Reuge (เริจช์) ผู้ผลิตกล่องดนตรีสุดหรูอายุยาวนานกว่า 150 ปี ร่วมมือกับ MB&F (เอ็มบีแอนด์เอฟ) ผู้ผลิตนาฬิกาชั้นนำอีกครั้ง หลังจากเคยได้ร่วมมือกันสร้างสรรค์ MB&F x Reuge MusicMachine กล่องดนตรีสุดเท่รุ่นแรกขึ้นมา ด้วยดีไซน์สุดล้ำแนวไซไฟที่ออกแบบโดย Maximilian Büsser (แม็กซิมิเลียน บูซเซอร์) ผู้ก่อตั้ง MB&F กล่าวว่า “วิธีในการทำกล่องดนตรีนั้นยังคงเป็นสิ่งที่น่าประหลาดใจสำหรับมนุษย์” และบอกด้วยว่ากล่องดนตรีมีความคล้ายคลึงกับนาฬิกา ทั้งทางด้านเทคนิค และความสวยงาม พร้อมด้วยประดิษฐกรรมการตกแต่งอันประณีตที่เหมือนกัน จึงไม่แปลกที่สองค่ายที่เป็นเจ้าแห่งการนวัตกรรมประดิษฐ์แห่งยุคจะจับมือร่วมกันอีกครั้ง
สำหรับผลงานล่าสุดนี้มีชื่อว่า MusicMachine 1 Reloaded (มิวสิคแมชชีน วัน รีโหลดเดด) โดยพัฒนาต่อมาจากผลงานรุ่นแรก บูซเซอร์ กล่าวว่า “งานออกแบบดั้งเดิมนั้นได้ถูกสร้างขึ้นโดยนักออกแบบหนุ่มชาวจีนนามว่า ซิน หวัง แต่เราได้ Maximilian Maertens (แม็กซิมิเลียน แมร์เทนส์) ผู้ซึ่งกำลังออกแบบสิ่งประดิษฐ์สุดคูล และน่าทึ่งใหม่ ๆ อีกมากมายมาร่วมกับเรา และทำงานจากหนึ่งในไอเดียของการเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่เด่นชัดด้วยเส้นสายมากขึ้น รวมถึงการเผยให้เห็นถึงจักรกลได้มากขึ้นเช่นกัน”
ซึ่งการออกแบบที่ล้ำดูคล้ายกับยานอวกาศนี้ ใช้วัสดุหลากหลายชนิดในการประกอบ พลังงานของ MusicMachine 1 Reloaded มาจากสปริงขด และการถ่ายโอนพลังงานโดยรางเฟืองเกียร์ และต้องยกความดีความชอบให้แก่บรรดาอุปกรณ์ควบคุมทรงใบพัด ลักษณะเดียวกับที่พบได้ในนาฬิกากลไกแบบ Minute Repeater ซึ่งทำให้เกิดการเคลื่อนไหวของกระบอกสูบสองชิ้นที่บรรจุไว้ซึ่ง “ทำนอง” ของดนตรีซึ่งสร้างขึ้นโดยวัสดุของเข็มเล็ก ๆ หรือพิน ที่จัดวางอย่างแม่นยำถึง 1,400 ชิ้น ให้โน้ตดนตรีที่แตกต่างกัน ราวกับบรรเลงด้วยนักดนตรี เพราะเมื่อกระบอกสูบหมุน พินเหล่านี้จะดึงซี่ของหวีสตีลที่เป็นต้นกำเนิดเสียง ซึ่งแต่ละชิ้นถูกคัดสรร และสร้างสรรค์ขึ้นอย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวโน้ตเสียงที่ปรับแต่งด้วยมือ 72 ตัว ซึ่งจะไม่สามารถเล่นได้ครบทำนองสมบูรณ์หากขาดชิ้นส่วนเหล่านี้อย่างใดอย่างหนึ่ง
แรงบันดาลใจจากฮีโร่วัยเด็กอย่าง Luke Skywalker พระเอกจากภาพยนตร์ชื่อดัง Star Wars และ Captain James T. Kirk จากเรื่อง Startrek ของบูซเซอร์ ยังคงดำเนินต่อไป MusicMachine 1 Reloaded เล่นได้สามทำนองดนตรี และทั้งหมดผ่านการคัดเลือกเฉพาะโดย บูซเซอร์ ตามแรงบันดาลมใจจากมหากาพย์ภาพยนตร์อวกาศของเขาชื่นชอบ และเคยทำออกมาแล้วในรุ่นแรก ได้แก่ เพลงจาก Star Wars ใน Theme Song “Imperial March” และเพลงจาก Star Trek และหวนคืนสู่พื้นโลกกับเพลง “Another Brick in the Wall” ของ Pink Floyd, “Smoke on the Water” ของ Deep Purple และ “Imagine” ของ John Lennon
MusicMachine 1 Reloaded มี 3 สีให้เลือก ได้แก่ สีน้ำเงิน สีแดง และสีดำ ซึ่งผลิตจำนวนจำกัดเพียง 33 เรือนในแต่ละรุ่นสี
ข้อมูลจำเพาะทางเทคนิค ตัวเรือน, กรอบ และแพลตฟอร์ม
ลำตัวหลัก: อโนไดซ์อลูมิเนียม
แขนค้ำ: อโนไดซ์อลูมิเนียมและบีดบลาสต์; ตกแต่งอโนไดซ์แบบด้านสีดำสำหรับเวอร์ชันสีดำ
สัดส่วน: กว้าง 381 x ยาว 476 x สูง 140 มม.; น้ำหนักรวม: ประมาณ 3 กิโลกรัม
แพลตฟอร์มสำหรับเพิ่มประสิทธิภาพเสียง: ไม้สีดำตกแต่งแบบด้าน
กลไกและการตกแต่ง
มาพร้อมสองกลไก ขนาด 3.72 (3 อ้างอิงถึงจำนวนของทำนองดนตรีบนแต่ละกระบอกสูบ; 72 อ้างอิงถึงจำนวนโน้ตเสียงบนแต่ละหวี); กลไกหนึ่งอยู่บนด้าน “ขวา” ของโครงร่าง; กลไกหนึ่งอยู่บนด้าน “ซ้าย” ของโครงร่าง (โดยการหมุนในทิศทางตรงข้ามกัน)
แท่นเครื่อง: ทองเหลืองชุบนิเกิล, ตกแต่งด้วยลวดลายโคตส เดอ เฌแนฟ (Côtes de Genève) แท่นเครื่องรองรับทั้งสองกลไก; แต่ละกลไก รวมไว้ด้วยเมนสปริง, กระบอกสูบ, หวี และอุปกรณ์ควบคุม
เมนสปริง: ไขลานโดยผ่านใบพัดขับเคลื่อน
กระปุกลาน: สเตนเลสสตีล; แต่ละตัวบรรจุด้วยสกรู 6 ตัว ทำให้เป็นสีน้ำเงินด้วยความร้อนด้านบน; ด้านข้างแบบ “ลูกสูบ” เซาะร่อง
ตัวควบคุม: ใบพัดทำจากสเตนเลสสตีล
สำรองพลังงาน: ประมาณ 10 นาที
กระบอกสูบ: ทองเหลือง
เริ่มต้น/หยุด และฟังก์ชันดำเนินการต่อ
ตัวรองรับกระบอกสูบ: ทองเหลืองชุบนิเกิล
หนึ่งทำนองดนตรี = การหมุนหนึ่งรอบของกระบอกสูบ
สามทำนองดนตรีต่อกระบอกสูบ
ความยาวของแต่ละทำนองดนตรี: ประมาณ 35 วินาที
พลังงานสำรองต่อกระบอกสูบ: ประมาณ 10 นาที
พินแบบนำมาติดตั้งด้วยมือและขัดเงาด้วยมือ
ความยาวของพิน: 1 มม.; ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของพิน: 0.3 มม.
จำนวนพินต่อกระบอกสูบด้านขวา: 1,279 ชิ้น; จำนวนพินต่อกระบอกสูบด้านซ้าย: 1,399 ชิ้น
หวีกำเนิดเสียง: สตีลอัลลอยและตะกั่ว; 72 ซี่ต่อหวี; แต่ละหวียึดเชื่อมเข้ากับแผ่นสั่นสะท้อนทองเหลือง ด้วยสกรูสตีลหกตัวทำให้เป็นสีน้ำเงินด้วยความร้อน