ตอบรับการเติบโตของรถปลั๊กอินไฮบริดในเมืองไทยกับรถที่วิ่งได้สองระบบ ทั้งใช้น้ำมัน และไฟฟ้ากับ Mercedes-Benz C 350e AMG Dynamic ที่ทาง ‘เมอร์เซเดส-เบนซ์’ ทำตลาดเป็นรุ่น Top of the Line ด้วยความเชื่อมั่นในสมรรถนะของเครื่องยนต์ที่ชาร์จไฟครั้งเดียววิ่งได้กว่า 100 กม. ใช้แทนรถไฟฟ้าแบบหายห่วง และพลังของแบตเตอรีที่การันตีนาน 10 ปี
ชูธงความปลอดภัยและเทคโนโลยีสุดล้ำ!
Mercedes-Benz C 350e AMG Dynamic ปลั๊กอินไฮบริดที่โดดเด่นแปลกตาออกไปตั้งแต่แวบแรกกับกระจังหน้าใหม่ลาย Star Pattern ซึ่งไม่ได้มีไว้สวยๆ แต่มาพร้อมการมองเห็นได้คมชัดและกว้างไกลขึ้นด้วยไฟหน้าแบบ Digital Light ความละเอียดข้างละ 1.3 ล้านพิกเซล พร้อมเทคโนโลยี ULTRA RANGE Highbeam ไฟส่องสว่างไกลถึง 650 เมตร
การขับขี่อย่างปลอดภัย คือเรื่องที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ใส่ใจสูงสุด จึงติดตั้งมาให้ทุกจุดให้อุ่นใจ ทั้งระบบรักษาระยะห่างจากรถที่อยู่ด้านหน้า (Active Distance Assist DISTRONIC), Lane Tracking package พร้อมฟังก์ชันย่อย เช่น Active Lane Keeping Assist ช่วยดึงรถกลับเข้าช่องจราจรเดิมโดยอัตโนมัติ หากตรวจพบความเสี่ยงในการชน, ระบบช่วยเตือน เมื่อมีรถอยู่ในจุดบอดสายตา (Blind Spot Assist), ระบบช่วยจอดด้วย PARKTRONIC ตรวจจับพื้นที่จอดรถว่าง รวมไปถึงกล้องถอยหลังและเซนเซอร์อัลตราโซนิกที่ช่วยให้การเข้าจอดง่ายดายขึ้น
ขับขี่อย่างมีดีไซน์
มาดูกันที่ห้องโดยสารกันบ้าง เบาะหนังมีปีกด้านข้างกระชับนั่งสบาย คอนโซลด้านข้างคนขับมีหน้าจอ LCD ขนาด 12.3 นิ้ว ความละเอียดสูง อ่านง่ายในทุกสภาพแสง ปรับรูปแบบการแสดงผลได้ทั้งหมด 3 แบบ คือ Discreet, Sporty และ Classic พร้อม 3 โหมดการใช้งาน ได้แก่ Navigation, Assistance และ Service
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบสปอร์ต 3 ก้าน หุ้มหนัง Nappa ปรับสูง-ต่ำ-เข้า-ออก เพื่อให้ขับขี่ถนัดมือที่สุด มาพร้อมปุ่มมัลติฟังก์ชันควบคุมจอเรือนไมล์ และจอเครื่องเล่นตรงกลาง พร้อมด้วยปุ่มตั้งลิมิตความเร็ว, ปุ่ม Cruise Control ปุ่มตั้งระยะห่างระหว่างรถเรากับคันหน้าที่กดปรับเปลี่ยนที่พวงมาลัยได้ทันที ไม่ต้องละสายตาจากถนนไปสโครลหาบนหน้าจอ
จอเครื่องเล่นแบบสัมผัสแนวตั้งขนาดใหญ่ 11.9 นิ้ว ปรับชมความบันเทิง MBUX (Mercedes-Benz User Experience) ที่เป็นระบบสั่งงานด้วยเสียง มีฟังก์ชันสแกนลายนิ้วมือเพื่อเข้าสู่ระบบ MBUX ที่ตั้งค่าเฉพาะบุคคล และล้ำสุดๆ กับเอไอที่จะปรับการตั้งค่าต่างๆ ของรถไปตามพฤติกรรมการขับขี่ของเรา
หลังคาซันรูฟแยกเป็น 2 ส่วน สำหรับที่นั่งตอนหน้าและหลัง ส่วนสายสัมภาระก็เพียงกดปุ่มท้ายรถ เบาะหลังจะพับราบเรียบลงทันที เพราะรถรุ่นนี้ปรับตำแหน่งการวางแบตเตอรีแบบใหม่ จึงให้พื้นที่ภายในรถกว้างขวางไม่เป็นขั้นบันได
PHEV ขับเคลื่อนสองระบบ: น้ำมันและไฟฟ้า
สำหรับใครที่วิ่งรถวันละ 50-100 กิโลเมตร Mercedes-Benz C 350e AMG Dynamic ถือว่าตอบโจทย์ได้สบายๆ ด้วยแบตเตอรีความจุ 25.4 kWh ซึ่งมากกว่ารุ่นก่อนหนึ่งเท่าตัว จึงวิ่งด้วยระบบไฟฟ้าได้มากกว่า 100 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ทำความเร็วสูงสุดจากโหมดการขับขี่แบบพลังไฟฟ้าล้วน (Electric Mode) ได้ถึง 140 กิโลเมตร/ชั่วโมง หากวิ่งรถในระยะทาง 100 กม. ก็ใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างเดียวได้ทุกวัน โดยไม่มีการปล่อยไอเสียที่สร้างมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
หากวิ่งระยะทางไกลกว่านี้ก็ไม่ต้องกลัวว่าแบตเตอรีจะหมดกลางทาง เพราะเปลี่ยนไปใช้ระบบน้ำมันได้แบบเรียบลื่น ไม่มีจังหวะกระตุก สะดวกสบายด้วยหัวชาร์จแบบ CCS2 ซึ่งรองรับการชาร์จแบบเร็วด้วย ไฟกระแสตรง (DC) กำลังไฟ 55 kWh (0% – 100%) ใช้เวลาประมาณ 30 นาที และการชาร์จแบบไฟบ้านกระแสสลับ (AC) กำลังไฟ 11 kWh (0% – 100%) ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย เพิ่มความอุ่นใจให้กับลูกค้าปัจจุบันและลูกค้าใหม่ ด้วยการรับประกันคุณภาพของแบตเตอรีแรงดันสูง (High Voltage Battery) ที่ติดตั้งใน Mercedes-Benz C 350e AMG Dynamic ครอบคลุมเป็นระยะเวลานานถึง 10 ปี แบบไม่จำกัดระยะทาง (Unlimited mileage 10-year warranty)
สีตัวถังภายนอกมีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีขาว Polar White, สีดำ Obsidian Black, สีดำ Graphite Grey และ สีเงิน High-tech Silver เป็นเจ้าของรถรุ่น Top of the Line มาตรฐานเมอร์เซเดส-เบนซ์ได้ในราคา 3,350,000 บาท
เป็นเจ้าของ Mercedes-Benz C 350e AMG Dynamic ได้แล้ววันนี้
ผู้ที่สนใจ Mercedes-Benz C 350e AMG Dynamic สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม รวมถึงข้อเสนอพิเศษต่าง ๆ ได้ที่ผู้จำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ หรือที่เว็บไซต์ www.mercedes-benz.co.th และช่องทางโซเชียลมีเดียของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ทุกแพลตฟอร์ม
Words: Suphakdipa Poolsap
