คลายร้อนและเฉลิมฉลองวันหยุดด้วยการมุ่งหน้าไปที่ ข้าวแช่ อาหารตำรับชาววังที่สืบทอดกันมานับร้อยปี ลิปส์คัดสรรร้านอาหารที่เสิร์ฟอาหารจานเด่นประจำฤดูร้อน ที่มีให้เลือกทั้งรับประทานสะดวกที่ร้าน หรือเดลิเวอรี่มาอร่อยสบายที่บ้าน มาไว้ที่นี่เรียบร้อยแล้ว
1
เรือนนพเก้า
ข้าวแช่ตำรับเรือนนพเก้าอร่อยล้ำทั้งจากวัตถุดิบชั้นดีและความประณีตในการบรรจงประดิษฐ์อาหาร เริ่มด้วยการนำข้าวเสาไห้เก่ามาล้าง แกว่งสารส้มจนใส ก่อนนำมาต้มในหม้อดินเผาจนเมล็ดข้าวบานและหลังจากนั้นนำมาล้างน้ำให้เย็น พักไว้ให้สะเด็ดน้ำให้แห้ง นำไปนึ่งต่ออีก 3 รอบ แล้วผึ่งให้แห้ง หลังจากนั้นนำมาอบด้วยดอกไม้สดอีก 4 ชนิดแล้วตามด้วยเทียนอบอีก 1 คืน
สำหรับน้ำข้าวแช่ได้มาจากแหล่งน้ำแร่จากหมู่บ้านดอยงาม อำเภอแม่สรวย จ.เชียงราย ผ่านการฆ่าเชื้อด้วยการต้มให้เดือดเป็นเวลา 15 นาที และทิ้งไว้ให้เย็นในโอ่งดินเผาเป็นเวลา 1 คืน หลังจากนั้นนำมาลอยด้วยดอกไม้หอม 4 ชนิด ประกอบด้วย กุหลาบมอญ ชมนาด กระดังงาสงขลา และมะลิ ปิดท้ายด้วยการเสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียง 7 อย่าง ในชุดเครื่องเบญจรงค์ ลายดอกราชพฤกษ์ ฝีมือช่างศิลป์จากจังหวัดอยุธยา
สำหรับรับประทานที่ร้านราคาชุดละ 699 บาท ชุดกลับบ้านในตะกร้าสานพร้อมขนมทองนพเก้า 1 กล่อง ราคา 1,299 บาท
ข้อมูลเพิ่มเติม facebook.com/ruennoppagaorestaurant
2
Khao
ข้าวแช่ฉบับร้านอาหารไทยระดับมิชลิน สตาร์ ที่ประยุกต์ตำรับไทยโบราณมาเป็นสูตรเฉพาะตัว ใช้ข้าวเสาไห้ชั้นดีจากสระบุรี อบควันเทียน แช่น้ำลอยดอกมะลิ ก่อนจะเสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงครบครันทั้ง ลูกกะปิ หอมแดงไส้ปลา ที่ทางร้านเลือกใช้เฉพาะหอมโทน หัวไชโป๊วผัดหวาน ปลายี่สนผัดหวาน หมูฝอย พริกหยวกสอดไส้ และอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของทางร้านนั่นคือไข่แดงเค็มจากไชยานำมาปั้นเป็นเม็ดเล็กๆ ชุบแป้งทอด
รับประทานที่ร้านราคา 450 บาทต่อชุด กลับบ้านราคา 790 บาทต่อชุด
ข้อมูลเพิ่มเติม facebook.com/khaophloenchitbranch
3
Siamtearoom: โรงแรมแบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค
สยามทีรูมเสิร์ฟรสชาติแบบไทยแท้ด้วยข้าวแช่โบราณตำรับราชบุรี ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเชฟกอล์ฟ-ภัควลัญชญ์ เวชมนต์ ผู้เคยทำงานในห้องเครื่องของพระราชวังไกลกังวล เมนูสุดพิเศษนี้รังสรรค์อย่างละเมียดละไมด้วยวัตถุดิบที่คัดสรรอย่างดีจากราชบุรี ตัวข้าวเป็นข้าวหอมมะลิในน้ำกรุ่นกลิ่นมะลิแช่เย็น เครื่องเคียงสูตรดั้งเดิมที่มีทั้งลูกกะปิทอด พริกหยวกสอดไส้ หอมแดงยัดไส้ปลา หมูฝอย ปลายี่สนผัดหวาน ไชโป๊ผัด อัญชันยัดไส้กุ้ง ไข่เค็ม ผักสดแนม และปิดท้ายด้วยน้ำแตงโมปั่นเพิ่มความสดชื่น
รับประทานที่ร้านราคา 590 บาท และสำหรับกลับบ้าน 490 บาท
ข้อมูลเพิ่มเติม facebook.com/siamtearoom
4
เทอเรซ ริมน้ำ : โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ
รับประทานข้าวแช่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่เทอเรซ ริมน้ำ เป็นประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยความสดชื่นจากบรรยากาศและรสชาติของข้าวแช่ตำรับชาววัง ภายใต้การปรุงอาหารที่พิถีพิถันทุกขั้นตอนจากเชฟมิชลิน เชฟป้อม – พัชรา พิระภาค รวมทั้งคัดสรรวัตถุดิบแหล่งผู้ผลิตที่ดีที่สุดทั่วประเทศไม่ว่าจะเป็นข้าวหอมมะลิออร์แกนิกจากจังหวัดยโสธร ดอกมะลิจาก จังหวัดสุพรรณบุรี ลูกกะปิจากกะปิแท้ของเกาะกำ จังหวัดระนอง หอมแดงไส้ปลา ที่ตัวหอมส่งตรงจากจังหวัดศรีสะเกษ ปลายี่สนจากจังหวัดเพชรบุรีผัดกับน้ำตาลดอกมะพร้าวจาก จังหวัดสมุทรสาคร เสริมความลงตัวด้วย ไข่เค็มทอด พริกหยวกไส้หมูและกุ้ง หมูฝอย ผัดหัวไชโป๊ และผักออร์แกนิก
รับประทานที่ร้านราคา 470 บาท กลับบ้านราคา 495 บาท ชุดปิ่นโตราคา 1,850 บาท
ข้อมูลเพิ่มเติม facebook.com/MandarinOrientalBangkok
5
Miss Siam: โรงแรมหัวช้าง เฮอริเทจ กรุงเทพฯ
อิ่มอร่อยแบบไม่อั้นกับบุฟเฟต์ข้าวแช่ตำรับหัวช้างอันเลื่องชื่อสูตรเด็ดของมิส สยาม น้ำข้าวแช่ของที่นี่นั้นใช้ดอกไม้ออร์แกนิกกว่าสิบชนิดในการทำ จากนั้นนำไปอบควันด้วยเทียนหอมและกรองจนใส พร้อมเครื่องเคียงแสนอร่อยอย่าง ลูกกะปิทอด ไชโป๊ผัดหวาน หอมแดงยัดไส้ปลาแห้ง หมูหวานฝอย พริกแห้งยัดไส้กุ้ง ไข่แดงเค็มทอด หมูปั้นปลาอินทรี พริกหยวกยัดไส้หมูสับ เสริมความอร่อยด้วยหลากหลายเมนูอาหารไทยทั้ง แกง ยำ น้ำพริก รวมไปถึงขนมไทยละลานตาอีกกว่า 20 ชนิด
บุฟเฟ่ต์ราคา 675 บาทต่อท่าน ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ และ 999 บาทสำหรับสองท่านในวันธรรมดา กลับบ้านราคา 450 บาท
ข้อมูลเพิ่มเติม facebook.com/HuaChangHeritageHotelBangkok
6
Royal Osha
รอยัล โอชา ร้านอาหารไทยไฟน์ ไดนิ่งสุดหรู ภายใต้แนวคิดความสง่างามของอาหารไทยรสชาติดั้งเดิม ผสมผสานสุนทรียศาสตร์ของอาหารไทยสไตล์โมเดิร์น การันตีความอร่อยระดับมิชลิน โดยเชฟวิชิต มุกุระ สำหรับข้าวแช่เมนูสุดพิเศษนี้ได้ถูกถ่ายทอดอย่างพิถีพิถันทุกขั้นตอนจากรุ่นสู่รุ่น ตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบไปจนถึงการปรุงให้ยังคงไว้ซึ่งรสชาติ รูปลักษณ์ และกลิ่นหอมที่ลงตัว โดยใช้ข้าวเสาไห้ที่คัดสรรมาอย่างพิเศษ หุงและนำมาขัดจนได้เมล็ดข้าวที่เรียวสวย ใส ก่อนจะนำมาดงกับน้ำลอยดอกไม้ที่ประกอบด้วยดอกไม้ 4 ชนิดคือ ชมนาด กระดังงา กุหลาบมอญ และมะลิ โดยใช้น้ำที่มีค่าความเป็นด่างถึง 8.8 (ph. 8.8) ซึ่งนอกจากจะให้กลิ่นหอมที่สมบูรณ์แล้วยังมีคุณประโยชน์ในการปรับสมดุลร่างกาย รับประทานอย่างครบรสพร้อมเครื่องเคียงอีก 7 อย่าง
รับประทานที่ร้านราคา 880 บาท หรือเลือกชุดพรีเมียมราคา 3,000 บาท และซื้อกลับบ้านซึ่งต้องสั่งล่วงหน้าสองวัน ราคา 2,250 บาทต่อกล่อง
ข้อมูลเพิ่มเติม facebook.com/royaloshabkk
7
Nara
ชุดข้าวแช่ของนาราเป็นอาหารที่ถูกปากและถูกใจอย่างที่สุด ด้วยข้าวหอมมะลิโบราณจากนครสวรรค์ซึ่งให้กลิ่นใบเตยอ่อน ๆ เมื่อหุงข้าวจะถูกขัดสีอย่างระมัดระวังจนเป็นระเบียบก่อนนำไปแช่ในน้ำผสมดอกมะลิออร์แกนิก ที่หอมจรุงใจไม่มีกลิ่นเทียนรมควันเจือปน พร้อมเครื่องเคียง 12 อย่างตามตำรับทั้ง พริกหยวกสอดไส้ หัวหอมยัดไส้ทอด ลูกกะปิปั้นทอด ไชโป๊เส้นผัดหวาน ปลายี่สนผัดหวาน หมูย่างหวาน และเครื่องเคียงพิเศษที่หาทานได้ยากอย่างพริกแห้งบางช้างทอดสอดไส้ปลาช่อน ไชโป๊แผ่นหน้าหมู ไข่เค็มมุกมณี หนังปลากรอบไข่เค็ม กุ้งหวานไชยา ทานแกล้มกับผักสดเพื่อความสดชื่น
รับประทานที่ร้านราคา 690 บาท ชุดชะลอมกลับบ้านพร้อมมาลัยไผ่สานและน้ำอบ ราคา 1,445 บาท
ข้อมูลเพิ่มเติม facebook.com/narathaicuisine
8
Jim Thompson Restaurant
มาลิ้มรสข้าวแช่ท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่นที่ Jim Thompson Restaurant ข้าวแช่ของที่นี่ทำจากข้าวหอมมะลิ” แช่ในน้ำปรุงอบร่ำด้วยควันเทียน หอมฟุ้งด้วยดอกกุหลาบมอญสีสดที่ตัดกับข้าวอย่างสวยงาม เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงที่กลมกล่อมลงตัว ทั้งพริกหยวกสอดไส้ หัวหอมแดงยัดไส้ปลาช่อนผัดหวาน ที่ใช้ปลาช่อนแดดเดียวชั้นดี หัวไชโป๊ผัดหวาน ปลาอินทรีย์ชุบไข่ทอด ปลายี่สนผัดหวาน พริกแห้งสอดไส้ และตัเอกเอกอย่างลูกกะปิชุบไข่ทอด ที่มีสูตรเด็ดเคล็ดลับอยู่ที่เนื้อกะปิคุณภาพดี เคล้าความหอมของตะไคร้ กระชาย เนื้อปลาดุกย่างสุกหอม รับประทานคู่กับผักแนมและมะม่วงดิบ ปิดท้ายด้วยความฟินจาก ข้าวเหนียวมะม่วง
รับประทานที่ร้านราคาชุดละ 590 บาท กลับบ้านราคาชุดละ 640 บาท ชุดปิ่นโต ราคาชุดละ 1,200 บาทสำรองที่นั่งและจองข้าวแช่ล่วงหน้า อย่างน้อย 2 วัน
ข้อมูลเพิ่มเติม facebook.com/jimthompsonrestaurant.thailand
9
ปทุมสรัส
จากตำรับสองสกุลซึ่งเคยเป็นข้าหลวงในพระวิมาดาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ กรมพระสุทธาสินีนาฏ ปิยมหาราชปดิวรัดา นำมาผสมผสานกันจนกลายเป็นสูตรข้าวแช่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของปทุมสรัส ร้านอาหารไทยภายในร้านค้ามูลนิธิสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า วังสระปทุม ที่เปิดให้บริการปีละแค่ 3 เดือนเท่านั้น เมนูพิเศษของที่นี่ใช้ข้าวหอมมะลิ 2 สี หุงด้วยน้ำดอกอัญชันและขัดสีตามตำรับโบราณ จึงได้ข้าวหุงสุกสีสันสวยงาม ใสไม่มีฝุ่นข้าว น้ำลอยดอกมะลิอบควันเทียนหอมกรุ่น พร้อมเครื่องเคียง ลูกกะปิ หมูฝอย ไชโป๊ หอมทอด ปลาฉาบ พริกหยวกสอดไส้หมูสับ และปลายี่สนหวาน แนมด้วยแตงกวา กระชาย และมะม่วงดิบ รับประทานคู่กับของหวานที่ขาดไม่ได้สำหรับฤดูร้อนนี้อย่างส้มฉุน
ราคาชุดละ 400 บาท สั่งจองล่วงหน้า 2 วัน ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 257 0943 วันจันทร์ถึงวันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 8.30 น. – 16.30 น. ข้อมูลเพิ่มเติม www.QueenSavangMuseum-shop.org
10
S&P
S&P ชื่อนี้มีแต่ของอร่อย ยิ่งมาไม่บ่อยปีละหนอย่างข้าวแช่ ยิ่งห้ามพลาด มาลิ้มรสความอร่อย เย็น สดชื่น จากข้าวหอมมะลิอย่างดี พร้อมความหอมจากกลิ่นน้ำมะลิ ด้วยเครื่องเคียงครบครัน ไม่ว่าจะเป็นลูกกะปิทอด พริกหยวกสอดไส้ปูจ๋า ที่ใช้เนื้อปู และเนื้อไก่ปรุงรสสูตรเฉพาะ หมูฝอยหวาน ไชโป๊หวาน และผักสดแกะสลัก จบมื้อด้วยข้าวเหนียวมูนอัญชันใบเตยกับมะม่วงน้ำดอกไม้ อร่อยแบบต้องลอง
ข้าวแช่ข้าวหอมมะลิราคา 135 บาท และชุดข้าวแช่ข้าวหอมมะลิ-ข้าวเหนียวมะม่วงน้ำดอกไม้ ราคาชุดละ 198 บาท เฉพาะซื้อกลับบ้านและสั่งผ่านช่องทาง S&P Delivery 1344
ข้อมูลเพิ่มเติม facebook.com/snpfood