มินฮีจินเริ่มต้นชีวิตทำงานด้วยตำแหน่งพนักงานออฟฟิศธรรมดา แต่ภายในเวลาไม่ถึง 20 ปี เธอกลายเป็นหนึ่งในผู้บริหารหญิงที่ร่ำรวยที่สุดในเกาหลีใต้ จากการเป็นมันสมองและสายตา ผู้คิดคอนเซปต์และผู้แลเห็นงานวิชวลโดนใจมหาชนของเคป๊อปวงดังอย่าง Girls’ Generation, SHInee, f(x), EXO, Red Velvet และ NewJeans
กราฟิกดีไซเนอร์สู่มือขวาท่านประธาน
มินฮีจินเริ่มต้นจากงานกราฟิกดีไซเนอร์ของค่าย SM ในปี 2002 ภายใน 5 ปีก็ขึ้นเป็นอาร์ตไดเร็กเตอร์ที่ทำหน้าที่ดูแลคอนเซปต์ งานวิชวลและแบรนดิ้งของศิลปินวงดังๆ ครั้นในปี 2017 จึงขึ้นเป็นจีเอ็ม ซึ่งไม่ง่ายนักที่พนักงานระดับปฏิบัติการจะขึ้นไปเป็นผู้บริหารใหญ่ของค่ายเพลงที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งใน BIG 4 ของวงการเคป๊อป อันได้แก่ SM, YG, JYP และ HYBE
ตำแหน่งของเธอในเวลานั้นคือครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ที่ตกกระไดพลอยโจนกลายเป็นผู้กำกับมิวสิกวิดีโอ ‘ภาพ’ ของวงไอดอลต่างๆ ที่ออกมาให้คนเห็นจะผ่านการกลั่นกรองจากเธอก่อน ทั้งมิวสิกวิดีโอ โลโก้ ปกอัลบั้ม โปสเตอร์ รูปถ่าย คอนเซปต์ในการขึ้นโชว์และเครื่องแต่งกายบนเวทีแต่ละครั้ง ไปจนถึงงานนิทรรศการและงานอีเวนต์โปรโมตต่างๆ แต่ฮีจินไม่ได้คิดแค่ว่าจะให้ศิลปินแต่งเสื้อผ้าหน้าผมอย่างไร หรือจะนำเสนอศิลปินอย่างไร แต่เธอกลับคิดว่าอยากสื่อสารแมสเสจอะไรออกไปให้ผู้คนรับรู้เกี่ยวกับศิลปิน
วงดังกับภาพจำโดนใจ
ในปี 2007 ก่อนที่ Girls’ Generation จะเดบิวต์ ฮีจินมีภาพบางอย่างที่อยากจะให้วงเกิร์ลกรุ๊ปน้องใหม่นี้เป็น และก็อยากให้อีซูมาน ประธานของค่าย SM ในเวลานั้นเลือกไอเดียของเธอมากกว่าจะใช้คอนเซปต์ที่ไปจ้างเอเจนซีมาคิดให้ นั่นเป็นจุดที่ฮีจินทำวิชวลบอร์ดขึ้นมาเพื่อไปขายงานกับท่านประธาน ซึ่งที่สุดแล้วก็โดนตกเข้าให้จริงๆ จึงมอบหมายให้ฮีจินไปจัดการบรีฟให้ทีมงานเข้าใจ
ซิงเกิลที่ทำให้โลกรู้จัก Girls’ Generation ก็คือ Gee ในคอนเซปต์เด็กสาวในเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีนส์กับโรลเลอร์เบลด กางเกงสลิมฟิตหลากสีกับรองเท้าส้นสูง ซึ่งกลายเป็นลุคไอคอนิกแห่งยุค ก่อนหน้านี้วงเกิร์ลกรุ๊ปจะมีภาพลักษณ์ว่าเป็นเด็กสาวที่เข้าถึงยาก เกินเอื้อม ลึกลับ ซึ่งมหาชนนั้นเบื่อง่ายหน่ายเสียแล้วกับภาพซ้ำเดิม หน้าที่ของฮีจินคือทำลายอคตินี้ไปเสีย
Hegel นักคิดชาวเยอรมันให้แนวทางไว้ว่า มนุษย์มีแรงดึงดูดจากขั้วตรงข้ามซึ่งเกิดจาก ข้อวินิจฉัย (thesis) + antithesis (ข้อโต้แย้ง) ทำให้เกิด synthesis (การประสม, การสังเคราะห์) ฮีจินใช้หลักการนี้ในการคิดงาน และพยายามคิดหา ‘ข้อโต้แย้ง’ ภาพลักษณ์เดิมๆของวงเกิร์ลกรุ๊ป และลองเสี่ยงดวงว่าน่าจะเป็นเด็กสาวใสแต่งหน้าอ่อนที่ดูเข้าถึงได้ง่าย ดูเป็นธรรมชาติ สอดคล้องไปกับเพลง Gee ที่สดใสหรรษา เธอจึงให้สาวๆใส่เสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีนส์ เสื้อผ้าชิ้นเบสิกสุดธรรมดา เพราะลุคนี้คือการกลับลำ 360 องศาจากภาพลักษณ์เดิมๆของไอดอลหญิง และลุคเรียบง่ายนี้จะยิ่งไปขับเน้นภาคดนตรีให้ติดหูยิ่งขึ้น ขณะที่กางเกงยีนส์สลิมฟิตหลากสีจะยิ่งขับเน้นท่าเต้นปูเดินซึ่งเน้นขาในเพลงนี้ของสาวๆให้ชัดขึ้น ผลก็คือมันคือลุคที่โลกจดจำและเป็นเพลงที่ทุกวันนี้โลกยังร้องตามได้
มาสเตอร์พีซของฮีจินคือคอนเซปต์อัลบั้ม Pink Tape ของวง f(x) ซึ่งเธอทำให้วิชวลของวงนี้คือขั้วตรงข้ามของ Girls’ Generation ภาพแรกที่เธอเห็นเมื่อนึกถึง f(x) ก็คือม้วนวิดีโอเทปสีชมพู ตัวแทนการโหยหาวันชื่นคืนสุขในอดีตของคนเจนเอ็กซ์ และเจนวายอย่างเธอ เธออยากให้ทุกอย่างของอัลบั้มนี้เหมือนเซอร์ไพรส์ที่โดดออกมาจากม้วนเทปสีชมพูนั้น ซึ่งก็เป็นเช่นนั้นจริงๆอย่างเป็นรูปธรรม เมื่ออัลบั้มของวงก็ทำเป็นม้วนวิดีโอเทปสีชมพูที่แฟนๆของวงเก็บรักษาอย่างดี เพราะมันคืองานศิลปะดีๆ นี่เอง
ความทรงจำของ f(x) เป็นสีชมพู เป็นมอนทาจที่มีภาพซึ่งไม่ใช่เรื่องราวเดียวกันปะติดปะต่อกันอย่างโดดข้ามลำดับเวลาไปมา ซึ่งยากที่สมาชิกของวงและทีมงานคนอื่นๆจะเข้าใจ มีเพียงฮีจินคนเดียวซึ่งเห็นภาพทุกช็อตในหัว นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่เธอลงมากำกับมิวสิกวิดีโอเองเป็นครั้งแรก
และเมื่อฮีจินคิดสวนทางกับ f(X) อีกครั้ง ก็ได้ผลลัพธ์ที่แตกต่างไปจากโลกแห่งความทรงจำสีชมพู แต่เป็นรสชาติสดแสบแบบ Red Velvet
ส่วน Growl เพลงแจ้งเกิดของ EXO ฮีจินจับหนุ่มๆใส่ชุดนักเรียนไฮสกูล เพราะตีความว่าช่วงวัยรุ่นเป็นช่วงเวลาเดียวในชีวิตที่เราจะขู่คำรามหรือปลดปล่อยความคับข้องออกมาอย่างไร้ขีดจำกัดได้ มันเป็นการตีความที่มากไปกว่า เสียงคำราม – เขี้ยว – กรงเล็บ งั้นให้ EXO แต่งตัวเป็นหมาป่าดีกว่า ทว่าการหักมุมหลายซับหลายซ้อนแต่ออกมาเข้าใจง่ายและเข้าถึงง่ายของเธอคือสูตรสำเร็จที่ทำให้เธอไม่เคยมองพลาด งานของเธอปังทุกชิ้น
จาก SM สู่ HYBE
ฮีจินอยู่กับ SM มาถึง 16 ปี ก่อนจะลาออกไปเป็นซีบีโอหรือประธานฝ่ายดูแลแบรนด์ของ HYBE ในปี 2019 ก่อนที่ในปี 2021 เธอตั้งค่ายใหม่ ADOR ในเครือ HYBE ฮีจินจึงกลายเป็นผู้หญิงระดับประธานบริษัทหรือผู้บริหารสูงสุดในอุตสาหกรรมทั้งหมดของเกาหลีใต้เพียงไม่กี่ราย ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยากมากในประเทศที่มีแนวคิดชายเป็นใหญ่
ความสำเร็จในอดีตนั้นรับรองความสามารถของเธอ แต่ไม่การันตีความสำเร็จในอนาคต ศิลปินเบอร์แรกของค่าย ADOR ของเธอคือ NewJeans วงเกิร์ลกรุ๊ปวัยใสที่จู่ๆก็ปล่อยมิวสิควิดีโอออกมาเลยในเพลง Attention เมื่อกลางปี 2022 โดยไม่มีการแง้มตัวสมาชิก แนะนำวง หรือบอกข่าวสารใดๆว่าจะมีวงนี้เกิดขึ้นในโลก แต่ฮีจินตัดสินใจมองหา ‘antithesis’ อีกครั้งด้วยการทำให้สาวๆวงนี้คือความลับที่เป็นเซอร์ไพรส์หมดจดแท้จริง
และเธอก็ไม่พลาดอีกครั้ง เมื่อภายใน 4 วัน อัลบั้มแรกของวงโนเนมนี้กลับมียอดพรี-ออร์เดอร์มากถึง 444,000 ก็อปปี้ ส่วน OMG อัลบั้มสองที่เพิ่งออกมาเมื่อต้นปี 2023 มียอดสั่งจองล่วงหน้า 800,000 ก็อปปี้ และเพลง Ditto ก็เข้าชาร์ตบิลบอร์ดสัปดาห์ที่อันดับ 8 ซึ่งเป็นอันดับสูงสุดของวงหน้าใหม่ที่เคยทำได้
หลังเดบิวต์ไม่ถึงปี สมาชิกของวงทยอยกันเป็นทูตของแบรนด์แฟชั่นยักษ์ใหญ่ของโลก Hanni ร่วมงานกับ Gucci Danielle สาวลูกครึ่งออสเตรเลียที่เป็นทูต Burberry ส่วน Hyein วัย 15 กลายเป็นทูตอายุน้อยที่สุดของ Louis Vuitton และ Haerin ที่โดน Dior จีบไปร่วมงาน
ทั้งห้าสาว NewJeans เตรียมคัมแบ็กในซิงเกิล ASAP วันที่ 21 กรกฎาคมนี้ พร้อมอัลบั้มใหม่ “Get Up” ที่มี 6 เพลง ซึ่งจะได้เห็นผู้นำเทรนด์ Y2K ผละไปเทรนด์ใหม่สไตล์ fairycore
หนึ่งในผู้หญิงที่รวยที่สุดในเกาหลีใต้
ในการจัดอันดับผู้ถือหุ้นหญิงที่ร่ำรวยที่สุดในเกาหลีใต้ สามเสือแห่งอาณาจักร Samsung ได้แก่ ฮงราฮี อดีตอาร์ตไดเร็กเตอร์ Leeum Museum of Art, อีบูจิน ประธานโรงแรม Shilla และ อีซอฮยอน กรรมการ Samsung Welfare Foundation ติดท็อป 3 จากทรัพย์สินเพิ่มพูนขึ้นมหาศาลจากมรดก
ในบรรดาผู้ถือหุ้นหญิงสุดรวย 417 ราย มีเพียง 34 คนเท่านั้นที่ไม่ได้มาจากแชโบล หรือตระกูลยักษ์ใหญ่มั่งคั่งของเกาหลีใต้ แต่เป็นผู้หญิงที่สร้างเนื้อสร้างตัวขึ้นเอง อาทิ ชเวซูยอน ซีอีโอของ Naver เสิร์ชเอนจิ้นของเกาหลีใต้ และมินฮีจิน ซีอีโอแห่ง ADOR มารดาแห่งวงการเคป๊อป ผู้ปลุกปั้น NewJeans นั่นเอง
มินฮีจินประสบความสำเร็จขึ้นไปเรื่อยๆ มาตรฐานการทำงานของเธอก็ยิ่งสูงขึ้นตาม กระทั่งเธอตระหนักว่ามันคือการทำสงครามที่เธอสู้รบกับตัวเอง นั่นคือศัตรูภายใน ส่วนศัตรูภายนอกคือการพยายามแนะนำโลกให้รู้จักกับสิ่งใหม่ที่ไม่คุ้นชิน เธอต้องหว่านล้อมหาแนวร่วม พยายามอธิบายให้ทีมงานเข้าใจว่ากำลังทำอะไรและทำไปเพื่ออะไร รวมทั้งเตรียมแผนสำรองไว้ตลอดเวลาเพราะไม่มีอะไรแน่นอน ซึ่งการจะทำเช่นนั้นได้ต้องอาศัยสำนึกความรับผิดชอบอย่างสูง
มิเช่นนั้นแล้ว ความพ่ายแพ้ย่อมรออยู่ที่ปลายทาง
Words: Suphakdipa Poolsap
ข้อมูลจาก