นี่น่าจะเป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่บ่งบอกว่า วงการแฟชั่นเริ่มต้นปรับตัวเข้าสู่แพลตฟอร์มดิจิทัลอย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็น การทำการตลาด หรือเปิดตัวคอลเล็กชั่นใหม่ก็ตาม เพราะล่าสุดหนึ่งในแฟชั่นเฮาส์ใหญ่ที่เราไม่ค่อยเห็นการเคลื่อนไหวสักเท่าไรอย่าง Alexander McQueen ก็ได้ออกมาประกาศชัดว่า กำลังเตรียมเปิดตัว Creative Platform ใหม่ ให้เหล่าสาวกแฟชั่นได้เสพการสร้างสรรค์ของแบรนด์ได้อย่างใกล้ชิดขึ้นกว่าเดิม
ดิจิทัลแพลทฟอร์มใหม่ของแบรนด์ ได้ออกแบบร่วมกับ Everledger สตาร์ทอัพและผู้ให้บริการ Blockchain ชื่อดังและมาในชื่อ MCQ ที่มาจากสามตัวอักษรแรกจากนามสกุลของ Alexander McQueen ผู้ก่อตั้งแบรนด์และดีไซเนอร์ผู้ล่วงลับ โดย MCQ เป็นแพลทฟอร์มบนสมาร์ทโฟน ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางวางจำหน่าย และเป็นช่องทางให้เหล่าดีไซเนอร์และเหล่าพาร์ทเนอร์ได้มีพื้นที่สร้างสรรค์และถ่ายทอดไอเดียได้อย่างอิสระ ยังมาพร้อมกับโลโก้ใหม่สุดมินิมัลที่ทีม MCQ เรียกกันว่า “Phantom Jack” ที่มาจากการตัดทอนธงชาติอังกฤษให้เหลือเพียงเส้นไลน์รอบนอก ซึ่งคล้่ายกับสัญลักษณ์การกระจายของเสียง เพื่อสื่อสารว่า แพลทฟอร์มแห่งนี้กำลังจะส่งเสียงแทนอีกหนึ่งตัวตนแบรนด์
จุดสำคัญที่เซอร์ไพรส์เราได้ก็คือ MCQ ถูกวางแผนไว้ตั้งแต่ต้นว่าจะไม่มีครีเอทีพไดเร็กเตอร์ หรือหัวหน้าแผนกเหมือนกับฝ่ายอื่นๆ ของแบรนด์แต่จะเริ่มต้นงานและสร้างสรรค์ด้วยสมาชิกในทีมที่ชำนาญหรือมีความสนใจใน เรื่องเดียวกันแทน เพราะต้องการให้ผลงานของเหล่าดีไซเนอร์เกิดขึ้นมาจากตัวตนของพวกเขาจริงๆ ซึ่งน่าจะเป็นข้อดีที่จะทำให้เหล่าแฟนของแบรนด์ได้เสพผลงานแนวขบถ และรื้อถอนโครงสร้างในแบบใหม่ๆ เสียบ้าง
นอกจากนี้ยังได้ยินมาว่า พื้นที่ตรงนี้ยังเปิดให้เหล่านักสร้างสรรค์ได้ออกไป Collab ร่วมกับพาร์ทเนอร์คนอื่นๆ ด้วย ยิ่งช่วยทลายขีดจำกัดของเหล่าดีไซเนอร์ให้พัฒนาขึ้นไปอีกขั้น
เหล่าดีไซเนอร์ที่ออกแบบแฟชั่นไอเท็มแต่ละชิ้นยังได้รับเครดิตเป็นชื่อของตัวเองบน Label ซึ่งถือเป็นการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ที่เรามักจะไม่ได้เห็นในวงการแฟชั่น เพราะทุกครั้งที่พวกเขาสร้างสรรค์ผลงานมักจะออกมาในนามของแบรนด์เสมอ และได้เครดิตกลับมาในรูปแบบของตัวเลข แต่ไม่ใช่สำหรับ MCQ เพราะชื่อของทุกคนจะได้ไปปรากฏอยู่บนคอลเล็กชั่น แคมเปญ รันเวย์โชว์และสื่อทุกอย่างที่พวกเขาได้มีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์ แนวคิดในการทำงานสุดเสรีนี่เองยังทำให้พวกเขาไม่จำเป็นต้องเร่งรีบสร้างสรรค์แฟชั่นไอเท็มให้ตรงตามซีซั่นของวงการด้วย เราเลยจะได้เห็นผลงานที่พวกเขาลงแรงลงมืออย่างจริงจัง
ข้อดีของ MCQ ยังไม่หมดแค่นั้นนะ เพราะแบรนด์ยังได้พัฒนาเทคโนโลยีตัวใหม่ร่วมกับ Everledger ให้สามารถตรวจสอบป้าย Tracking ได้ ไม่ว่าจะช้อปฯ ไอเท็มจากแพลทฟอร์มโดยตรง หรือช้อปฯ จากงาน Resale ต่อมาอีกหนึ่งที ก็สามารถมั่นใจได้เลยว่าเราจะได้แฟชั่นไอเท็มของแท้ 100 เปอร์เซ็นต์อย่างแน่นอน
ดิจิทัลแพลทฟอร์มใหม่จาก Alexander McQueen ถือเป็นอีกหนึ่งสัญญาณสำคัญของวงการแฟชั่น ที่แสดงให้เห็นว่า แม้จะเป็นแบรนด์แฟชั่นแถวหน้าที่เก่งกาจ และไม่จำเป็นต้องพึ่งพาการตลาดมากนัก แต่ถ้าไม่รู้จักปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยเลยสักนิด สุดท้ายก็จะหลุดไปอยู่ท้ายแถวของวงการ และจางหายไปท่ามกลางคลื่นลูกใหม่ในที่สุด
สำหรับหนุ่มๆ ที่อยากจะเข้าไปทดลอง MCQ ก็อดใจรอกันอีกไม่นาน เพราะเขาเตรียมจะเปิดให้เข้าไปใช้อย่างเป็นทางการในวันที่ 3 กันยายน 2563 เป็นต้นไป ผ่านทาง my.mcq.com
┃Photos : Courtesy of Alexander McQueen
