การได้เห็นฉากในอนิเมชั่นเรื่องโปรดของตัวเองมาอยู่ตรงหน้าอีกครั้งในนิทรรศการ THE WORLD OF STUDIO GHIBLI’S ANIMATION EXHIBITION BANGKOK 2023 ก็ทำให้ตะกอนความทรงจำได้กลับคืนมาแจ่มชัด ให้เราได้ทบทวนความเชื่อมโยงระหว่างเรากับฉากเหล่านั้นอีกครั้ง
เชื่อว่าหลายๆคนเติบโตขึ้นมาพร้อมๆกับอนิเมชั่นจาก Studio Ghibli งานภาพที่เป็นมิตรกับทุกเพศทุกวัยและเรื่องราวที่ลึกซึ้งกินใจสร้างความทรงจำดีๆให้กับแฟนๆทั่วโลก เราต่างเชื่อมโยงกับฉากต่างๆในอนิเมชั่นแต่ละเรื่องต่างกันไปตามบริบทของแต่ละคน
ฉันดูการ์ตูนจิบลิครั้งแรกตอน 5 ขวบ แม่พาฉันไปเยี่ยมบ้านเกิดที่เบตง ที่ตอนนั้นเป็นอำเภอห่างไกลในหุบเขายังไม่มีสตรีตอาร์ตสุดแนวอย่างทุกวันนี้ แม่ที่วุ่นอยู่กับเครือญาติคนจีนปล่อยให้เด็กเงียบๆเก็บตัวอย่างฉันจมจ่มอยู่คนเดียวในร้านมอเตอร์ไซค์เล็กๆของครอบครัว ในความทรงจำเลื่อนลางฉันนั่งหน้าทีวีจอแก้วขนาด 14 นิ้ว ภาพมัวๆ บนเก้าอี้ทำงานของแม่ ในร้านมอเตอร์ไซด์มืดๆ เป็นบรรยากาศที่น่ากลัวสำหรับเด็ก 5 ขวบ แต่ฉันกลับลืมเรื่องความมืดไปเสียสนิท เพราะภาพจากม้วนวีดีโอ Laputa the Castle in the Sky ที่ได้มาจากร้านเช่าใกล้บ้าน
เรื่องราวการผจญภัยของปาซูและซีต้าร์ดึงฉันเข้าสู่อีกโลกหนึ่ง โลกที่สว่างไสว ตื่นเต้น สวยงาม เหงาเล็กน้อย แต่ก็อบอุ่นหัวใจ ฉากที่ปาซูรับซีต้าร์ที่ลอยลงมาจากท้องฟ้าอย่างช้าๆ ติดตรึงและทำงานกับจิตใจฉันอย่างประหลาด มาคิดดูในตอนนี้แล้ว ภาพนั้นคงตอบสนองต่อความเหงาในจิตใจฉัน ที่แค่อยากให้ใครสักคนมารอรับตัวฉันไว้ ในยามที่รู้สึกล่วงหล่น
ปาซูพาซีต้าร์หนีจากจากกลุ่มคนที่มาไล่ล่าบนทางรถไฟ ได้เข้าร่วมกับกลุ่มโจรสลัดอากาศ พบกับดอร่า กัปตันเรือลอยฟ้าโจรสลัดหญิงแก่ปากร้ายใจดีที่เป็นเสมือนแม่ของลูกเรือทุกคน และกลายเป็นครอบครัวใหม่ให้กับซีต้าร์และปาซู ช่วยเหลือซีต้าร์จากมุซิก้า พี่ชายผู้สืบสายเลือดจากอาณาจักรลอยฟ้าโบราณที่ต้องการใช้พลังผลึกแก้วของซีต้าร์ในทางชั่วร้าย ฉันที่รู้สึกแปลกแยกจากเครือญาติฝั่งแม่ จึงรู้สึกเชื่อมโยงกับเนื้อเรื่องไปโดยอัตโนมัติ และ Laputa the Castle in the Sky ก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของตัวตนของฉันตลอดมา
หลายปีผ่านไป เมื่อเติบโตขึ้นฉันก็ไม่พลาดที่จะหาอนิเมชั่นเรื่องอื่นๆของ Studio Ghibli มาดูจนครบทุกเรื่อง ฉันรู้สึกเชื่อมโยงกับตัวละครของจิบลิเสมอ ใน Nausicaa of Valley of Wind ความเด็ดเดี่ยวของเจ้าหญิงนาอูชิกะที่ยึดมั่นในแก้ปัญหาอย่างสันติท่ามกลางสงครามและความรุนแรงมีความหมายกับฉัน ก่อนที่ฉันจะรู้เรื่องราวของคานธีเสียอีก
ใน Kiki’s Delivery Service เรื่องราวของกิกิช่วยปลอบโยนให้ฉันรู้ว่า ไม่ใช่ฉันคนเดียวที่รู้สึกแปลกแยกในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการเติบโตเป็นวัยรุ่น
ใน Totoro เมย์สอนให้ฉันรู้ว่า ในวันที่เปลี่ยวเหงาความเป็นเด็กและจินตนาการจะยังเป็นเพื่อนให้เราได้เสมอ
ในวันที่ฉันเรียนมหาวิทยาลัย Spirited Away ไปไกลถึงขั้นคว้ารางวัลออสการ์ อาจารย์สมเกียรติ ตั้งนโม เขียนตีความ Spirited Away ในเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน แจกแจงเปรียบเทียบโรงอาบน้ำของเหล่าภูติพรายกับรูปแบบสังคมและระบบการศึกษาแบบตะวันตก ที่กระทำต่อเด็กหลากหลายกลุ่ม แทนภาพด้วยตัวละครอย่าง จิฮิโระ เด็กที่ถูกยึดตัวตนบางส่วนจนกลายเป็น เซน ฮาคุ ผู้ยอมตามระบบจนลืมเลือนตัวตนแท้จริง
ผีไร้หน้า – เด็กชายขอบที่ถูกกัดกันจนทำร้ายผู้อื่น โบ-เด็กสปอยที่โตแต่ตัว บทความนี้ช่วยเปิดโลกทัศน์ของฉันให้พ้นไปจากกรอบที่การศึกษาไทยหล่อหลอมมาอย่างยาวนาน และช่วยเยียวยาฉันจากความคาดหวังตามแบบแผนชนชั้นกลาง
ฉันเดินมาถึงทางออกของนิทรรศการด้วยความรู้สึกเต็มอิ่ม นั่งปล่อยอารมณ์อยู่กับฉากหลังรถเมล์แมวจากเรื่อง Totoro มองเห็นเด็กๆที่มาพร้อมกับครอบครัววิ่งผ่านไปอย่างเพลิดเพลินใจ
พ่อแม่หลายคนเติบโตมากับการ์ตูนจิบลิเหมือนฉัน และก็ส่งต่อความประทับใจให้ลูกๆ
จิบลิกลายเป็นส่วนหนึ่งในการผูกร้อยความสัมพันธ์ในครอบครัวให้แน่นแฟ้น
ฉันคิดถึงครอบครัวตัวเอง ว่าแล้วก็โทรชวนแม่ไปเที่ยวจิ่วเฟิ้น* เดือนหน้าก็ดีเหมือนกัน
*จิ่วเฟิ้น (Jiufen) ย่านเมืองเก่าในประเทศไต้หวั่น ที่มีชื่อเสียงจากบรรยากาศยามค่ำคืนที่เป็นแรงบันดาลใจฉากในอนิเมชั่นเรื่อง Spirited Away
นิทรรศการจาก Studio Ghibli เต็มรูปแบบครั้งแรกในไทย ใหญ่ที่สุดในอาเซียน
THE WORLD OF STUDIO GHIBLI’S ANIMATION EXHIBITION BANGKOK 2023
วันจัดแสดง: 1 ก.ค. – 30 ก.ย. 2566
สถานที่: เซ็นทรัลเวิลด์ ไลฟ์ ชั้น 8 เซ็นทรัลเวิลด์
จำหน่ายบัตร: บัตรราคาหน้างาน 650 บาท
Words: Roongtawan Kaweesilp