เมื่อวิถีชีวิตแบบ work from home เข้ามามีอิทธิพลกับหนุ่มสาวชาวออฟฟิศใน พ.ศ. นี้ คงไม่มีอะไรดีไปกว่าการทำใจยอมรับและปรับตัวให้เข้ากับทุกสถานการณ์ยามโควิดระบาด และเมื่อทั้งงานและความเครียดรุมเร้า จะเดินเข้าสปาหรูเพื่อนวดผ่อนคลาย ปรนเปรอร่างเล็กๆ น้อยๆ เพื่อให้หายเหนื่อย เมื่อยล้ากายา แบบที่ทำเป็นประจำ ก็อาจกลายเป็นเรื่องที่สร้างความเสี่ยงต่อสุขภาพทั้งตัวคุณและคนรอบข้าง Lips จึงอยากชวนคุณมาเปลี่ยนห้องน้ำที่บ้านของคุณให้กลายเป็นสปาสุดเอ็กซ์คลูซีฟกัน
- 1. การแช่ตัวเป็นสิ่งวิเศษ
ลองอัพเกรดอ่างอาบน้ำของคุณสักนิด จากที่เคยตีฟองด้วยฟองสบู่ฟูฟ่องธรรมดา ลองหยดน้ำมันหอมระเหยอโรมาเธราพีลงในอ่างน้ำอุ่นสัก 2 – 3 หยด พร้อมบับเบิ้ลบาธที่มีคุณสมบัติของสารบำรุงผิวผสมอยู่ เลือกกลิ่นที่ช่วยบำบัดจิตใจและร่างกายให้ผ่อนคลาย เช่น กลิ่นคาโมมายล์ กลิ่นลาเวนเดอร์ กลิ่นหญ้าแฝก กลิ่นไม้จันท์หอม กลิ่นกระดังงา ฯลฯ เพิ่มเกลือหิมาลายันสีชมพูลงไปสัก 1 ช้อนชา เพื่อช่วยปรับสมดุลของร่างกายและดีท็อกซ์ของเสียจากร่างกายร่วมด้วยก็ได้ การอาบน้ำนั้นช่วยลดฮอร์โมนความเครียดอย่างคอร์ติซอล ลดความดันโลหิตของหัวใจ รวมทั้งกระตุ้นการหลั่งสารเอนโดรฟินได้ดีอีกด้วย แต่ถ้าคุณมีภาวะความดันโลหิตสูง อุณหภูมิของน้ำในอ่างอาบน้ำก็เป็นสิ่งที่ต้องควบคุมให้ดีและไม่ควรแช่น้ำอุ่นนานจนเกินไป อ้อ ถ้ามีเวลานานสำหรับการแช่ตัว ก่อนลงอ่าง ลองใช้สครับขัดผิวที่มีเท็กซ์เจอร์นุ่มนวลและมีกลิ่นหอมบางเบา ขัดผิวเบาๆ ให้ทั่วเรือนร่างเพื่อขจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพให้หลุดออกและพร้อมที่จะเผยเซลล์ผิวใหม่ที่ผุดผ่อง
2. จุดเทียนหอมสร้างบรรยากาศ
เพิ่มบรรยากาศแบบสปาแบบดับเบิ้ลด้วยการจุดเทียนหอมไปพร้อมกับการแช่น้ำ แต่ถ้าคุณกังวลเรื่องของเขม่าเทียนที่อาจเป็นคราบติดตามฝ้าเพดาน ขอบกำแพงหรือบนผ้าม่านพลาสติกในห้องน้ำ อาจเปลี่ยนเป็นการใช้สเปรย์กลิ่นแบบอโรมาฉีดสร้างบรรยากาศในห้องน้ำแทน หรือจะใช้ Disfusser แทนก็ได้ ให้ผลลัพธ์ในการสัมผัสกลิ่นได้ดีเช่นกัน ก้าวแรกที่เดินเข้าห้องน้ำ ก่อนจะเริ่มปรนนิบัติผิวและเรือนร่าง แนะให้สูดหายใจลึกๆ ทวีความผ่อนคลาย
3. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มความชุ่มชื้นเป็นพิเศษ
ไม่เคยมีใครเดินออกจากสปาด้วยผิวพรรณที่แห้งกร้าน และผิวที่ดีมักส่งผลให้เรามีความสุข ในห้องน้ำของคุณควรมีโปรดักส์ความงามที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นเป็นสองหรือสามเท่าเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นครีมพอกหน้า ทรีทเม้นต์หมักผม โลชั่นบำรุงผิว ฯลฯ และหากคุณรักออยล์ ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่มีส่วนผสมของออยล์ก็จะช่วยบำรุงผิวแบบล้ำลึกยิ่งขึ้น แต่อย่าลืมอ่านฉลากและส่วนผสมต่างๆ ให้ดี หากคุณเป็นผู้มีผิวบอบบาง ระคายเคืองง่าย
4. ดูแลตัวเองด้วยการนวดหน้า
การนวดหน้าอาจจะดูยุ่งยากมากขึ้น เมื่อเทียบกับการล้างทำความสะอาดใบหน้าแบบทั่วๆ ไป แต่เชื่อเถอะว่ามันได้ผลลัพธ์ที่เริ่ดยิ่งกว่า ในระหว่างการล้างหน้า การใช้ปลายนิ้วกลางและปลายนิ้วนางช่วยในการนวดวนตามจุดต่างๆ บนใบหน้า จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตและต่อมน้ำเหลืองภายใต้ผิวหนังให้ทำงานได้ดี มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ลองใช้ปลายนิ้วยกดันส่วนที่หย่อนคล้อยของใบหน้าให้ยกขึ้นแล้วค้างไว้สัก 5 นาที ตามจุดต่างๆ ที่คุณคิดว่ามีปัญหาหย่อนคล้อย ในขณะที่ทำก็ลองหลับตา ผ่อนคลายกายใจแบบเต็มที่ นี่แหละคือวิธีรีแลกซ์ผิวและจิตใจแบบง่ายๆ แต่ได้ผลชั้นยอด สำหรับคนที่รักในธรรมชาติ พืชผักผลไม้ต่างๆ ที่มีติดบ้านติดตู้เย็นก็สามารถนำมาเป็นไอเท็มเสริมความงามได้ ไม่ว่าจะเป็น แตงกวา มะเขือเทศ ว่านหางจระเข้ ฝานเป็นแผ่นบางๆ โปะผิวรอบดวงตาหรือผิวหน้าได้ แค่ล้างให้สะอาดเพื่อความมั่นใจก็พอ
5. อย่าละเลยเส้นผม
หลายคนปรนเปรอบำรุงบำเรอผิวพรรณทั้งใบหน้าและเรือนกายสม่ำเสมอ แต่ลืมใส่ใจเส้นผมอย่างเป็นพิเศษ ทั้งๆ ที่ผมมักสัมผัสสารเคมีจากผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม ฝุ่นละอองและมลพิษจากอากาศ รวมไปถึงความร้อนจัดจากการเป่าไดร์ การหนีบ ม้วน จัดแต่งทรงผม และแน่นอนในทฤษฎีความงามการปรับสภาพเส้นผมอย่างล้ำลึกทุกสัปดาห์เป็นสิ่งสำคัญสำหรับผมสวยสุขภาพดี ในการนวดเส้นผมด้วยคอนดิชั่นเนอร์หรือทรีทเม้นต์เพื่อหลีกเลี่ยงการพันกันและรู้สึกถึงผลของการนวดอย่างแท้จริงคุณควรไม่รวบผมทั้งหมดไว้ในมือเพื่อนวด ปล่อยให้ผมทิ้งตัวสยายลงมาอย่างเป็นธรรมชาติ และใช้ปลายนิ้วนวดศีรษะและโคนผมให้ทั่วทั้งศีรษะ ที่สำคัญเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพและปัญหาของเส้นผมเพื่อการฟื้นฟูและบำรุงอย่างถูกจุด เดี๋ยวนี้ผลิตภัณฑ์เวอร์ชั่นโปรเฟสชั่นเนลแบบผู้เชี่ยวชาญนั้นมีขายมากมายให้เลือกและลองใช้ เพิ่มการซึมซาบที่ล้ำลึกด้วยการใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นโพกทับเส้นผมที่หมักด้วยทรีทเม้นต์ทิ้งไว้ 10 – 15 นาที ก่อนล้างออกให้สะอาด ทำเป็นประจำสัปดาห์ละครั้ง เชื่อเถอะเส้นผมจะสลวย เป็นเงางาม แลดูสุภาพดีเป็นประจำ
┃Photo : Pixabay