ปีที่ผ่านมาถ้าถามว่า นางเอกสาวคนไหนมีผลงานโดดเด่นติดเทรนด์ทวิตเตอร์ มีกระแสให้พูดถึงในแง่บวกโดยตลอด ชื่อของใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ ต้องติดโผอันดับต้นๆ อย่างไม่ต้องสงสัย เพราะไม่ว่าจะเป็น ผลงานหนังจอเงินอย่าง Friendzone หรือบทบาท “นิรา” สาวข้ามเพศในละครเรื่องใบไม้ที่ปลิดปลิว ที่ผลักดันให้เธอก้าวขึ้นมาอยู่แถวหน้าได้อย่างสมศักดิ์ศรี ทำให้เธอก้าวข้ามผ่านภาพจำเก่าๆ จากบทบาทแจ้งเกิดที่ติดตัวมานานแสนนาน และในศักราชใหม่นี้เธอคงจะได้ก้าวไกลไปอีกขั้นตามความตั้งใจของเธอเองที่อยากให้คนจดจำชื่อ ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก ในฐานะนักแสดงมืออาชีพ
เราชวนนางแบบปกคนล่าสุดของเรามานั่งคุยกันแบบสบายๆ ถึงชีวิตในปีที่ผ่านมา พร้อมอัพเดทเรื่องราวของเธอไปพร้อมๆ กันในคอลัมน์ Cover Story ฉบับเดือนมกราคม 2563
ลิปส์ : ปีที่ผ่านมาสิ่งที่ได้เรียนรู้น่าจะเป็นเรื่องอะไร และรับมือกับกระแสครั้งใหญ่ หลังจาก “สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่ารัก” อย่างไรบ้าง
ใบเฟิร์น : กระแสที่เข้ามาในปีที่ผ่านมาทำให้เราเข้าใจอะไรหลากหลายขึ้น มันเป็นความโชคดีที่ละครเรามีคนชอบ แต่มันทำให้เราเข้าใจมากขึ้นว่า มันไม่ใช่เรื่องที่อยู่ตลอดไป มันก็มีช่วงที่เรามีงานเยอะ ช่วงมีงานน้อย ช่วงไหนมีงานเยอะเราก็ยินดีกับมันไป
ลิปส์ : ทำให้ความคาดหวังในผลงานชิ้นต่อๆไปของเราสูงขึ้นตามไปด้วยไหม
ใบเฟิร์น : ไม่ค่ะ เฟิร์นตั้งใจในทุกงาน ไม่ว่าบทนั้นจะง่าย บทนั้นจะยาก แล้วเราก็ไม่เคยรู้อยู่แล้วว่าเรื่องไหนจะดังหรือไม่ดังเฟิร์นชอบเล่นทุกบทอยู่แล้วด้วยก็เลยไม่ได้คาดหวังต่างไปจากเดิม
“ เฟิร์นรู้สึกว่า การไปหานักจิตบำบัดมันทำให้เรามีความสุข เหมือนเราได้ดูแลหัวใจตัวเอง ดูแลความรู้สึกตัวเอง มันก็เหมือนเวลาคนเราไม่สบายแล้วก็ต้องไปหาหมอ เฟิร์นไม่อยากให้คนคิดว่า การไปหานักจิตบำบัด เป็นเพราะเราเป็นบ้า ”
ลิปส์ : ทราบมาว่าใบเฟิร์นเป็นคนชอบอ่านหนังสือเหมือนกันงานแน่นขนาดนี้ยังมีเวลาอ่านหนังสือบ้างไหม
ใบเฟิร์น : มีหนังสือติดมือตลอด แต่ไม่ค่อยได้อ่านเลยค่ะ บางช่วงก็ต้องอ่านบทให้ทันก่อนมากกว่า เล่มล่าสุดที่พกไปกองถ่าย คือ “ปีแสง” ของคุณดุจดาว วัฒนปกรณ์ ตอนนี้อ่านได้แค่ครึ่งเล่มเองค่ะ
ลิปส์ : แสดงว่า ชอบอ่านเรื่องราวที่สร้างแรงบันดาลใจเป็นส่วนใหญ่ แบบนี้ชอบฟังพอดแคสต์ด้วยหรือเปล่า ช่วงนี้กำลังฮิตเลย
ใบเฟิร์น : ชอบฟัง R U Ok พอดแคสต์ของพี่ดุจดาวค่ะ เฟิร์นเคยไปหาพี่ดุจดาวด้วยนะคะ ไปปรึกษาเป็น Session ส่วนตัว เพราะมีปัญหาเรื่องเราติดตัวละครนี่ล่ะค่ะ
เฟิร์นรู้สึกว่า การไปหานักจิตบำบัดมันทำให้เรามีความสุข เหมือนเราได้ดูแลหัวใจตัวเอง ดูแลความรู้สึกตัวเอง มันก็เหมือนเวลาคนเราไม่สบายแล้วก็ต้องไปหาหมอ เฟิร์นไม่อยากให้คนคิดว่า การไปหานักจิตบำบัด เป็นเพราะเราเป็นบ้า หรือเป็นโรคจิต มันเหมือนการล้างสิ่งที่ไม่ดีออกจากสมอง เหมือนการดีท็อกซ์อย่างหนึ่ง มันคือการดูแลจิตวิญญาณตัวเอง เฟิร์นว่า มันน่ารักมากเลยนะ ออกมาทีไรก็คือยิ้มตลอด แล้วก็จะโทรหาเพื่อนคนหนึ่งที่ชอบอ่านหนังสือเหมือนกัน ชอบพี่ดุจดาวเหมือนกัน โทรไปบอกว่า เนี่ยเขาสอนฉันเรื่องนี้ด้วยนะ (ยิ้ม)
ลิปส์ : เรื่องหนุ่มๆ ล่ะ ปีที่แล้วเนื้อหอมเหมือนกันนะ
ใบเฟิร์น : ไม่หอมเลย เรื่องในข่าวไม่มีอะไรจริงเลยค่ะ ทุกคนอยู่ในโซเชียลหมด แต่ความเป็นจริงแล้วไม่ได้มีใครเข้ามาถึงตัวเฟิร์นเลยค่ะ
ลิปส์ : มีวิธีคัดกรองเรื่องพวกอย่างนี้อย่างไรบ้าง
ใบเฟิร์น : เฟิร์นไม่ได้คุยกับใคร หรือรู้จักกับใครเป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว เราก็ไม่ได้ปิดนะ แต่เหมือนเราก็มีแก๊งของเรา มีเวลาทำงานที่กินเวลาในชีวิตไปเยอะแล้ว ก็เป็นธรรมดาที่ไม่รู้จะมีใครเข้ามาตอนไหน กลับมาบ้านก็เหลือแค่เวลานอน แล้วก็ตื่นเช้าออกไปกองถ่ายอีก
ลิปส์ : เพื่อนๆผู้จัดการเขาคอยช่วยสกรีนให้ด้วยใช่ไหม
ใบเฟิร์น : เขาก็พูดว่าจะช่วยดู แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครมาให้ดูเลย อยู่ด้วยกันนั่นแหละ เที่ยวก็เป็นแก๊งผู้หญิงล้วน เพื่อนเฟิร์นไม่มีผู้ชายเลยสักคน แตกแตน ตลกเฮฮาไปเรื่อย
ลิปส์ : ปีที่ผ่านมามีของขวัญที่มอบให้ตัวเองหรือยังเห็นคุณพ่อซื้อรถให้ไปแล้วอันนั้นเป็นของขวัญที่ยิ่งใหญ่สุดเท่าที่เคยได้จากคุณพ่อคุณแม่แล้วหรือเปล่า
ใบเฟิร์น : ตอนเด็กๆ ไม่ค่อยได้ของขวัญวันเกิด ตอนนี้เฟิร์นก็ไม่ค่อยใช้เงิน ไม่ค่อยซื้ออะไร เงินอยู่ที่คุณพ่อคุณแม่หมด เขาไม่ได้ให้เก็บเงินให้เราด้วยนะ แต่เราให้เขาเอาไปเลย จะใช้ทำอะไร ตามที่เห็นสมควร ถือเป็นเงินในบ้าน
เคยมีคนคนหนึ่งบอกเฟิร์นว่า การที่เราจะโตมาแล้วได้ทำงาน มีเงินอย่างนี้ได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ แต่การที่จะเลี้ยงเด็กคนหนึ่งให้โตมา แล้วประสบความสำเร็จแบบนี้ ยากกว่าเยอะ เฟิร์นเลยคิดได้ว่า “เออ…จริงด้วย” แล้วยุคเขาไม่ได้สบายเหมือนยุคเราด้วยนะ เขาต้องฝ่าฟันอะไรมาบ้าง เพื่อจะสอนให้เรารับผิดชอบงานได้อย่างทุกวันนี้ แล้วทำให้เรามีความสุขขนาดนี้ ทำให้รู้สึกว่า เรื่องแค่นี้มันน้อยนิดมาก ถ้าเทียบกับการที่เขาทำให้เราเป็นเราในทุกวันนี้ ตัวเฟิร์นเองไม่รู้ว่า โตไปมีลูกจะสามารถเลี้ยงลูกได้แบบนี้หรือเปล่า
ลิปส์ : ทุกวันนี้เวลาอยากได้ อยากซื้ออะไรสักอย่างต้องทำอย่างไร
ใบเฟิร์น : ก็ขอเขาค่ะ เงินในบัญชีเฟิร์นเอง ถ้าจะซื้อของออนไลน์ยังต้องโทรบอกเขาก่อนเลย แต่เขาไม่เคยไม่ให้นะ เฟิร์นไม่ใช่คนกินอยู่แพงอยู่แล้วด้วยไงคะ
│Photography : Nucha J.
│Styling : Anantsit K.