นับเป็นการจับคู่ที่คาดไม่ถึงอีกหนึ่งคู่สำหรับคู่พี่ใหญ่เจนเวทีอย่างหมอริท-เรืองฤทธิ์ศิริพานิชเกิดกับหนุ่มน้อยผู้โด่งดังจากซีรีส์วาย “บังเอิญรัก” เพิร์ธ-ธนพนธ์สุขุมพันธนาสารที่ถูกคัดสรรมาคู่กันในโปรเจ็กต์ Boyfriends กับเพลง “อาการงี้” ที่ทั้งสองบอกว่ามีเวลาเตรียมตัวน้อยเหลือเกินแต่หลังจากปล่อยเพลงและมิวสิกวิดีโอออกมาก็ได้รับฟี้ดแบ็คที่น่าชื่นใจพร้อมเดินหน้าขึ้นคอนเสิร์ตคู่กันในช่วงปลายปีนี้ถ้าใครยังลังเลว่าจะจองตั๋วดีไหมลองอ่านบทสัมภาษณ์นี้ดูก่อนรับรองว่าต้องเกิดอาการเผลอกดตั๋วรัวๆแบบไม่รู้ตัวแน่ๆ
การ์ซง : ปล่อยมิวสิกวิดีโอมาเป็นตัวแรกของโปรเจ็กต์ Boyfriends แล้วดูเหมือนว่ากระแสตอบรับก็เป็นไปด้วยดีทีเดียวสำหรับทั้งคู่ความยากของเพลง “อาการงี้” อยู่ที่ตรงไหนใช่ท่าเต้นหรือเปล่า
ริท : ก็ไม่เชิงนะครับ ความยากอยู่ที่เรามีเวลาเจอกันน้อยมากกว่า ตัวเพลงไม่ได้ยากมากทั้งเรื่องการร้อง หรือท่าก็ไม่ได้ยากมาก เพราะตั้งใจให้เป็นท่าเต้นที่คนทั่วไปสามารถเต้นตามได้ด้วย
เพิร์ธ : มีเวลาซ้อมแค่ 2 ครั้งก่อนที่จะถ่ายเอ็มวี แล้วสำหรับผมเป็นครั้งแรกด้วยที่มีโอกาสได้เต้น
การ์ซง : รุ่นพี่อย่างหมอริทช่วยติวน้องบ้างไหม
ริท : ผมก็คอยส่งกำลังใจไปหา DM ไปหาน้อง บอกเขาว่า ไม่ต้องเกร็งนะ สู้ๆ ไม่ต้องเครียด
การ์ซง : แล้วรุ่นน้องอย่างเพิร์ธต้องมาประกบรุ่นพี่แบบนี้เกร็งหรือเปล่า
เพิร์ธ : ยอมรับว่า เกร็งครับ แต่ก็ทำให้ผมได้เรียนรู้จากประสบการณ์การทำงานกับพี่ริทด้วย พี่ริทเขาเก่งมาก
การ์ซง : ฝากถึงแฟนที่ติดตามผลงานของเราทั้งสองคนหน่อย
ริท : เพลงของริทกับเพิร์ธชื่อเพลง “อาการงี้” ปล่อยมาทั้งเพลงทั้งเอ็มวีเรียบร้อยแล้ว ได้รับการตอบรับที่ดีเลยทีเดียว ขอขอบคุณแฟนคลับที่ช่วยกันแชร์ พวกเราตั้งใจทำกันมากครับ
เพิร์ธ : อยากให้ติดตามกันเยอะๆ โปรเจ็กต์นี้เราตั้งใจกันมาก ฝากให้เข้าไปฟังไปดูกันเยอะๆ ในยูทูป MBO Official นะครับ
ริท : เพลงนี้ปล่อยเป็นเพลงแรกในโปรเจ็กต์ Boyfriends ตอนนี้หลายๆ คนคงเริ่มได้ฟัง ได้ดูเอ็มวีเพลงอื่นๆ กันแล้ว ยังไงก็ฝากย้อนกลับมาฟังเพลง “อาการงี้” ด้วยนะครับ
#KeywordChallenge
#ฟีลแฟน
ริท : คงไม่ใช่แฟน แต่ความรู้สึกเหมือนแฟน คงจะสนิทชิดเชื้อเชื่อใจกันระดับหนึ่ง เอ๊ะ…หรืออะไรที่มันฉาบฉวยเขาก็เรียก #ฟีลแฟน ได้เหมือนกันมั้ง กอด จับมือถือแขน ควงแขน หอมแก้มกัน แต่ไม่ใช่แฟนนะ
เพิร์ธ : สำหรับผมคงเป็นดูแล Take Care หยิบน้ำให้ แต่ไม่เป็นแฟนนะ
#แฟนเก่า
ริท : คนที่เคยเป็นแฟนกับเราแล้วเลิกไปแล้ว ถึงทุกวันนี้จะเป็นเพื่อนกันหรือไม่ใช่เพื่อนกันก็เรียกว่า “แฟนเก่า” อยู่ดี แต่เอาจริงๆ แฟนเก่าจะกลายเป็นแฟนปัจจุบันก็ได้นะ
เพิร์ธ : ของผมก็คล้ายๆ พี่ริท ถ้าเลิกไปแล้วถึงทุกวันนี้จะเป็นเพื่อนกันก็เรียกว่า “แฟนเก่า” อยู่ดี
ริท : แต่แฟนเก่าจะเป็นเพื่อนกันได้ไหม ก็คงต้องแล้วแต่บริบทของแต่ละคู่ ถ้าเกิดตอนเลิกกันแล้วเอามีดมาแทงกัน ก็คงเป็นเพื่อนกันไม่ไหว เพราะกลัวโดนแทงอีกไง ลองนึกดูแบบ “แกๆ พาเราไปกินหมูกระทะหน่อย” เราไม่ยอมไป แล้วเอามีดแทงเรา เราก็ต้องกลัวสิ แบบนี้เป็นเพื่อนกันไม่ได้
#แฟนใหม่ของแฟนเก่า
ริท : มันก็แล้วแต่บริบทอีกนั่นแหละ ถ้าสมมติเราเป็นเพื่อนกันกับแฟนเก่าเรา เขามีแฟนใหม่เราก็คงยินดี แต่ถ้าเลิกกันแล้วไม่ได้เป็นเพื่อนกัน แค้นกัน เกลียดกัน ก็คงเป็นฟีลแบบแอบสาปแช่งเบาๆ (หัวเราะ)
เพิร์ธ : ถ้าจบกันด้วยดีก็อาจจะอวยพรให้ไปไกลๆ ทั้งคู่ เอ้ย…ไม่ใช่ (หัวเราะ) ก็อวยพรให้เขาครับ ดีใจด้วย แต่ถ้าเราจบกันไม่ได้ก็ปล่อยเขาไปครับ
#แฟนเพื่อน
ริท : ก็เหมือนแฟนเรา เฮ้ย…ไม่ใช่ (หัวเราะ) แฟนเพื่อนก็คือแฟนเพื่อน เหมือนเพื่อนคนหนึ่ง เพราะเพื่อนเราให้ใจเคารพรักเขาไปแล้ว เราก็ต้องดึงแฟนเพื่อนมาเป็นเพื่อนในกลุ่ม หรือคนที่สนิทชิดเชื้อด้วย ปาร์ตี้กันได้ ไปกินข้าวด้วยกันได้
เพิร์ธ : ผมว่า คงเหมือนเพื่อนอีกคนหนึ่งของเรา เพราะเพื่อนเรามีแฟนก็คงต้องมาอยู่ในแก๊งเดียวกัน
ริท : แล้วถ้าจะให้ “แฟนเพื่อน” กลายมาเป็น “แฟนเรา” ก็คงจะไม่ได้
“แต่ถ้าเพื่อนเราเลิกกันแฟนแล้วก็แล้วแต่สถานการณ์สิ ก็เลิกกันแล้วนี่นา ถ้าเป็นเพื่อนสนิทกันมากก็คงเคารพกัน คิดถึงจิตใจเพื่อนนิดหนึ่ง เพื่อนอาจจะไม่อยากเห็นหน้า ไม่อยากมาเจอ เพื่อนต้องเสียใจแน่ๆ”
#เพื่อนแฟน
ริท : เพื่อนแฟนก็เหมือนเพื่อนของเรา อันนี้ต้องเข้ากันได้
เพิร์ธ : ก็เหมือนเพื่อนของเราครับ
ริท : แต่ “เพื่อนแฟน” มาเป็น “แฟนเรา” ไม่ได้นะ อย่างนั้นเรียกว่า “ชู้” แต่ถ้าเป็นเพื่อนห่างๆ เพื่อนคนละสังคมกันก็อาจจะมาเป็นแฟนเราได้ แต่ถ้าเป็นเพื่อนสนิทที่แฟนเราเคยไปปรึกษาเรื่องปัญหาต่างๆ ตลอดก็คงจะไม่ได้มั้ง
เพิร์ธ : ผมว่า แล้วแต่หน้าแหละ (หัวเราะ)
ริท : ไม่หรอก สุดท้ายมันอยู่ที่บริบทแหละ แต่ละคนก็คงมีข้อตกลงไม่เหมือนกัน บางคนอาจจะใจกว้างให้คบเพื่อนเราต่อก็ได้
#ขี้หึง
ริท : ถ้าตอนนี้มีแฟนก็…คงเป็นเรื่องๆ ไปมากกว่า ถ้าเป็นเรื่องที่ดูไร้สาระไปก็คงไม่ได้หึงหรอกมั้ง
“ผมอาจจะไม่ได้ขี้หึงขนาดนั้น ไม่มีคนให้หึงด้วยแหละ มีแต่แฟนคลับ (หัวเราะ) แต่ปกติจะไม่ค่อยขี้หึงนะ จะปล่อยให้เขาไปใช้ชีวิตของเขา”
ริท : ถ้ามีแฟนที่ขี้หึงพอเป็นกิมมิกน่ะ โอเคนะ แต่ถ้าหึงไปเรื่อย แค่ไปกินข้าวกับเพื่อนก็หึง หรือติดงานอยู่โทรไปไม่รับ เราก็เหนื่อยในการใช้ชีวิต และคงจะรำคาญ
เพิร์ธ : ผมไม่ชอบคนขี้หึงนะ ชอบให้เคารพซึ่งกันและกันมากกว่า ไม่ต้องมาคอยจุกจิก จู้จี้
#ขี้งอน
ริท : คนขี้งอนบางทีก็น่ารักนะ ถ้างอนพอเป็นกิมมิก งอนแบบพอมีสตอรี่ แต่ถ้างอนไร้สาระ ทำอะไรนิดอะไรหน่อยก็งอน วันๆ หนึ่งคงไม่ต้องคุยกันแล้วล่ะ ส่วนตัวผมเองก็มีงอนบ้างนะพอเป็นกิมมิก แบบถ้าเราอุตส่าห์เคลียร์คิวนัดเพื่อน แล้วเพื่อนกลับลืมนัดเรา เราก็มีงอนเหมือนกัน
เพิร์ธ : ผมไม่ค่อยชอบคนขี้งอนครับ เอางอนกำลังดีดีกว่า
#ขี้อ้อน
ริท : ผมเป็นบ้างนะ ก็มีเสียงสองบ้างในบางครั้ง พูดให้ดูน่ารักขึ้นบ้าง
เพิร์ธ : ผมไม่ค่อยเป็นเลยนะ แทบไม่มีเลยดีกว่า
ริท : ลองทำดูสิ ผมชอบคนขี้อ้อนนะ
เพิร์ธ : ของผมแล้วแต่บริบทมากกว่า
#ขี้อ่อย
ริท : แล้วแต่เป้าประสงค์ แต่คงไม่ได้อ่อยไปเรื่อย
เพิร์ธ : ผมก็ไม่ค่อยเป็นนะ ไม่มีเลยแหละ
ริท : เจอคนมารุกหนัก มาอ่อยเราก่อนผมก็ไม่ชอบนะ
#สายเปย์
ริท : ไม่เป็นนะ ไม่เปย์ ใครมองกันที่เงินก็บ๊ายบาย
เพิร์ธ : ไม่เปย์เหมือนกันครับ แต่อาจจะมีเลี้ยงข้าวบ้าง แต่ไม่ได้เปย์ให้ตลอด แล้วแต่โอกาสด้วย ถ้าเป็นวันเกิด วันครบรอบก็พอจะให้ได้ แต่จะให้ซื้อของให้ทุกวันคงไม่ไหว
ริท : แบบนั้นรักกันที่เงินมากกว่า เราจ่ายตามความเหมาะสมมากกว่า ไม่ใช่ว่าอยากได้ฟ้า อยากได้ไม้ก็ต้องซื้อให้ ไม่ใช่อะไรนะ ไม่มีเงิน (หัวเราะ) ผมเป็นคนคิดก่อนใช้เงิน ดังนั้น ไม่ใช่ว่า อยู่ดีๆ เธอจะเข้ามาในชีวิตแล้วใช้เงินฉันแบบไม่คิด แบบนั้นไม่ยอม เราทำงานมาเหนื่อย เราก็ใช้ตามความเหมาะสม ถ้าเลี้ยงข้าวให้อิ่มอร่อยมีความสุขแบบนั้นได้
#เจ้าชู้
ริท : ไม่เจ้าชู้ ได้ทีละคน
เพิร์ธ : ไม่เหมือนกันครับ รักเดียวใจเดียว
#ไอ้ต้าว
ริท : ใช้พูดกับคนน่ารัก น่าทะนุถนอม
เพิร์ธ : “ไอ้ต้าววว…แฟนคลับ” ไงครับ
┃Photography : Somkiat K.
┃Styling : Anansit K.