนักประดาน้ำ ก่อนจะค่อยๆ บอบบางขึ้นเรื่อยๆ ไปสู่เดรสแต่งระบายเป็นชั้นๆ ราวกับบันไดเป็นขั้นๆ บนเตียโตร มาสซิโม ในโทนสีที่มาจากพรรณไม้และงานอินทีเรียร์ดีไซน์ในปราสาท


Photo: Archivio Borromeo
เดินเที่ยวชมปราสาทและสวน กินอาหาร ทำสปา หรือกระทั่งจัดงานแต่งงานที่ปราสาทบอร์โรเมวได้ แต่หากอยากค้างคืนก็มีที่พัก 2-3 แห่งเท่านั้นบนเกาะ ซึ่งไม่มีเรือข้ามไปแผ่นดินใหญ่หลังหนึ่งทุ่ม แต่มีโรงแรมเก่าแก่ที่สุดบนเกาะให้นอนค้างได้ที่ Hotel & Ristorante Il Delfino เป็นทั้งร้านอาหารและที่พักซึ่งมีห้องสวีทเพียง 2 ห้องเท่านั้น
Words: Suphakdipa Poolsap
ข้อมูลจาก