“จักรวาลของ PZ เกิดจากการมองโลกผ่านมุมมองที่มีความเป็น Thai Humour เป็นอารมณ์ขันในแบบของเราที่เกิดและเติบโตในเมืองไทย”
โกโกริโกะ เกมกึ๋ยส์, ทีวีแชมเปี้ยน, Family Guy, The Office, RuPaul’s Drag Race ฯลฯ
การเป็นบิ๊กแฟนของรายการบันเทิงข้างต้น เป็นหนึ่งในร่องรอยที่แสดงให้เห็นถึงรากฐานแห่งการเป็นคนอารมณ์ดีและมโนทัศน์ที่เปิดกว้างของ ‘เพชรชี่ – ณัฐณิชา โอภาสสุขสถิต’ (PZ Opassuksatit) หรือ ‘PZ Today’ สาวไทยในกรุงปารีสที่มีชื่อชั้นติดทำเนียบศิลปินและครีเอทีฟดาวรุ่งระดับโลกจากเวที Fashion Awards 2020 เธอเป็นแขกรับเชิญที่โปรยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะระหว่างการสนทนาได้ถี่ที่สุดคนหนึ่ง คอนทราสต์กับลุคโมเดลสุดเฟียซที่เธอเพิ่งโคฟเป็นลูกสาวโจรสลัดบนแคตวอล์ก Vaquera Spring/Summer 2023 ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา
“จักรวาลของ PZ เกิดจากการมองโลกในแบบที่ไม่ต้องซีเรียสมาก เราเล่าเรื่องราวผ่านมุมมองที่มีความเป็น Thai Humour เป็นอารมณ์ขันในแบบของเราที่เกิดและเติบโตในเมืองไทย” นี่เองคือขุมทรัพย์ที่ทำให้เพชรชี่สร้างสรรค์คอมเมอร์เชียลอาร์ตได้น่ารักแสบซ่า สนุกฮา บ้าพิเรนทร์ ฯลฯ รวมถึงผลงานศิลปะเบาสมองที่สื่อสารอย่างตรงไปตรงมา ให้เราปล่อยจอยปล่อยใจ หัวเราะเสียงดังได้ ไม่ต้องปีนบันไดเสพ ที่สำคัญเพชรชี่เน้นย้ำว่าผลงานของเธอนั้นสำหรับ All ages, all genders, all races เสพได้ทุกเพศทุกวัย ทุกชนชาติ
“เราไม่ได้ตลกแบบไม่มีแก่นนะ” เพชรชี่ออกตัวพลางหัวเราะร่วน หลังจากง่วนกับการจัดนิทรรศการเดี่ยว ‘The Hanger Show’ ที่แกลเลอรี Goswell Road ในปารีสช่วงปลายเดือนมิถุนายน หลังจากที่เคยยกไปแสดงศิลปะจัดวางที่ร้าน Gentle Monster Haus Dosan ในเกาหลีเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และเตรียมลัดฟ้ากลับเมืองไทยในเดือนกรกฎาคมนี้ เพื่อจัดแสดงผลงานที่จับมือกับ I Wanna Bangkok แพลตฟอร์มโปรโมตกรุงเทพฯ ในมุมมองสุดเฟรชโดยคนรุ่นใหม่
“มีคนให้เราอีเมลหาดีมน่า กวาซาลีย่า จาก Balenciaga และ Vetements บอกว่าเราน่าจะเข้ากันได้ดีกับดีมน่า วันรุ่งขึ้นเราได้เริ่มงานดีไซน์ที่ Vetements เลย!”
ตัวตึงสายประกวดสู่นักศึกษาทุนฝรั่งเศส
เพชรชี่ฉายแววประสบความสำเร็จในเส้นทางแฟชั่นตั้งแต่เป็นนิสิตชั้นปีที่ 1 ภาควิชานฤมิตศิลป์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาฯ หลังคว้ารางวัลการออกแบบเสื้อผ้ากีฬาหญิง (ชุดเทนนิส) ยอดเยี่ยมจากเวที Grand Sport Young Designer 2009 รวมถึงรางวัลชนะเลิศการประกวด The Contemporarist by OCAC 2012 ‘จากเส้นใยสู่ภูมิปัญญา จากภูมิปัญญาสู่อาภรณ์ โดยกระทรวงวัฒนธรรม’ ซึ่งช่วยกรุยทางสู่การเริ่มต้นอาชีพดีไซเนอร์ที่ Greyhound ก่อนได้ทุนการศึกษาต่อด้านการออกแบบภาพลักษณ์แฟชั่นที่ Institut Français de La Mode ประเทศฝรั่งเศส
“จะบอกว่าเมืองไทยก็มีโอกาสเยอะพอสมควร ถึงแพลตฟอร์มยังน้อยอยู่ ใครที่กำลังมองหาทุนเรียนด้านแฟชั่นก็ต้องใช้ช่องทางที่มีให้เป็นโอกาสที่ดีที่สุด อย่างงานของกระทรวงวัฒนธรรม ส่งประกวดครั้งแรก เราก็ไม่ได้รางวัล มาชนะเอาครั้งที่สอง” เพชรชี่เผยเส้นทางของผู้ชนะที่เคยไม่สมหวัง ก่อนเล่าถึงที่มาของการหาทุนไปศึกษาต่อในต่างประเทศ
“พอเป็นดีไซเนอร์ได้ 2 ปี เราเริ่มอิ่มตัวกับการทำคอลเล็กชั่นใหม่ ก็เลยมองหาลู่ทางและความท้าทายใหม่ๆ เราลังเลระหว่างลอนดอนกับปารีส แต่สุดท้ายก็เลือกปารีสเพราะรักมาร์แต็ง มาร์จีลา (ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Maison Margiela)” เพชรชี่ยิ้มนัยน์ตาเป็นประกาย
“เรามีเงินเก็บส่วนหนึ่งจากการทำงาน แต่ยังไม่พอเลยต้องหาทุน ซึ่งทุนโรงเรียน IFM (Institut Français de La Mode) มีให้เฉพาะค่าเรียน จนได้มาเจอทุน Franco – Thai ที่ให้ค่ากินอยู่ เราบอกกับกรรมการไปตรง ๆ ว่าถ้าไม่ได้ทุนใดทุนหนึ่งก็ไม่ไป สุดท้ายเราได้ทั้งทุน IFM และทุน Franco – Thai เลยเป็นจุดเริ่มต้นของการมาใช้ชีวิตในปารีส” เธอเสริมว่าเพิ่งรู้ว่าตนเป็นครีเอทีฟคนแรกที่สมัครและได้ทุน Franco – Thai
“ชีวิตเราออร์แกนิกมากเลย” เพชรชี่สรุปภาพรวม “มาเรียนต่อด้านอิมเมจดีไซน์ที่ฝรั่งเศส คิดว่าจบไปก็คงได้ทำเสื้อผ้าเหมือนเดิม แต่พอเรียนไปเรียนมา เอ้อ! ชอบที่ได้คิดคอนเซปต์ กราฟิก อาร์ตไดเร็กชั่น ครีเอทีฟไดเร็กชั่น ซีโนกราฟี (Scenography) ฯลฯ หรือที่โดยรวมเรียกว่าอิมเมจดีไซน์ จนวันที่พรีเซนต์ผลงาน อดีตมือขวาของมาร์เจียลาที่ชื่อ ‘นีน่า นิตช์’ เรียกเราไปคุย เขาให้อีเมลหา ดีมน่า กวาซาลีย่า (ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ Balenciaga ซึ่งร่วมก่อตั้งแบรนด์ Vetements) นีนาบอกว่าเราน่าจะเข้ากันได้ดีกับดีมน่า วันรุ่งขึ้นก็ได้เริ่มงานดีไซน์ที่ Vetements เลย! ตอนนั้นยังเป็นแบรนด์ใหม่มาก เราเลยได้อยู่ปารีสต่อโดยปริยาย”
“ที่เราใช้ชื่อ PZ (พีซี) เพราะเป็นชื่อโดเนมที่ว่างอยู่ และชื่อเล่นเรา ‘เพชรชี่’ ฟังเผินๆ คล้ายคำว่า ‘ตดเหม็น’ ในภาษาฝรั่งเศส”
กำเนิดจักรวาล PZ Today โดยโดเมนจัดสรร
กลางปี 2018 หลังจากทำงานกับ Vetements ได้ 3 ปี เพชรชี่ก็ตัดสินใจลาออกและจัดตั้งบริษัทของตนเองที่ฝรั่งเศส โดยเริ่มจากการมองหา ‘โดเมนเนม’ ที่ถูกใจ ก่อนจะเซตเป็นชื่อแบรนด์ในภายหลัง
“ตั้งแต่ย้ายมาปารีสวันแรก เราใช้ชื่อ PZ (พีซี) มาตลอด เพราะไดเร็กเตอร์บอกว่า ‘เพชรชี่’ ฟังเผินๆ คล้ายคำว่า ‘ตดเหม็น’ ในภาษาฝรั่งเศส เราไล่ดูโดเมนเนมว่ามีตัวเลือกไหนบ้าง จนมาเจอ pztoday.com โอ้ว ใช่! ปิ๊งเลย มีความพุทธนิดหนึ่งว่าให้อยู่กับปัจจุบัน แล้วยังเป็นการกระตุ้นทำนองว่า You have to contact @ ‘PZ’ today!”
เพชรชี่เองยอมรับว่าการงานของตนยังจำกัดความได้ยาก สำหรับหลายๆ คนที่ไม่เก็ตว่าเธอทำอะไรกันแน่ โดยย่อคือเธอยังชีพด้วยการขายไอเดีย ซึ่งไอเดียนั้นอาจอยู่ในรูปแบบของอาร์ตไดเร็กชั่น การกำกับภาพ การกำกับหนังสั้น กราฟิก ก็อปปี้ไรติ้ง ออกแบบสิ่งของ สร้างสรรค์งานอาร์ต หรือจะถ่ายทอดในรูปแบบนิทรรศการ สิ่งพิมพ์ หรือแฟชั่นโชว์ ฯลฯ ก็ได้
“เราทำทุกอย่างที่สนใจในขณะนั้น ในนามบัตรเขียนไว้เลยว่า Selling concept for living เพราะทุกโปรเจกต์ควรมีคอนเซปต์ที่แข็งแรงและคาดไม่ถึง เริ่มจากแบรนด์อยากเล่าเรื่องอะไร เรามีหน้าที่ออกแบบคอนเซปต์ ออกแบบสื่อที่จะใช้เล่าเรื่องนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพนิ่ง วีดิโอ อาร์ตออบเจกต์ (ศิลปะวัตถุ) ศิลปะจัดวาง ฯลฯ” เพชรชี่ยกตัวอย่างแฟชั่นโชว์ของ Doublet ที่เธอเป็นโชว์ไดเร็กเตอร์ หรืองานโปรโมตกระเป๋า Hot Bag ของแบรนด์ Bimba Y Lola ที่เธอทั้งเขียนบท กำกับ และร่วมแสดงโฆษณา
“ส่วนใหญ่เวลาแบรนด์ติดต่อมา เขาจะคาดหวังความแปลกจากเรา เขารู้อยู่แล้วว่าจะได้งานที่ไม่เหมือนใคร เพราะเราแหกคอกมาก ถึงออกมาฮา แต่กระบวนการเบื้องหลังเยอะมาก เป็นความแปลกที่ซ้อนด้วยความคิด”
“เราทำหุ่นคนนอนแฮงก์อยู่ริมถนนที่ญี่ปุ่น ทำหุ่นคนยืนฉี่ริมระเบียงที่นิวยอร์ก กลายเป็นงานทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ มันคงดูแปลกที่มีอะไรแบบนี้ในช็อปลักชัวรี”
ชื่อเสียงก้าวกระโดดจากหนังสืออาร์ตสุดลิมิเต็ด
เพชรชี่คิดว่าผลงานแรกที่ทำให้ PZ Today เป็นที่รู้จักก็คือ ‘PZ World Book’ หนังสืออาร์ตกลิ่นอายแคตาล็อกที่เปิดตัวในเดือนธันวาคม ปี 2018 เธอมองย้อนกลับไปและเห็นว่านั่นคือการเริ่มต้นบินเดี่ยวแบบจับพลัดจับผลูกับ Idea สำนักพิมพ์แนวศิลปะและแฟชั่นระดับท็อปในกรุงลอนดอน
“เขาเอ็นดูเราตั้งแต่ตอนทำหนังสือให้ Vetements เลยถามว่าอยากทำโซโล่บุ๊กมั้ย? เราบอกเอาสิ เรานึกถึงแคตาล็อกแนวเว็บ Amazon อยากให้คนเปิดหนังสือแล้วสงสัยว่าของแต่ละชิ้นมีจริงหรือเปล่า เลยแทรกด้วย 5 สินค้าที่ทำขายจริง เช่น ต่างหูดีไซน์ที่รองแก้ว รองเท้าแตะกะหล่ำม่วง ฯลฯ ประกอบกับเราอยากเชิญคนที่เราเคารพ คนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตตอนย้ายมาอยู่ปารีส คนที่เราปลื้ม มาคอลแล็บในหนังสือเล่มนี้” เพชรชี่เล่า ก่อนเผยเบื้องหลังการเซย์เยสของแขกรับเชิญหลากหลายอาชีพ อาทิ เวอร์จิล แอ็บโลห์ ดีไซเนอร์ตัวพ่อ (ผู้ล่วงลับไปแล้วในปี 2021) แห่ง Off-White และ Louis Vuitton ไปจนถึงแกรี่ จิล ช่างผมประจำของ Balenciaga
“ส่งอีเมลแหลกเลยค่ะ ติดต่อไป 80 กว่าคน ได้ 55 คนที่เราชอบจริงๆ ถือว่าโชคดีมาก เราต้องแสดงความจริงใจ อยากทำอะไรก็บอกเขาตรงๆ เล่าแบ็กกราวน์ ส่งผลงานที่ผ่านมาให้เขาดู อย่าง กิมจิ (Kim Chi) แดร็กควีนจาก RuPaul’s Drag Race ที่ทำให้เรานึกถึงอาหารตลอด เลยขอให้เขาส่งรูปอาหารมาให้ 5 รูป แล้วเราก็เอามาจัดเลย์เอาต์ในธีม Kim Chi’s Kitchen ใส่แคปชั่นแปลกๆ ตลกๆ ของเราเข้าไป” เพชรชี่ยกตัวอย่างโจทย์ที่แตกต่างกันออกไปสำหรับเกสต์แต่ละคน
“เราติดต่อ Dover Street Market Ginza ที่ญี่ปุ่นเพื่อขายสินค้าจากในเล่ม และขอร่วมโชว์ในงานโอเพ่นเฮาส์เมื่อปี 2019 เขามีที่เหลือแค่ตรงหลืบข้างบันไดเลื่อนซึ่งวางเก้าอี้ได้ 7 ตัว เรานึกถึง ‘ชิบุย่าเมลต์ดาวน์’ ที่คนเมานอนแฮงก์อยู่ริมถนนเป็นภาพชินตา เลยทำหุ่นหนุ่มสาวเมาเละฟุบหลับอยู่ตามเก้าอี้ เว้นว่างไว้ 1 ตัวให้คนมานั่งถ่ายเซลฟีจนกลายเป็นทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ มันคงดูแปลกที่มีอะไรแบบนี้ในช็อปลักชัวรี
“Dover Street Market London กับ New York เห็นก็อยากให้เราไปทำอินสตอลเลชั่นแบบนี้บ้าง อย่างนิวยอร์กนึกถึงปุ๊บกลิ่นฉี่มาก่อน เราเลยใช้หุ่น 10 ตัว ทำท่ายืนฉี่อยู่ที่ระเบียง PZ Today เลยเป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็ว” เพชรชี่สะท้อนคาแรกเตอร์ฮาๆ ดิบๆ ของแบรนด์ที่ทำให้งานล้นมือจนทุกวันนี้
หนังสือเล่มที่ 2 ของเธอยังความเป็นอาร์ตบุ๊คที่ได้แรงบันดาลใจจากแคตาล็อกเหมือนเดิม ทว่าครั้งนี้ไอเดียเกิดจากการแต่งงานของพี่สาวในปี 2019 “เราอยากแต่งบ้างเลยทำ PZ World Weddings Book ขึ้นมา” เสียงหัวเราะเธอนำมาก่อน “เป็นคู่มือของเวดดิ้งแพลนเนอร์ได้เลย เรามีทุกอย่างเกี่ยวกับการจัดงานแต่งงาน แม้แต่ฮาวทูของงานแต่งแบบปุบปับ”
“มีคนบอกว่าเราเป็นอาร์ติสต์ที่เชื่อม ‘แฟชั่น’ กับ ‘อาร์ต’ แต่เราไม่ได้นิยามตัวเองว่าเป็น ศิลปิ๊น ศิลปิน ขนาดนั้น เราเป็นแค่คนทำงานศิลปะ”
จุดเปลี่ยนสู่การเป็นศิลปินดาวรุ่งระดับโลก
“โควิดมาคือช็อก! ทุกอย่างเบรกหมด โชคดีที่ตอนนั้นเพิ่งเริ่มงานที่ทำให้แบรนด์ AZ Factory ของดีไซเนอร์ในตำนานอย่าง อัลแบร์ เอลบาซ (อดีตครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ Lanvin) แต่ยังไงก็ตาม.เรายังมีเวลาได้นั่งดูเน็ตฟลิกซ์ ช่วงนั้นอินมากกับซีรีส์ Tiger King และ The Office เลยนำมาสู่การสร้างเว็บ pzdirect.tv ที่มีความทีวีไดเร็กต์ แล้วก็ใส่แรงบันดาลใจจากเน็ตฟลิกซ์ ที่มีปุ่ม Shop Now ในวิดีโอ” ความอยากเป็นผู้กำกับของเพชรชี่ผุดขึ้นมาในจังหวะล็อกดาวน์ เธอจึงผลิตคลิปสั้นที่ให้โถส้วมเล่าถึงชีวิตของตัวเอง เช่น หน้าที่รองรับการปลดทุกข์ของผู้คน ก่อนจะชูแผ่นรองนั่งชักโครกเป็นเรือธงในร้านค้าออนไลน์ของเธอ
“พอดูจบ ใครอยากช่วยโถส้วมก็ช้อปปิ้งแผ่นรองนั่งของเราต่อเลย โปรเจกต์นี้ได้ออกกรุ๊ปโชว์ในเทศกาลศิลปะ Paris Internationale 2020 ที่ฝรั่งเศสด้วยค่ะ เป็นหนึ่งในจุดเชื่อมต่อว่าจริงๆ แล้วเราชอบทำงานอาร์ต”
ต่อเนื่องถึงงานประกาศรางวัลระดับโลก Fashion Awards 2020 ที่มีชื่อของเพชรชี่ติดทำเนียบ New Wave: Creatives สาขา Artists ซึ่งสาขานี้ในปีนั้นมีศิลปินที่ได้รับเลือกทั้งสิ้น 6 คน เธอเห็นว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการได้รับการยอมรับในฐานะศิลปิน “พอมาอยู่ปารีสก็ไม่ได้ส่งงานเข้าประกวดอีกเลยค่ะ จนวันหนึ่งผู้จัดงานติดต่อมาว่าเรามีชื่อเข้าชิงนะ ให้ส่ง ผลงาน 10 โปรเจกต์ไปให้พิจารณาในรอบสุดท้าย ปรากฏว่าเราได้รับเลือกให้อยู่ในลิสต์ แถมเขาให้เครดิตเราเป็น ‘อาร์ติสต์’ ในช่วงที่เราหันมาโฟกัสงานอาร์ตพอดี” เพชรชี่ถ่ายทอดถึงช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่านสู่การเป็นศิลปินอย่างเต็มตัว
“ก่อนหน้านี้เราทำงานเกี่ยวกับสินค้าแฟชั่นเยอะ แม้จะมีคนบอกว่าเราเป็นอาร์ติสต์ที่เชื่อม ‘แฟชั่น’ กับ ‘อาร์ต’ เข้าไว้ด้วยกัน แต่เราก็ไม่ได้นิยามตัวเองว่าเป็น ‘อาร์ติสต์’ ขนาดนั้น เพราะยังติดกับความรู้สึกตอนอยู่ไทยว่าเราเป็นแฟชั่นดีไซเนอร์ เรามาจากโลกของครีเอทีฟ พอย้ายมาอยู่ปารีส เราอยากทำงานอาร์ต ไม่ได้ถึงกับจะเป็นศิลปิ๊น ศิลปิน เราก็แค่คนทำงานศิลปะ เลยต้องใช้เวลาในการเบลนด์ว่าตอนนี้เราเป็นอาร์ติสต์แล้ว เราโฟกัสกับงานนิทรรศการ อินสตอลเลชั่น หรืออาร์ตออบเจกต์มากกว่า”
Fries Book หนังสืออาร์ตเล่มล่าสุดของ PZ Today เปิดตัวไปแล้วที่ญี่ปุ่นในช่วงเทศกาล Tokyo Art Book Fair 2022 ที่ผ่านมา “มันเข้ามาในสมองระหว่างที่ทำโปรเจกต์อื่นอยู่ค่ะ เราก็โน้ตไว้ว่าเดี๋ยวทำภาพเตาผิงที่ก่อด้วยฟรายส์ดีกว่า (ใช้มันฝรั่งแท่งทอดกรอบแทนอิฐ) แล้วก็มีมาถ่ายรูปมาสคอตแมคโดนัลด์พนมมือที่ไทยด้วยนะ” เพชรชี่เล่าถึงไอเดียแรกๆ ของหนังสือจักรวาลแห่งมันฝรั่งทอดที่สอดแทรกด้วยเรื่องราวน่ารู้ ความคิดสร้างสรรค์ ไปจนถึงอารมณ์ขันของเธอ
“ร้าน Haus ที่เซี่ยงไฮ้อยากสั่ง Fries Book ไปวางขาย แล้วก็อยากให้เราทำป๊อปอัปดิสเพลย์ด้วยค่ะ มานั่งคิดๆ ดู เราก็มีสินค้าที่หลากหลายเหมือนซูเปอร์มาร์เก็ต เลยเอาหุ่นคน 50 – 60 ตัว มาทำทียืนต่อคิวเข้าร้านของเรา” ศิลปินสาวเผยที่มาของโปรเจกต์ PZ Today Supermarket ที่ลิงค์กับหนังสือของเธอซึ่งจำหน่ายหมดอย่างรวดเร็วและไม่คิดตีพิมพ์เพิ่ม
“เราได้แรงซัพพอร์ตทางจิตใจจากครอบครัวเยอะ ซึ่งยั่งยืนและสำคัญกว่าซัพพอร์ตเงิน”
รากฐานและตัวตนของคนทำงานอาร์ตอารมณ์ดี
เพชรชี่เล่าว่าเธอเป็นลูกคนกลาง มีคุณพ่อเป็นสถาปนิก คุณแม่ลาออกมาเป็นแม่บ้านเลี้ยงลูกทั้งสาม “เราเป็นคนตลก ชอบดูอะไรที่คลายเครียดเบาสมอง ครอบครัวก็ไม่ซีเรียสเลย คุณแม่เป็นคนตลกแบบไม่รู้ตัว ส่วนคุณพ่อชอบเล่นมุจ แป้กบ้างก็ไม่เป็นไร ที่สำคัญเราได้แรงซัพพอร์ตทางจิตใจจากครอบครัวเยอะ ซึ่งยั่งยืนและสำคัญกว่าซัพพอร์ตเงินนะ” เธอยกเครดิตให้พ่อแม่ซึ่งเป็นที่พึ่งทางใจและเป็นแรงผลักดันอันดับหนึ่ง จนประสบความสำเร็จในการนำพาตัวเองมาเรียนต่อและทำงานที่ฝรั่งเศส
เพชรชี่รันมาแล้วทุกตำแหน่งในวงการ รวมถึงบทบาทการเป็นนางแบบลุกบุ๊ก นางแบบในแฟชั่นโชว์ ไปจนถึงนักแสดงในคลิปโฆษณา เธอหัวเราะก่อนตอบว่า “ใครชวนก็ไป จริงๆ แล้วเราอยู่ไม่ค่อยสุขหรอก แต่ชอบตอนเดินแบบ ตอนที่ได้เพอร์ฟอร์ม อาจจะเพราะตั้งแต่เด็กเราชอบสร้างเพอร์ฟอร์แมนซ์ เท่าที่จำได้ครั้งแรกๆ คือไปซูเปอร์มาร์เก็ตกับแม่ เราเจอโฟมตาข่ายหุ้มผลไม้ก็เอามาใส่แขนต่อๆ กันหลายสีแล้วเต้นโชว์ ใช้เตียงน้องชายเป็นเวที เชิญอากงอาม่ามาดู เราชอบคิดธีมการแสดง ไหนมีใครมาแคสต์บ้าง? เรื่องราวเป็นยังไง? แล้วเวลาทำการแสดงก็ต้องมีชุดใช่มั้ยคะ พอจะเข้ามหาวิทยาลัยเลยเลือกเรียนการออกแบบเครื่องแต่งกาย เราชอบแต่งตัวด้วย ชอบเดินตลาดนัด เดินตลาดมือสอง เราเกิดมาจากตรงนั้น”
เพชรชี่บรรยายถึงตัวตนและคาดเดาที่มาของความสนใจอันหลากหลาย “น่าจะเกิดจากการที่เราชอบสังเกตทุกสิ่งอย่างรอบตัว เวลาไปไหนมาไหน เจออะไรก็ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นเมมโมรี เราเลยชอบเดินทาง ได้เจอคนใหม่ สถานที่ใหม่ ของใหม่ อยากให้คนอ่านเดินทางเยอะๆ นะคะ ไม่ต้องไปไหนไกลก็ได้ ไม่ต้องโฟกัสว่าวันนี้คุณจะเจออะไร ปล่อยเลย” เธอฝากรณรงค์
“อย่างปีก่อน เราอยากเรียนภูมิปัญญาไทยก็เลยกลับมาลงคอร์สสร้างบ้านดินกับครูจุ้ยที่จังหวัดพะเยา (บ้านดินคำปู้จู้) เรียนเสร็จอินมาก ร้อนวิชาจนอยากทำบ้านของตัวเอง แต่ก็รู้สึกยากไป พอดีมีงาน Paris Design Week 2022 เลยเกิดไอเดียชวนคนดูทำบ้านดิน ‘PZToday Mud House’ มีสระเล็กๆ ให้คนมาย่ำดิน ให้เขาได้ทำอิฐ ได้แปะดินบนผนังจำลอง”
ที่ผ่านมา เพชรชี่ได้ร่วมงานกับแบรนด์ดังและมืออาชีพเป็นจำนวนมาก ด้วยไอเดียที่โดดเด่น บุคลิกที่ร่าเริง และอัธยาศัยไมตรีชั้นเยี่ยม แต่เธอเองก็มีดรีมลิสต์ที่รอให้สานฝันและมุ่งมั่นในการพัฒนาผลงาน “อยากเรียนรู้จากหลายคนเลยค่ะ หลักๆ คือ มาร์แต็ง มาร์จีลา’ ถึงจะผันตัวไปทำเพนติ้งแล้ว แต่คิดไว้ว่าวันหนึ่งคงได้เจอหรือพูดคุยกันบ้าง ถ้าในแง่งานอาร์ต หนึ่งในความฝันของเราคือได้จัดโชว์ที่งาน Art Basel ส่วนคนที่อยากทำงานด้วยเป็นพิเศษก็คงเป็น คริส ลิลลีย์ (นักแสดงตลก ผู้กำกับ Lunatics, Ja’mie: Private School Girl, Summer Heights High ฯลฯ) นาธาน ฟิลเดอร์ (นักแสดงตลก ผู้กำกับ Nathan For You ฯลฯ) อภิชาตพงศ์ วีระเศรษฐกุล (ผู้กำกับ Memoria, ลุงบุญมีระลึกชาติ ฯลฯ) จริง ๆ อยากร่วมงานกับทุกสายเลย เราไม่มีข้อจำกัด ถ้าอยู่ๆ มีเซ็กซ์เวิร์กเกอร์สนใจจะคอลแล็บด้วย เราก็อยากพูดคุย อยากทำงานด้วย”
“เราชอบวรรคทองของ RuPaul ที่ว่า ‘เอกลักษณ์ ความกล้า พรสวรรค์’ คือองค์ประกอบของการได้มาซึ่งชื่อเสียง”
ลงมือทำแล้วพักผ่อน…ความสำเร็จจากวิถีชีวิตที่สมดุล
เมื่อถามว่าเพชรชี่มีวันที่ไอเดียเหือดแห้งบ้างหรือไม่ เธอตอบแทบจะในทันที “มีๆ ทั้งที่เราได้ทำงานที่ชอบนะ ถึงเลือกแล้วแต่มันก็เยอะอยู่ดี เรารู้สึกว่าถ้าไม่ทำตอนนี้แล้วจะทำตอนไหน จนบางทีก็เหนื่อย แต่ยังมีเวลาให้ตัวเองอยู่ค่ะ เราชอบออกไปเดินเล่นแถวบ้าน ตั้งแต่หัวถนน Rue Des Martyrs ไปจนสุดซอย กินกาแฟแก้วหนึ่งให้สมองแล่นก็พร้อมกลับมาทำงานแล้ว” ถนนแห่งประวัติศาสตร์สายนี้ดูจะมีอะไรให้ศิลปินสาวไทยได้เพลิดเพลินใจมากทีเดียว
“ถ้าไม่ใช่แถวบ้านที่ฝรั่งเศส เราชอบเมืองไทยนะ อยากกลับไทยอยู่เหมือนกันค่ะ แต่เดี๋ยวต้องดูก่อนว่าจะทำอะไรดี มีลู่ทางไหนบ้างที่จะทำให้แฮปปี้ในทุกๆ อย่าง แต่ตอนนี้ยังมีโปรเจกต์ที่นี่อยู่เยอะ จริงๆ ที่ไหนมีทะเล มีธรรมชาติ เราชอบหมด ชอบนั่งดูคลื่น ชอบออนเซน สมมติไปญี่ปุ่น 10 วัน เราจะทำงาน 5 วัน ที่เหลือไว้เที่ยวต่างจังหวัด พักเรียวกัง เราชอบเที่ยวคนเดียวเพราะต้องอยู่กับตัวเองบ้าง เราเจอคนเยอะแล้วในชีวิตประจำวัน คนทำงานก็เหมือนเครื่องจักรเนอะ หยุดบ้าง ไปเที่ยวบ้าง รีแลกซ์เพื่อให้เครื่องจักรกลับมาสปีดเร็วขึ้น แต่ถ้าหยุดไปนานๆ สนิมจะเกาะเอานะ” เจ้าแม่ไอเดียออกคำเตือน
“เราเป็นคนตั้งใจทำงานมาก เห็นเป็นแบบนี้แต่เวลาทำงานค่อนข้างซีเรียส” เธอพูดดักพลางขำตัวเอง “พอได้งานมาปุ๊บเราใส่เต็มไม่กั๊ก อยากให้คนได้แรงบันดาลใจจากผลงานของเรา ทุกงานต้องเป็นมืออาชีพ” เพชรชี่เน้นย้ำ และกล่าวเสริมด้วยวรรคทองของ RuPaul ที่ว่า ‘เอกลักษณ์ ความกล้า พรสวรรค์’ คือองค์ประกอบของการได้มาซึ่งชื่อเสียง
“อยู่ปารีสสนุก! ได้เปิดโลกเพราะคนมีความครีเอทีฟแบบไม่จำกัดเลย เรารู้สึกว่าที่นี่มีลูกค้าสำหรับทุกคน ทุกช่วงอายุ อย่างตอนอยู่ Greyhound เราทำแค่พาร์ตแฟชั่นดีไซเนอร์ ได้ออกแบบแอ็กเซสเซอรีส์บ้าง ช่วยคิดโชว์บ้าง มี ‘ความป้าตือ’ เบา ๆ แต่ตอนนี้กลายเป็นป้าตือสาขาปารีสไปแล้ว ได้มิกซ์ทักษะหลายอย่างมาก” สาวผู้เชื่อในสัญชาติญาณและเสียงหัวใจชี้ให้เห็นเสน่ห์ของปารีส พร้อมให้ความเห็นและข้อแนะนำแก่คนที่อยากมาทำงานด้านศิลปะในต่างแดน
“โอกาสเยอะเลยที่ปารีส ลอนดอน นิวยอร์ก ที่ไทยเองก็มีโอกาสเยอะ เพราะตอนนี้โลกเชื่อมถึงกันหมดแล้ว ถ้าทำสิ่งที่รักโอกาสจะมาเองเรื่อยๆ ถ้าไม่มาต้องขวนขวายหน่อย ลองติดต่อคนนั้นคนนี้ดู หรือบางทีที่ยังไม่ใช่วันของเราก็ให้ทำสิ่งที่ตัวเองชอบไปก่อน อย่างเราไม่มีวันไหนที่นั่งเฉยๆ แล้วตั้งคำถามว่าเมื่อไรโอกาสจะมา โอกาสมันจะเยอะขึ้นถ้าเราลงมือทำค่ะ”
Words: Sasi Akkomee
