ในมุมมองของชาวต่างชาติหากพูดถึงประเทศไทยของเราแล้วนั้นนอกจากสถานที่ท่องเที่ยวอันหลากหลายและวัฒนธรรมที่น่าสนใจ มีอีกหนึ่งสิ่งที่เปรียบเสมือนแม่เหล็กที่คอยดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติให้หมุนเวียนเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย จนประเทศไทยเคยคว้าอันหนึ่งในการจัดอันดับ ‘Mastercard’s Global Destination Cities Index’ หรือ ‘เมืองที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดในโลก’ ของบัตรเครดิต MasterCard อยู่หลายปีซ้อน
ทำให้เรามองว่าอีกหนึ่ง Thai Persona ที่โดดเด่นแม้จะไม่ใช่ตัวบุคคลหรือแบรนด์สินค้าต่างๆ ที่หลอมรวมความเป็นไทยเข้าเป็นจุดขายก็คือ ‘อาหารไทย’ หรือ ‘Thai Food’ นั่นเอง ที่สามารถเป็นตัวแทนของความเป็นไทยและวัฒนธรรมไทยที่ซ่อนอยู่ภายใต้สำรับอาหารได้เป็นอย่างดี ที่อาหารไทยนั้นโด่งดังไปทั่วทุกมุมโลกนั้นคงเป็นเพราะอารหารไทยมีเสน่ห์เฉพาะตัว นอกจากนั้นอาหารไทยยังขึ้นชื่อว่าเป็นอาหารที่มีรสชาติอร่อยครบเครื่องทั้งอาหารคาวและหวาน
เพื่อส่งท้ายธีม #THAIPERSONA ของนิตยสาร LIPS วันนี้เราจะมาพูดถึงเหล่าเมนูอาหารไทยที่มีชื่อกระฉ่อนไปทั่วโลกจนกลายเป็นอีกหนึ่งจุดขายและ Soft Power ของประเทศไทยที่คอยเป็นพลังเงียบในการเผยแพร่วัฒนธรรมและดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าสู่ประเทศของเรา จนการท่องเที่ยวเป็นเศรษฐกิจหลักของประเทศที่ดึงดูดเงินหลายล้านล้านบาทเข้าสู่กระเป๋าของผู้ประกอบการและภาครัฐฯ
นอกจากนั้นเรายังจะโฟกัสไปที่เหล่า Thai Persona ที่ได้การยอมรับจากองค์กรระดับนานาชาติอย่าง ‘Michelin’ บริษัทยางรถยนต์จากประเทศฝรั่งเศสที่ได้จัดทำไกด์บุ๊ที่มีชื่อว่า “Mochelin Guide” หรือการจัดอันดับร้านอาหารที่นำเสนออาหารที่มีคุณภาพดีที่สุด จนกลายเป็นร้านอาหารขึ้นชื่อที่เหล่านักชิมจดไว้เป็น Wist List ว่าจะต้องไปกินสักครั้งหนึ่ง ซึ่งในประเทศไทยของเราเองก็มีร้านอาหารที่ได้ Michelin Star และรางวัลอื่นๆ ที่แจกโดยการจัดอันดับนี้อยู่มากมาย
The Most Famous Thai Food
ก่อนที่เราจะไปเช็กรายชื่อร้านอาหารที่ได้ Michelin Star รางวัลอันทรงเกียรติด้านอาหารของใครหลายๆ คน ก่อนอื่นเราต้องทำความรู้จักกับเมนูอาหารไทยที่เปรียบเสมือนนางเอกที่ขึ้นชื่อของประเทศไทยกันเสียก่อน เพราะหลายคนอาจจะไม่เคยรู้ว่าเมนูอาหารไทยของเรานั้นติดอันดับต้นๆ ของการจัดอันอาหารที่อร่อยที่สุดในโลกอยู่หลายปีเลย
มัสมั่น
“มัสมั่นแกงแก้วตา หอมยี่หร่ารสร้อนแรง” จากกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานของรัชกาลที่ 6 ก็พอจะรู้แล้วว่าเมนูแรกที่เราจะพูดถึงอย่าง ‘มัสมั่น’ นั้นได้รับความนิยมในหมู่คนไทยมาตั้งแต่ในอดีต แต่ปัจจุบันเมนูอาหารนี้ที่ได้ฉายาว่าเป็นราชาแห่งแกงกะหรี่นั้นก็ยังได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติจนคว้าอันดับหนึ่งการจัดอันดับ ‘อาหารจานเด็ดที่สุดในโลก’ ของปี 2021 ที่จัดอันดับโดย CNN Tralvel อีกด้วย
ต้มยำกุ้ง
อีกหนึ่งอาหารคาวที่เป็น Soft Power ของไทยอย่าง ‘ต้มยำกุ้ง’ นั้นได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในหมู่ชาวต่างชาติมานานหลายปี จนทำให้เมนูนี้ติดอันดับ ‘อาหารจานเด็ดที่สุดในโลก’ ของปี 2021 ด้วยเช่นกัน ซึ่งความเด็ดของเมนูนี้ก็รสชาติเผ็ดแซ่บซี้ดที่ถึงใจคนทาน นั่นยังไม่รวมรสเปรี้ยวและรสเค็มที่ผสมลงตัวอยู่ในเมนูนี้ ทำให้เมนูที่ครบรสชาตินี้ติดใจทั้งชาวไทยและเทศจนกลายเป็นอีกหนึ่งอาหารที่เรียกว่าเป็นพลังอ่อนของไทยอย่างแท้จริง
แกงเขียวหวาน
เมนูต่อมาเป็นเมนูแกงรสเด็ดของไทยที่มีมาตั้งแต่โบร่ำโบราณอย่างเมนู ‘แกงเขียวหวาน’ ที่อบอวลไปด้วยพริกแกงเขียวหวานสุดเข้มข้นผสานกับกะทิที่เคี่ยวจนแตกมัน ตามด้วยผักนานาชนิดที่เป็นเครื่องของแกงเขียวหวาน ส่วนผสมที่ลงตัวและรสชาติที่ถูกปากทุกคนได้ไม่ยาก ทำให้เมนูที่มีสีสันสวยงามกลายเป็นที่ชื่นชอบของชาวต่างชาติและคนไทยอย่างง่ายดาย
ผัดไทย
เมนูอาหารไทยที่ขึ้นชื่อและมีอยู่คู่กับทุกแลนด์มาร์คของชาวต่างชาติในไทยอย่าง ‘ผัดไทย’ จนได้ฉายาว่าเป็นสุดยอดสตรีทฟู้ดเมืองไทยเลยก็ว่าได้ ก๋วยเตี๋ยวเส้นจันท์นุ่มลิ้นผัดกับซอสรสเปรี้ยวหวานที่ทำจากซอสมะขามเปียก พร้อมเครื่องปรุงนานาชนิดที่ช่วยปรุงรสชาติให้หลากมิติทำให้เมนูแสนทานง่ายเมนูนี้เป็นที่ชื่นชอบของชาวต่างชาติมากๆ เรียกว่าเมื่อไหร่ที่มาประเทศไทยก็ต้องสั่งผัดไทยไว้ก่อน!
ข้าวเหนียวมะม่วง
ปิดท้ายที่เมนูของหวานสุดโด่งดังอย่าง ‘ข้าวเหนียวมะม่วง’ อีกหนึ่งอาหารไทยที่ติดอันดับขนมยอดนิยมระดับโลกที่จัดอันดับโดย CNN เช่นกัน ซึ่งเมนูนี้ติด 50 อันดับแรกของเมนูขนมหวานยอดนิยมในปี 2019 ด้วยการผสมผสานระหว่างข้าวเหนียวมูนและมะม่วงสุดทำให้เมนูนี้เรียกว่าเพอร์เฟกต์มากๆ ในสายตาของคนไทยและชาวต่างชาติหลายๆ คน จนทำให้พวกเขาต้องลองลิ้มรสเมนูของหวานนี้สักครั้งหากมาเยือนประเทศไทย
The Michelin Guide 2022
มาต่อกันที่ร้านอาหารที่ได้รับ ‘ดาวมิชลิน’ หรือ ‘Michelin Star’ จากการจัดอันดับ Michelin Guide ฉบับที่ 5 ของประเทศไทย ซึ่งในปี 2022 นี้มีทั้งร้านอาหารหน้าเก่าที่ยังรักษาดาวไว้ได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงร้านอาหารใหม่ๆ ที่เพิ่งได้ดาวมิชลินสดๆ ร้อนๆ ในปีนี้ ซึ่งวันนี้เราจะยกร้านอาหารมาทั้งหมด 5 ร้านด้วยกันซึ่งทุกร้านเป็นร้านอาหารไทยที่ชูความเป็นไทยออกสู่สายตาชาวโลกตามธีม Thai Persona
Sorn (ศรณ์)
เริ่มกันที่ร้านแรกอย่าง ‘Sorn’ หรือ ‘ศรณ์’ ร้านอาหารใต้สไตล์ Fine Dining ที่นำเสนอเมนูอาหารใต้ได้อย่างน่าสนใจ ร้านนี้เป็นอีกร้านที่เมื่อเปิดจองคิวทีไรก็จะเต็มอย่างรวดเร็วเป็นเพราะความพิเศษของอาหารของร้านนี้ที่นำเสนอเมนูอาหารใต้ได้อย่างครบเครื่อง เพราะทางร้านได้นำเสนออาหารใต้ในรูปแบบดั้งเดิมคงไว้ซึ่งรสชาติต้นตำรับ ที่สำคัญยังใช้วัตถุดิบจากท้องถิ่นที่มีคุณภาพที่มาจากชาวเกษตรและชาวประมงท้องถื่น ซึ่งร้านศรณ์ได้ดาวมิชลิน 2 ดาวด้วยกันและครองแชมป์มา 3 ปีติดตั้งแต่ปี 2020 – 2022 เลย
R.HAAN
ต่อกันที่ร้านต่อมาที่ยังคงนำเสนออาหารไทยในรูปแบบของ Fine Dining ซึ่งร้านนี้มีชื่อว่า ‘R.HAAN’ ร้านอาหารไทยสุดลักชูรี่ย่านทองหล่อที่จะชวนคุณมาเปิดประสบการณ์ทานอาหารไทยแบบต้นตำรับโดยฝีมือเชฟชุมพล ซึ่งอาหารของร้านนี้จะเสิร์ฟเป็นคอร์สในรสชาติแบบไทยแท้ๆ ซึ่งทางร้านจะเลือกใช้วัตถุดิบชั้นดีประจำฤดูกาลสมกับสมุนไพรชั้นเลิศที่นำมารังสรรค์เป็นเมนูอาหารอย่างพิถีพิถัน เช่นเดียวกับร้านก่อนหน้า R.HAAN ได้ดาวมิชลิน 2 ดาวด้วยกันและครองแชมป์มา 3 ปีติดตั้งแต่ปี 2020 – 2022 เช่นเดียวกัน
Aksorn
มาต่อกันที่ร้านต่อมาที่ได้รับรางวัล Michelin Star ประเภท 1 ดาว ไปสดๆ ร้อนๆ ในปีนี้กับร้าน ‘Aksorn’ ร้านอาหารไทยรสชาติต้นตำรับที่ตั้งอยู่ย่านเจริญกรุง ซึ่งทุกๆ เมนูของทางร้านนี้จะเป็นอาหารไทยสูตรโบราณที่ดูแลโดยเชฟเดวิด ธอมป์สัน โดยเชฟเดวิดจะคัดเลือกเมนูอาหารไทยที่น่าสนใจและน่าลิ้มลองจากตำราอาหารไทยที่เก็บสะสมไว้ โดยจะเป็นตำราอาหารในช่วงปีพ.ศ. 2480 – 2515 บางเมนูจึงเป็นเมนูหาทานยาก ยกตัวอย่างเช่น เรไรหน้าปูม้า ยำยอดกระถิน น้ำพริกนครบาล และขนมทองพลุ
Saneh Jaan (สเน่ห์จันทน์)
สำหรับร้านต่อมาเรียกได้ว่าครองแชมป์มิชลิน 1 ดาวมาถึง 5 ปีติดตั้งแต่ปี 2018 จนถึง 2022 เลย ร้านนี้มีชื่อว่า ‘เสน่ห์จันทน์’ หรือ ‘Saneh Jaan’ ที่จะเสิร์ฟอาหารไทยโบราณแบบชาววังแท้ๆ โดดเด่นด้วยรสชาติที่ปรุงโดยฝีมือเชฟ นอกจากรสชาติอาหารของร้านนี้จะถูกปากคออาหารไทยแล้วยังมีรูปลักษณืที่สวยงามมากๆ ด้วยเพราะทางร้านใส่ใจในการสร้างสรรค์แต่ละเมนูจริงๆ โดยทางร้านมีอาหารไทยให้เลือกทั้งเมนูคาวและหวานที่เสิร์ฟภายใต้บรรยากาศร้านแบบร่วมสมัย มิน่าล่ะร้านนี้ถึงครองแชมป์ถึง 5 ปีติด
Gaa
ร้านสุดท้ายมีชื่อสุดเก๋และแปลกจากร้านอื่นๆ ในลิสต์นี้เพราะว่าร้านนี้เป็นร้านอาหารอินเดียสไตล์ Fine Dining สุดเก๋ ร้านนี้มีชื่อว่า ‘Gaa’ ร้านอาหารอินเดียฟิวชั่นย่านสุขุมวิทที่คัดเลือกเมนูอาหารอินเดียรสชาติต้นตำรับมาเสิร์ฟให้ชาวไทยได้ลอง โดยมีเชฟที่ดูแลก็คือเชฟการิมา แล้วทำไมร้านอาหารอินเดียร้านนี้ถึงมาติดอยู่ในลิสต์นี้ด้วยหลายคนอาจสงสัยก็เป็นเพราะว่าหลายๆ เมนูของร้านนี้ผสมผสานวัตถุดิบท้องถิ่นของไทยลงไปจึงทำให้เป็นการผสมผสานระหว่างความเป็นไทยและอินเดียได้อย่างลงตัว โดยเมนูในร้านจะมีการเปลี่ยนทุกๆ สามเดือนด้วยนะ ใครอยากลองห้ามพลาดเลย!