เดือนพฤษภาคมนี้ วงการแฟชั่นจะอบอวลไปด้วยความระลึกถึง Karl Lagerfeld ผู้จากไปในปี 2019 กับนิทรรศการใหญ่ในนิวยอร์ก แต่มากไปกว่าแฟชั่นแล้ว มรดกของคาร์ลคือฉากแฟชั่นอลังการที่เขาสร้างไว้อย่างที่ไม่เคยมีดีไซเนอร์คนไหนจะแซงหน้าไปได้
The Metropolitan Museum of Art , New York จัดนิทรรศการ Karl Lagerfeld: Line of Beauty วันที่ 5 พฤษภาคมถึง 16 กรกฎาคม 2023 เพื่อกลับไปสำรวจเส้นสายงานออกแบบแฟชั่นของดีไซเนอร์ชาวเยอรมันผู้จากไป ทิ้งไว้แต่มรดกผลงานที่เคยทำไว้ให้กับห้องเสื้อมากมาย ทั้ง Balmain, Jean Patou, Chloé และ Fendi ในยุค 1960 – 1970 รวมทั้งผลงานที่ Chanel และแบรนด์ชื่อเดียวกับตนเองหลังจากยุค 1980 เป็นต้นมา
คาร์ลทำมาแล้วทุกอย่างอย่างเชี่ยวชาญในทุกสิ่ง ทั้งลายพิมพ์ ซิลลูเอตต์ สีสัน สร้างมาหมดทั้งงานไฮแฟชั่นโก้หรู โมเดิร์น ใส่อารมณ์ขัน ล้อเลียน เสียดเย้ย โดยเฉพาะในช่วงที่อยู่ Chloé ที่คาร์ลเข้า-ออกห้องเสื้อแห่งนี้ 2 ครั้ง ช่วงแรกในปี 1963 – 1983 และอีกครั้งในปี 1992 – 1997 ซึ่งกลายเป็นงานวินเทจสุดแรร์ราคาสูงมาก ต่างจากวินเทจ Chanel ที่กลาดเกลื่อนกว่า
ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าในยุคสมัยของคาร์ลที่ Chanel และ Fendi เขายกระดับแฟชั่นโชว์ไปอีกหลายขั้น สร้างให้เกิดภาพจำว่าแฟชั่นโชว์คือความอลังการมีฉากหลังวิจิตรราวกับหลุดเข้าไปในโลกจินตนาการ หรืออีกจักรวาลของความสร้างสรรค์
ยิ่งเศรษฐกิจตกต่ำ จิตใจผู้คนฟุบแฟบ โลกเต็มไปด้วยความเศร้าหมอง คาร์ลกลับยิ่งทำโชว์อลังการมากขึ้นไปอีก เพื่อให้มันอลังการพอจะทำให้ผู้คนลืมความเป็นจริงสุดหม่นไปได้ชั่วขณะ สัก 20 นาทีในระหว่างที่แฟชั่นโชว์ดำเนินไปก็ยังดี และนี่คือส่วนหนึ่งในแฟชั่นหลายร้อยครั้งที่คาร์ลเนรมิตขึ้น ซึ่งแม้ฉากทั้งหมดนี้จะถูกรื้อไปหลังจากโชว์จบลง แต่มันก็ได้ทำหน้าที่ของมันแล้ว ด้วยการสร้างภาพตราตรึงในความทรงจำของผู้คนไปตราบนานเท่านาน
แจ็กเก็ตทวีต สัญลักษณ์หนึ่งของ Chanel กลายเป็นประติมากรรมสูง 23 เมตรในคอลเล็กชั่นสปริง-ซัมเมอร์ 2008
คาร์ลเสกกร็องด์ปาเลส์ สถานที่จัดแฟชั่นโชว์ในกลางปารีสให้กลายเป็นชายหาดในคอลเล็กชั่นสปริง-ซัมเมอร์ 2019
Brasserie Gabrielle แฟชั่นโชว์ฤดูใบไม้ร่วง 2015 ที่มีฉากหลังเป็นร้านอาหารกึ่งบาร์ที่ได้แรงบันดาลใจจากไลฟ์สไตล์ของ Coco Chanel ที่ไปสังสรรค์กับแก๊งเพื่อนอย่าง Igor Stravinsky และ Salvador Dalí หรือบางทีก็ไปดื่มกับคนรัก Boy Capel
ต้นโอ๊ค ต้นสนและพุ่มไม้หนาถูกขนย้ายเข้ามาสร้างป่าใจกลางปารีสในโชว์โอตกูตูร์ฤดูใบไม้ผลิ 2013 ซึ่งคาร์ลได้แรงบันดาลใจจากผ้าลายดอกไม้ในคลังผลงานเก่าของ Chanel ที่เก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์วิกตอเรีย แอนด์ อัลเบิร์ต กรุงลอนดอน
กร็องด์ปาเลส์กลายเป็นถนนเลียบแม่น้ำแซนในปารีสที่ Chanel จำลองมาหมดตั้งแต่ไฟถนน ม้านั่ง แผงพ่อค้าแม่ขาย กระทั่งซุ้มศิลปินวาดรูปริมทาง และแผงขายงานศิลปะในโชว์โอตกูตูร์ฤดูใบไม้ร่วง 2018
Elon Musk มีจรวดสวยๆแบบนี้ไหมล่ะ ปู่คาร์ลทำ Chanel Rocket สูง 35 เมตร และลอยเหนือพื้น 10 เมตร กลายเป็นภาพจำมาจนทุกวันนี้ในแฟชั่นโชว์ฤดูใบไม้ร่วง 2017 ที่คาร์ลใจถึงสร้างฐานปล่อยจรวดหลังได้แรงบันดาลใจจากเพลง Rocket Man ของ Elton John
“ผู้โดยสารสายการบิน Chanel Airlines มารวมกันที่ประตู n°5 เทอร์มินอล 2C เที่ยวบินปารีส-ถนนกัมบงจะออกจากสนามบินกร็องด์ปาเลส์ในเวลา 10.30 นาฬิกา” สิ้นเสียงประกาศ ผู้โดยสาร 99 รายใน 99 ลุคพากันลากกระเป๋าเดินทางล้อเลื่อน Coco Case มาเช็กอินกันเป็นแถวในแฟชั่นโชว์สปริง 2016
เป็นคนบอกเองว่าคนที่ใส่กางเกงวอร์มออกไปนอกบ้านนั้นหมดสภาพ เขาไม่มีทางทำเสื้อผ้าแบบนั้นเด็ดขาด แต่แล้วโชว์ฤดูใบไม้ร่วง 2014 คาร์ลกลับทำในธีมซูเปอร์มาร์เก็ตที่นางแบบใส่เสื้อฮู้ดกีฬา กางเกงวอร์มและสนีกเกอร์ออกมาช้อปปิ้งของชำใน Chanel Supermarket ที่ขายทุกอย่างตั้งแต่ชีส นม จนถึงทูน่ากระป๋อง (ซึ่งพร็อพทั้งหมดถูกแขกที่มาชมแฟชั่นโชว์ขนกลับบ้านเกลี้ยง) คาร์ลบอกถึงเหตุผลที่กลับลำว่า “เพราะทุกวันนี้ คนที่ใส่ Chanel ก็ไปซูเปอร์มาร์เก็ต มันกลายเป็นคำประกาศสิ่งของราคาแพงในยุคโมเดิร์น”
แขกเหรื่อ 500 คนนั่งหน้าน้ำพุเตรวีในกรุงโรม ซึ่งเปิดให้ชมอีกครั้งหลังจากปิดบูรณะมา 3 ปี โดย Fendi มอบทุนในการซ่อมแซมโบราณสถานสัญลักษณ์ของกรุงโรม และถือโอกาสเปิดน้ำพุจัดแฟชั่นโชว์โอตกูตูร์ฉลองครบ 90 ปีของแบรนด์และฉลองการร่วมงานกับคาร์ล ลาเกอร์เฟลด์มา 50 ปีเต็มในเดือนกรกฎาคม ปี 2016
แฟชั่นโชว์ยิ่งใหญ่และทะเยอทะยานที่สุดในประวัติศาสตร์ เมื่อคาร์ลขนคอลเล็กชั่นสปริง 2008 ของ Fendi ไปจัดแฟชั่นโชว์มูลค่ากว่า 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐที่กำแพงเมืองจีนอายุกว่า 2,000 ปี โดยขน 88 ลุคไปเดินระนเวย์ยาว 88 เมตร (เลข 8 หมายถึงความมั่งคั่ง) เพื่อหวังตีตลาดจีนที่กำลังเนื้อหอม
นับตั้งแต่ปฏิวัติเป็นประเทศคอมมิวนิสต์ในปี 1959 คิวบาก็แทบจะกลายเป็นประเทศที่หยุดวันเวลาไว้ในยุคนั้น ดังนั้นเมื่อ Chanel กลายเป็นแบรนด์ตะวันตกแรกที่เข้าไปเปิดแฟชั่นโชว์ในคอลเล็กชั่นรีสอร์ท 2017 ในกรุงฮาวาน่า สภาพเมืองที่ดูเรโทรย้อนยุคและมีรถคาดิลแล็กยุค 1960 วิ่งกันเกลื่อนราวกับแท็กซี่ จึงกลายเป็นฉากหลังชั้นเยี่ยมให้กับโชว์ครั้งนี้ แม้ว่าทางแบรนด์จะต้องขนอุปกรณ์ทุกสิ่งอย่างไปเอง แม้แต่รถปล่อยสัญญาณอินเทอร์เน็ต
“ภาวะโลกร้อนเป็นประเด็นของยุคสมัย วงการแฟชั่นต้องพูดถึงเรื่องนี้” คาร์ลกล่าว และตัดสินใจนำเข้าน้ำแข็ง 265 ตันมาจากสวีเดนมายังปารีสในช่วงหน้าร้อน เพื่อให้ช่างสลักน้ำแข็ง 40 ชีวิตใช้เวลา 7 วันสลักเสลาให้กลายเป็นถ้ำน้ำแข็งยาว 40 เมตรในแฟชั่นโชว์ฤดูใบไม้ร่วง 2010 ของ Chanel
โอตกูตูร์ฤดูใบไม้ร่วง 2015 มีฉากหลังเป็นคาสิโนขนาดใหญ่ใจกลางปารีสที่เหล่านักเสี่ยงโชคจากทั่วโลกเดินทางมารวมตัวกัน ตั้งแต่ G-Dragon, Rita Ora, Kristen Stewart และการเดบิวต์ที่แฟชั่นโชว์ครั้งแรกของ Lily-Rose Depp
คอลเล็กชั่นสุดท้ายในชีวิตของคาร์ล ฤดูใบไม้ร่วง 2019 จัดขึ้นให้หลัง 3 อาทิตย์หลังจากดีไซเนอร์ลาจากโลกไปในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2019 โดยสถานที่จัดงานดั้งเดิมของ Chanel ได้รับใช้จินตนาการของคาร์ลเป็นครั้งสุดท้าย เขาวาดภาพหมู่บ้านบนภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ มีชาเลต์ไม้ถ่อมตน 12 หลังเรียงรายเป็นแนว แต่ละหลังมีควันโชยบางๆมาจากปล่องไฟ ถนนตรงกลางกลายเป็นลานหิมะขาวโพลน เช่นเดียวกับต้นเบิร์ชที่ผละใบเหลือแต่กิ่งก้าน เหล่านางแบบทำหน้าที่ของตนอย่างสุดความสามารถ แม้ไม่อาจกลั้นน้ำตาไว้ได้ในการเดินฟินาเล่แก่คาร์ลเป็นครั้งสุดท้าย
Words: Suphakdipa Poolsap
ข้อมูลจาก
