คุณหลอกดาว! หากจะภูมิใจในความเป็นไทยอะไรสักอย่าง คงหนีไม่พ้นวลีชาตินิยมอย่าง สยามเมืองยิ้ม ที่ครูชั้นประถมมักจะยกย่องบุคลิกนอบน้อม เขินอาย ยิ้มง่ายสไตล์ไทยแลนด์! แต่คราวนี้ความเฟรนด์ลี่อ่ะใช่! แต่ความยิ้มง่ายอาจจะคลาดเคลื่อน เมื่อคนไทยกำลังตกเป็นเหยื่อของ Smile Shame หรือการไม่กล้ายิ้ม
เหตุเกิดเพราะอะไร อย่างไร ลิปส์มัดรวมเรื่องทั้งหมดทั้งมวลให้คุณแล้ว ขอเพียงยิ้มก่อนอ่าน ตาหวานก่อนเปิด อ่ะ! ไม่ใช่สิ แค่ตาอย่างเดียวก่อนก็ได้ ถ้าคุณไม่มั่นใจ เพราะติดกับดัก Smile Shame อยู่
สยามเมือง (ไม่) ยิ้มแล้ว
ผลการศึกษาจาก Colgate Smile Study ปี2023 วิจัยโดยบริษัท Pureprofile ที่ทำการสำรวจบุคคลกว่า 4,000 คน ที่มีอายุระหว่าง 16 ถึง 55 ปีในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งประกอบไปด้วย ประเทศไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย ฮ่องกง ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ออสเตรเลียและอินเดีย ซึ่งผลสำรวจพบว่า 94% ของผู้ตอบแบบสอบถามอยากมีอิสระในการยิ้มมากขึ้น และกว่า 98% อยากยิ้มแบบไม่ต้องสงวนท่าที โดยอันดับสูงสุดนำโดยฟิลิปปินส์ ไต้หวัน และประเทศไทย
พร้อมกันนี้ผลการศึกษาจาก Colgate Smile Study ยังกล่าวอีกว่า 3 ใน 5 ของผู้ตอบแบบสอบถามมีประสบการณ์ในเรื่องของ Smile Shame โดยผู้ตอบแบบสอบถามจากประเทศไทยเป็นผู้มีประสบการณ์ไม่กล้ายิ้มมากที่สุดถึง 59% เหตุผลหลักสืบเนื่องมาจากการกลัวว่าผู้อื่นจะมองตนอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นบริบทของเพื่อน ครอบครัว บุคคลแปลกหน้า หรือแม้กระทั่งความรู้สึกที่มีต่อตนเอง เป็นต้น
ทั้งนี้เพราะค่านิยมของคนไทยปักธง Beauty Standard ในใจที่ว่า ‘ความงาม = มีฟันขาว เรียงตัวสวย ไม่ซ้อน ไม่เก’ ซึ่งการใช้ชีวิตที่มีค่านิยมความงามดังกล่าวมาครอบ จึงเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ว่าทำไมคนไทยถึงยิ้มกันน้อยลง
ดังนั้นหากจะบอกว่าสยามเป็นเมืองยิ้ม…คงเป็นคำกล่าวที่เลือนลอย ณ วินาทีนี้ (น่าเศร้าใจจัง)!
จากญี่ปุ่นถึงฮอลลีวูด
ญี่ปุ่นกลับเปิดกว้างกว่า เทรนด์ Yaeba ฮิตมากว่าสิบปีด้วยวัฒนธรรมของเจป๊อปและกระแสอนิเมชัน จึงทำให้ คนญี่ปุ่นมองว่าการมีฟันซ้อนกันในลักษณะเขี้ยวทำให้มีภาพลักษณ์อ่อนวัยคล้ายฟันเด็ก ซึ่งเกิร์ลกรุ๊ปอย่าง AKB48 ก็มี (อดีต) เมมเบอร์คนดังอย่างโทโมมิ อิตาโนะ กับเขี้ยวซิกเนเจอร์ที่ตกหัวใจทั้งแฟนคลับทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวไทยอย่างล้มหลาม
ข้ามฝากมาที่เคต มอสส์ นางแบบชื่อดังแห่งยุค 90 มาพร้อมกับโครงกรามชัดและเขี้ยวเสน่ห์เช่นเดียวกับที่ เคียร์สเตน ดันสต์ มีรูปฟันที่เล็กน่ารักน่าเอ็นดู ส่วนมาดอนนาก็เคยปฎิเสธการจัดฟัน เพราะเธอพอใจในความงามของฟันหน้าที่ห่างเล็กน้อยในแบบ Gap Teeth
และอิทธิพลความงามที่ไม่สมบูรณ์แบบเหล่านี้ส่งไม้ต่อให้กับสลิก วูดส์จนไปถึง Cover Girl อย่างนาตาเลีย ซิออดเมียคที่นิตยสาร Glamour หยิบภาพฟันห่างสุดเก๋ไปขึ้นปก และที่สำคัญไม่มีภาพไหนเลยที่พวกเธอปิดปากซ่อนฟันไว้ แต่กลับเผยอปากเปล่งประกายราวกับว่านี่คือตัวแทนของ ‘ความสวยของมนุษย์ปกติ’
เมื่อแบรนด์ออกมาตะโกน
ดูเหมือน Gucci Beauty จะมีแนวคิดว่า “ลิปสติกแสนสวยเหล่านี้ควรอยู่คู่กับรอยยิ้มทุกรูปแบบ” และในปี 2022 ภายใต้การกุมบังเหียนของอเลสซันโดร มิเกเล (อดีต) ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของ Gucci ได้คลอดแคมเปญแรกอย่างลิปสติก 58 เฉดสี เพื่อเรียกอุตสาหกรรมบิวตี้อันแสนโป้ปดมาตบหน้าฉาดใหญ่! Gucci Beauty ถ่ายทอดข้อความสุดสตรองว่า “ความงามที่แท้จริงปรากฎในความไม่สมบูรณ์แบบ”
แคมเปญนี้นำเสนอภาพระยะใกล้ตลอดจนวิดีโอของโมเดลทั้งสี่รุ่นจำนวน 4 ภาพ ที่มาพร้อมริมฝีปากสีสันสดใสด้วยลิปสติก Gucci ภายใต้กลิ่นอายแห่งยุค 80 โดยไฮไลต์สำคัญคือ ซีนที่ปรากฎให้เห็นฟันห่างของนางแบบและนักร้องแดนี มิลเลอร์แบบชัดเจน และที่สำคัญสาวๆ ทุกคนเปล่งประกายด้วยความสุขที่เราสัมผัสได้อย่างจริงจัง
No More Smile Shame
ล่าสุด Colgate ผุดแคมเปญ FreeYourSmile ยืนหยัดต่อต้าน ‘การอายที่จะยิ้ม’ (Smile Shaming) เนื่องจากมองว่า ‘รอยยิ้ม’ เป็นสิ่งสำคัญต่อความมั่นใจ และส่งผลกับสุขภาพจิตและการเข้าสังคมโดยตรง โดยเป้าหมายคือเคลื่อนไหวเพื่อสร้างแรงกระเพื่อมให้ทุกคนกล้าแสดงออกอย่างอิสระ โดยไม่อายในความไม่สมบูรณ์แบบต่างๆ ทั้งนี้นำเสนอผ่านเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ทั่วเอเชียแปซิฟิกพร้อมรูปถ่ายรอยยิ้มอันเป็นเอกลักษณ์
นอกจากนี้ Colgate ยังได้เปิดตัวเครื่องมือ AI Smile Generator ในเว็บไซต์ www.colgate.com โดยสนับสนุนให้ทุกคนร่วมถ่ายรูปรอยยิ้มเพื่อเผยแพร่ทางโซเชียลฯ เป็นการตอกย้ำอิสระและความมั่นใจผ่านในแบบฉบับของคุณ
นักร้องออกมาพูด! นางแบบออกมาประกาศ! และเหล่าแบรนด์ตัวแม่มาช่วยตะโกน! คราวนี้ถึงทีคุณต้องถามตัวเองแล้วละว่า กล้าฉีกยิ้มกว้างหรือยัง? อยากให้สยาม (กลับมา) เป็นเมืองยิ้ม ก็ต้องกล้ายิ้มหน่อยน้า
Words: Varichviralya Srisai
ข้อมูลจาก: