
คิมนัมจุนให้สัมภาษณ์ใน 032c ถึงสาเหตุที่เขาเป็น ‘อาร์เอ็ม BTS’ และเหตุการณ์ที่ทำให้เขาตระหนักอย่างลึกซึ้งว่าดนตรีมีพลังช่วยชีวิตคนได้ และสิ่งที่ยึดเหนี่ยวให้เขารอดชีวิตมาได้จากหุบเหวแห่งชื่อเสียงระดับอภิมหาดังของวง BTS “ถ้าไม่มีแรงดลใจนั้น ผมคงตายไปแล้ว”
นัมจุนโพสต์จอดำเฉยๆ และมีคนไลค์กว่า 3 ล้าน
ก่อนจะเข้ากรมในเดือนมกราคมปีหน้า คิมนัมจุนหรืออาร์เอ็ม BTS ให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร 032c ฉบับ Fall-Winter 2023 ว่าตัวเขาเปลี่ยนแปลงไปหลังจากค้นหาอัตลักษณ์ของตัวเองผ่านอัลบัม Indigo เมื่อปี 2022 “ผมพังทลายและเก็บชิ้นส่วนมาประกอบร่างใหม่หลายครั้งหลายหน ผมได้ตระหนักว่าคนที่ผมคิดว่าผมเป็นไม่ได้มีอยู่จริงๆหรอก” อาร์เอ็มกล่าว
นัมจุนขึ้นปกและให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร 032c
ถ้าอย่างนั้นเขาจะนิยามตัวเองว่าอย่างไร Fiona Bae ผู้สัมภาษณ์ถาม “…ผมไม่ใช่คนหลงตัวเอง และผมก็ขับเคลื่อนตัวเองด้วยความรู้สึกไม่มั่นคงปลอดภัยเสมอมา ผมเป็นคนที่มีมากไปด้วยความสกปรกโสมม ความรัก ความเมตตา และวิจารณญาณอยู่ในตัว จนรู้สึกว่าผมคงเป็นบ้าถ้าไม่ได้ระบายออกมาข้างนอกเสียบ้างในทางใดทางหนึ่ง และผมก็เป็นคนที่อยากเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่าง ไม่ว่าจะเป็นตัวเอง ผู้คนรอบข้าง วงการดนตรี หรือโลก ผมรู้สึกว่าผมเกิดมาเพื่อจะเปลี่ยนแปลงบางสิ่ง และผมคิดว่าผมทำสิ่งนั้นได้ด้วยวง BTS
คิมนัมจุนและอาร์เอ็ม BTS
….หลายคนถามว่าผมเป็น BTS ทำไม แต่ท้ายที่สุดแล้ว ถ้าคุณไม่ได้สวมมงกุฎก็จะไม่เข้าใจหรอก ผมไม่ได้ร้องขอมงกุฎ แต่ผมพยายามจะคิดบวกและใช้อิทธิพลที่ผมมี สิ่งที่ผมควรทำก็คือนำสิ่งที่สวยงามที่สุดในศิลปะที่ผมทำ แล้วเปลี่ยนสิ่งที่เป็นส่วนตัวให้กลายเป็นความสากล มันสวยงามมากนะที่ได้เห็นผู้คนหัวเราะและร้องไห้เพราะศิลปินทำให้เรื่องราวของพวกเขากลายเป็นเรื่องสากล
…ตอนที่ผมไปดูคอนเสิร์ตของคิมยูนา ลีดเดอร์ของวง Jaurim ผมได้ยินแฟนเพลงคนหนึ่งตะโกนทั้งน้ำตาว่า ‘ฉันไม่ฆ่าตัวตายก็เพราะคุณ!’ ผมได้รับข้อความแง่บวกมากมายที่ผู้คนบอกว่าได้ประโยชน์อะไรบ้างจากดนตรีของผม แต่การมาได้ยินข้างๆตัวมันลึกซึ้งมาก ผมตระหนักว่าดนตรีช่วยชีวิตคนได้จริงๆ และนั่นคือสิ่งที่ผมอยากจะทำ ผมคงรอดชีวิตใน BTS มาไม่ได้ถ้าไม่มีแรงดลใจนั้น ถ้าไม่มีแรงดลใจที่ว่านั่น ผมคงตายไปแล้ว”
ARMY บัญญัติศัพท์ ‘Namjooning’ ที่หมายถึงการนั่งเหม่อ ชมธรรมชาติและเสพงานศิลปะ (งานอดิเรกที่นัมจุนชอบทำ)
นัมจุนยังกล่าวถึงการรับมือความโด่งดังในฐานะซูเปอร์สตาร์ไว้ว่า
“ผมเรียนรู้เรื่อง อภิปัญญา (Metacognition การรู้ความคิด เป็นปัญญาระดับสูงสุดของการเรียนรู้) มาแต่ไหนแต่ไร ผมพยายามจะมองให้เห็นข้อความต่างๆปิ๊งขึ้นมาในอากาศ ผมสร้างกล้ามเนื้อที่สามารถสลับสับเปลี่ยนระหว่างความเครียดกับการที่ถูกจับตามองตลอดเวลากับประโยชน์ของการมีชื่อเสียงมากๆ”
**อภิปัญญา (Metacognition) หรือ หมายถึง ความสามารถของบุคคลในการรู้เกี่ยวกับกระบวนการคิดของตนเอง ช่วยให้สามารถวางแผนและทบทวนความคิดของตนเองอย่างเป็นระบบ สามารถเลือกวิธีการเรียนรู้และประเมินผลที่เหมาะสมกับตนเอง และถ่ายทอดความคิดออกมาเพื่อให้การเรียนรู้หรือการแก้ปัญหาต่างๆ บรรลุตามวัตถุประสงค์อย่างมีประสิทธิภาพ
อภิปัญญาต่างจากปัญญาหรือการคิดทั่วไป (Cognition) เนื่องจากปัญญาคือการคิดเชิงสรุปเปรียบเทียบ หาเหตุผล วิเคราะห์เพื่อแก้ปัญหาต่าง ๆ แต่อภิปัญญา เป็นการคิดที่รู้เท่าทันตนเองว่ากระบวนการคิดเป็นอย่างไร ทำไมถึงคิดแบบนี้ ทำแบบนี้ สามารถตรวจสอบความคิดของตนได้ และปรับเปลี่ยนวิธีการคิดได้ตามความเหมาะสม ดังนั้น การศึกษาอภิปัญญาจึงทำให้เราเข้าใจเหตุผลการตัดสินใจของบุคคลได้ว่ากระบวนการคิดของเขาเป็นอย่างไร ทำไมเขาจึงเลือกเชื่อหรือตัดสินใจแบบนี้
นัมจุนกล่าวในบทสัมภาษณ์ว่าคนมักมองว่าเขาเป็นคนจริงจัง แต่จริงๆแล้วเขาเป็นคนตลก
เมื่อถามถึงวิธีเปิดความเป็นตัวเองให้โลกได้รับรู้ นัมจุนตอบว่า
“วิธีที่ดีที่สุดก็คือทำผ่านอัลบัมหรือคอนเทนต์ ผมยังพยายามจะแชร์ชีวิตตัวเองให้มากขึ้นทางอินสตาแกรมด้วย ผมเปิดให้เห็นความเปราะบางบางอย่าง แล้วผมก็โดนทัวร์ลงเพราะมีบางคนที่บอกว่าเปิดมากเกินไปสำหรับไอดอล แต่สำหรับผม มันคือหนทางของการเอ่ยคำว่า ‘ผมรักคุณ’ แก่ผู้คน
ผมต้องเงียบปากแล้วก็พูดถึงแต่เรื่องดีๆเวลาให้สัมภาษณ์ไปอีกนานแค่ไหนกัน ถ้าคุณกดทับไว้ มันก็รังแต่จะระเบิดออกมา ผมไม่ได้บอกว่าผมโกหกนะตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ผมแค่ใช้ชีวิตโหดมากเกินจนไม่มีเวลาสักนิดเลยจะมานั่งพิจารณาอะไรอื่นนอกจากสิ่งที่ควรทำต่อไปในทันที”
ติดตามบทสัมภาษณ์เต็มๆของนัมจุนได้ใน 032c.com แล้วจะไม่แปลกใจเลยที่บทเพลงต่างๆของ BTS สื่อสารข้อความผ่านเนื้อเพลงให้ผู้คนหันมารักตัวเอง และจงยืนหยัดแม้เผชิญกับความทุกข์ทนในชีวิต เพราะเมื่อผ่านช่วงเวลาแสนยากมาได้ คุณจะเจอกับช่วงเวลาที่งดงามที่สุดในชีวิต (Hwa Yang Yeon Hwa (HYYH) หรือ The Most Beautiful Moment In Life) ซึ่งได้กลายมาเป็นชื่ออัลบัมไตรภาคที่เป็นจุดเปลี่ยนของ BTS
สุดทางของความมืดคือแสงสว่าง
Words: Suphakdipa Poolsap
ข้อมูลจาก: 032c Magazine Issue #44