แบรนด์คราฟต์สัญชาติไทยในรูปลักษณ์ที่ฉีกออกไปจากหัตถศิลป์สไตล์โบฮีเมียน เมื่อ Muunsan (มุนซัน) ปีนป่ายออกมาอย่างโดดเด่นด้วยงานคราฟต์สไตล์มินิมัล ซึ่งกระเป๋าและรองเท้าทุกชิ้นล้วนถักทอสานด้วยมือจากวัสดุแข็งแรงทนทานที่วงการแฟชั่นมองข้ามอย่าง เชือกปีนเขา
แวบแรกที่เห็นกระเป๋าถัก Racket Tote ที่ได้แรงบันดาลใจจากรูปทรงแร็กเก็ตเทนนิสกับ Geiko รองเท้าสานส้นซ้อนสองชั้นที่เหมือนเวอร์ชั่นอัพเดทของเกี๊ยะแบบญี่ปุ่น มันให้ความรู้สึกเรียบ นิ่ง แข็งแรง หากก็ไม่ได้เรียบว่างเปล่าแบบเซน กลับจะเป็นความเรียบโก้ที่ดูพลิ้วไหวและเต็มไปด้วยชีวิตชีวา ความประทับใจแรกนั้นเองที่ทำให้เราค้นจนพบว่าเป็นผลงานของ Muunsan แบรนด์ไทยน้องใหม่แรกคลอดในช่วงโควิดแต่มีผู้ก่อตั้งและดีไซเนอร์มากประสบการณ์แฟชั่นจากนิวยอร์ก
คราฟต์ในแบบ Muunsan นั้นเรียบ มินิมัล และแฝงความคลาสสิค
โสม-โสมวราภรณ์ พิจิตรพงศ์ชัย และ ซัน-ภัส อัศวาภิรมย์ สองผู้ก่อตั้ง Muunsan (มุนซัน) แบรนด์ที่ใช้ชั้นเชิงใหม่มาสร้างงานคราฟต์ที่ไม่ได้ตกอยู่ในสุนทรียะแบบโบฮีเมียนอันเฟื่องล้น แต่คราฟต์ในแบบ Muunsan นั้นเรียบ มินิมัล และแฝงความคลาสสิค ซึ่งก็ถ่ายถอดมาจากจิตวิญญาณของผู้ก่อตั้งที่ใช้ชีวิตในไทยเท่าๆกับในต่างประเทศ
นักออกแบบหลักของ Muunsan คือโสมผู้ร่ำเรียนมาทางแฟชั่นดีไซน์โดยตรงทั้งจาก University of the Arts London และ Raffles Design Institute ก่อนจะบินข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกไปเรียนด้าน Footwear Design & Construction, Brand Management ที่ Fashion Institute of Technology ในนิวยอร์ก ก่อนจะทำงานที่แบรนด์กระเป๋าอยู่ที่นั่นนานถึง 7 ปี ราวกับจะปูพื้นฐานหนักแน่นไว้รออนาคต
เพราะเมื่อโควิดระบาดไปทั้งโลก จากที่เคยบินไป-กลับกรุงเทพฯ-นิวยอร์กเป็นว่าเล่น โสมจำต้องปักหลักที่เมืองไทย วันเวลาอันยาวนานในต่างประเทศและในฐานะคนทำงานให้กับแบรนด์มาถึงจุดอิ่มตัว นั่นทำให้โสมกับซันจับมือกันสร้าง Muunsan ขึ้นมา โดยได้ใช้ทักษะทั้งหมดที่เคยทำแบรนด์แฟชั่นในนิวยอร์กร่วมกับความสามารถในการดูแลการผลิตของพาร์ทเนอร์ปั้นให้แบรนด์คราฟต์ชื่อแปลกหู ดีไซน์แหวกความคราฟต์นี้เป็นไอเท็มที่แฟนๆของแบรนด์บอกต่อๆกันไป และในเวลาไม่ช้านาน ชื่อ Muunsan ก็สร้างฐานแฟนคลับที่กลับมาซื้อซ้ำและบอกต่อได้อย่างรวดเร็ว
ผลงานทุกชิ้นของ Muunsan ทำขึ้นจาก ‘เชือกปีนเขา’
ความแตกต่างของ Muunsan เกิดขึ้นตั้งแต่วัสดุ ผลงานทุกชิ้นเป็นงานทำมือที่ทำขึ้นจากเชือกปีนเขา วัสดุที่โสมคุ้นเคยมาตั้งแต่สมัยทำแบรนด์ในต่างประเทศ ด้วยคุณสมบัติเหนียว แน่น ทนทาน ใช้ได้นาน หากก็เป็นวัสดุที่วงการแฟชั่นมักมองข้ามไป เชือกปีนเขาไม่เคยดูสวยโก้และเซ็กซี่ได้มากกว่านี้อีกแล้วเมื่อมันถูกถักทอด้วยเทคนิคถักโครเชต์หรือถักมาคราเม่ จนเชือกธรรมดากลายร่างเป็นกระเป๋ารูปร่างเหมือนถุงช้อปปิ้งในรุ่น Racket หรือกระเป๋าทรงเหลี่ยมที่ดูอ่อนละมุนรุ่น SanQ Tote เป็นรองเท้าแกลดิเอเตอร์ที่ใส่ได้ 3 แบบในรุ่น Luqa
ทุกอย่างที่ Muunsan ทำนั้นใส่ความหักมุมเล็กๆน้อยๆ สร้างความคุ้นเคยเมื่อแรกเห็น แต่สร้างความอัศจรรย์เมื่อยิ่งพลิกดูไปนานๆ ซึ่งเกิดจากความใส่ใจในรายละเอียดของโสมและซันที่ต้องสร้างชิ้นงานเป็นโปรโตไทป์ขึ้นมาเองก่อน แล้วจึงค่อยนำไปอธิบายและหารือกับช่างฝีมือ ทั้งสอนเทคนิคใหม่ๆและคิดค้นพัฒนาวิธีการที่แตกต่างร่วมกับช่างฝีมืออย่างใกล้ชิด
และก็เป็นจุดนี้เองที่สร้างความแตกต่างอย่างเด่นชัด เมื่อ Muunsan ไม่ได้เข้าไปยังชุมชนช่างฝีมือต่างๆเพื่อจะนำเอาเทคนิคหรือลวดลายของช่างกลุ่มนั้นๆมาใช้กับแบรนด์ทันที หากแต่ทั้งสองมีภาพของแบรนด์ที่ชัดเจนในใจ จึงเป็นการรับทักษะของช่างมาปรับใช้ในการสร้างสุนทรียะในแบบของ Muunsan มากกว่า งานคราฟต์ของแบรนด์นี้จึงไม่มีกลิ่นอายความเป็นโบฮีเมียนดังที่จะเห็นได้จากงานคราฟต์โดยทั่วไป แต่เป็น Zen Twist ที่ซ่อนรายละเอียดในความเรียบ
หากความต่างที่สำคัญก็คือ ความพยายามจะสร้างความตระหนักรู้ให้ผู้คนได้เห็นคุณค่าของคนทำงานคราฟต์ ซึ่งในโลกตะวันตกนั้น คนทำงานคราฟต์คืออาชีพที่มีเกียรติ ได้รับการยกย่องสูง ผลงานก็ถูกให้คุณค่าและมูลค่าสมกับเวลาและความสามารถเฉพาะทางที่ทุ่มเททำให้กับผลงานชิ้นหนึ่งๆด้วยสองมือ ที่ Muunsan จึงไม่ปิดบังเลยที่จะบอกว่าช่างฝีมือแต่ละคนจะได้รับค่าตอบแทนตามชิ้นงานและตามเทคนิคความสามารถ เป็นเพราะช่างแต่ละคนมีทักษะเฉพาะทางต่างกันไป หาใช่ได้เป็นเงินเดือนไม่ว่าจะทำงานได้กี่ชิ้นก็ตาม
‘เครื่องหนัง’ คือคอลเลกชันต่อไปของ Muunsan
แค่เชือกเปล่าๆยังสร้างสรรค์ออกมาเป็นชิ้นงานได้หลากหลายและปราณีตมากถึงเพียงนี้ เราจึงแทบระงับใจไม่อยู่เมื่อโสมบอกว่า คอลเล็กชันต่อไป Muunsan จะขยับขยายไปทำเครื่องหนังอันเป็นความสามารถโดยตรงของตัวดีไซเนอร์พอดี อีกไม่นานเกินรอ
Words: Suphakdipa Poolsap
Photos: Muunsan
