เบื้องหลังสไตล์สาววินเทจที่แก่นเซี้ยวขึ้นทุกวันของ Landmee’ มาจากความหลงใหลคลั่งไคล้ในแฟชั่นของ มี่-เนตรดาว วัฒนะสิมากร ดีไซเนอร์ผู้พร้อมโอบรับทุกสไตล์ใหม่ๆ มาปรับใช้ให้ใช่สำหรับเธอ ภายในตู้เสื้อผ้าของเธอจะไอเท็มชิ้นไหนบ้างไปดูกันเลยค่ะ
เรารู้จักแบรนด์ Landmee มายาวนานมากน่าจะตั้งแต่ยุคเซ็นเตอร์พอยท์เลย คุณเริ่มต้นก่อตั้งแบรนด์ Landmee ขึ้นมาได้อย่างไร
เนตรดาว : แบรนด์ Landmee อายุประมาณ 18 ปีแล้วค่ะ เริ่มต้นประมาณปี 2002 ตอนแรกๆ แบรนด์เราเกิดช่วงยุคโบว์-จอยซ์ Triumphs Kingdom เลยค่ะ ตอนนั้นที่ร้านทำเสื้อสายเดี่ยวขาย นอกนั้นก็จะเป็นเสื้อยืด ตัวมี่เองเวลาอยากใส่เสื้อผ้าแบบไหนเราก็จะทำเสื้อผ้าแบบนั้นออกมาขาย
ย้อนเวลากลับไปเมื่อ 18 ปีที่แล้วสไตล์ของคุณเป็นอย่างไร ใกล้เคียงกับตอนนี้ไหม
เนตรดาว : ใกล้เคียงนะ แต่ตอนนี้เรากล้าแต่งตัวมากขึ้น ตอนนั้นเรายัง play safe อยู่ แต่เราก็ชอบลูกไม้ ชอบของวินเทจมาแต่ไหนแต่ไร มาจนถึงตอนนี้ก็ยังชอบสไตล์วินเทจอยู่ แต่ก่อนจะชอบใส่ยีนส์ขาม้า ใส่หมวกใบใหญ่ เสื้อยืดวินเทจ พอโตขึ้นก็เริ่มสนใจแบรนด์ต่างๆ มากขึ้น เหมือนเป็นการให้รางวัลตัวเองมากกว่า เราชอบเสื้อผ้าอยู่แล้ว ถ้าแบรนด์ไหนทำเสื้อผ้าสวยเราก็อยากซื้อเก็บไว้
เมื่อก่อนนี้มี่จะไม่กล้าทำอะไรที่แหวกไปจากเดิมกลัวลูกค้าจะไม่ชอบ แต่คุณเคธี่มาช่วยเป็นที่ปรึกษาเขาแนะนำให้เราเป็นตัวของตัวเองแหละดีที่สุด ก็เลยเสี่ยงทำไปเลยค่ะ
ทุกวันนี้คนเริ่มจดจำลุคของสาวLandmee จากสไตล์ฟรุ้งฟริ้ง เฟมินีนจัดๆ คุณเห็นด้วยหรือไม่
เนตรดาว : เราไม่ใช่ผู้หญิงเรียบร้อยอยู่ในทุ่งหญ้าตลอดเวลา ทุกวันนี้เรามีความเป็นสาวเมืองมากขึ้น เวลาจะทำแต่ละคอลเล็กชั่นก็ใช้ความชอบของตัวเองนำทาง แต่ยอมรับว่าก็ต้องอิงเทรนด์ด้วย เมื่อก่อนนี้ออกแบบคนเดียวไม่มีผู้ช่วยดีไซเนอร์ เพิ่งจะมามีผู้ช่วยเมื่อ 2-3 เดือนนี้เองค่ะ ตัวแบรนด์จึงออกมาจากตัวเราจริงๆ โดยมีคุณเคธี่ (เคธี่ พัฒนปราการ หรือ Katie Monster) มาช่วยผลักดันตัวตนของเราให้ชัดเจนขึ้น
เมื่อก่อนนี้มี่จะไม่กล้าทำอะไรที่แหวกไปจากเดิมกลัวลูกค้าจะไม่ชอบ แต่คุณเคธี่มาช่วยเป็นที่ปรึกษาเขาแนะนำให้เราเป็นตัวของตัวเองแหละดีที่สุด ก็เลยเสี่ยงทำไปเลยค่ะ ปรากฎว่า คอลเล็กชั่นแรกที่เริ่มเปลี่ยนลูกค้ากลับชอบ ทำให้เราค้นพบว่า บางทีลูกค้าเขาจะอยากมีสีสันใหม่ๆ ในสไตล์ของเขาเหมือนกัน คราวนี้ก็สนุกแบบไม่ต้องยั้งแล้วค่ะ โดยที่เราก็ไม่ลืม DNA ของเราที่ต้องเป็นวินเทจ มีลูกไม้ มีงานปัก คอลเล็กชั่น Love Story น่าจะดึงอีกมุมหนึ่งของ Landmee ออกมาได้ เราเริ่มทำชุดยาว เริ่มนำกลิตเตอร์เข้ามาใช้ปักในชุดผ้ายืด คอลเล็กชั่นนั้นเป็นคอลเล็กชั่นที่ทำให้มี่เริ่มตกตะกอนในการทำเสื้อผ้า
ดูจากคอลเล็กชั่นรองเท้าดีไซน์หวือหวาของคุณแล้ว เราเดาออกเลยว่า คุณเป็น Shoes Lover รองเท้าแบบไหนที่คุณเห็นแล้วต้องพากลับบ้านให้ได้
เนตรดาว : มี่ชอบซื้อรองเท้ามากๆ เป็น Shoes Lover มาแต่ไหนแต่ไร แค่ได้เห็นรองเท้าที่ชอบวางอยู่ก็มีความสุขแล้วค่ะ แรกเริ่มเลยจะบ้าแบรนด์ Charlotte Olympia เขาทำรองเท้าส้นสูงสวยและใส่สบาย แต่เดี๋ยวนี้สไตล์เริ่มไม่ค่อยตรงกับเราเท่าไร
แต่ส่วนใหญ่จะชอบรองเท้าแพลทฟอร์มสูงๆ แนวยุค 70s แบบนี้พ่ายแพ้มาก Miu Miu กับ Prada ทำรองเท้าทรงนี้ได้สวยและใส่สบาย รองเท้าหัวแหลมส้นสูงนี่ถ้าสวยเสียอย่างก็ไม่สนเลยว่าจะเป็นของแบรนด์อะไร ไม่มีแบรนด์ไหนที่ชอบเป็นพิเศษค่ะ อย่างBottega Venetaคู่นี้ใส่ไม่สบายหรอก แต่ของมันต้องมีค่ะ
บางคู่ที่ซื้อมายังไม่เคยใส่ก็มีนะคะ สามีบอกให้ขายออกไปบ้างเราก็ทำใจขายไม่ได้ เพราะเราชอบจริงๆ น่ะ บางคู่แค่ได้ใส่ยืนถ่ายรูปก็แฮปปี้แล้วค่ะ คู่ที่เอามาด้วยในวันนี้ส่วนใหญ่ใส่จริงหมดเลยค่ะ ถามว่ามีกี่คู่เหรอคะ เยอะจริงๆ ค่ะ ไม่เคยนับ
กระเป๋าของคุณดูคุมโทนคลาสสิกต่างจากเสื้อผ้า และรองเท้าไปเลย อย่างนี้เวลาเลือกรองเท้ากับกระเป๋าเลือกให้ไปด้วยกันอย่างไร
เนตรดาว : ส่วนใหญ่จะไม่ได้เลือกรองเท้ากับกระเป๋าสีเดียวกัน แต่จะเลือกรองเท้าก่อนแล้วค่อยดูว่าชุดไหน กระเป๋าใบไหนไปกับรองเท้าได้ กระเป๋าส่วนใหญ่เลยเป็นแบบคลาสสิก สีขาว สีน้ำตาล สีดำ แบรนด์ที่มีเยอะที่สุดน่าจะเป็น Celine ลูกรักคือ Celine สีน้ำตาลใบนี้ หยิบมาใช้บ่อย มันดูวินเทจ ดูคลาสสิก อายุ 80 ปีก็ยังใช้ได้ สีน้ำตาลของมันก็ดูดี ใบนี้ซื้อแบบไม่ต้องคิดเลย
▴ Shoes, Shoes, Shoes
“มี่ชอบซื้อรองเท้ามากๆ เป็น Shoes Lover มาแต่ไหนแต่ไร แค่ได้เห็นรองเท้าที่ชอบวางอยู่ก็มีความสุขแล้วค่ะ แรกเริ่มเลยจะบ้าแบรนด์ Charlotte Olympia เขาทำรองเท้าส้นสูงสวยและใส่สบาย แต่เดี๋ยวนี้สไตล์เริ่มไม่ค่อยตรงกับเราเท่าไร
แต่ส่วนใหญ่จะชอบรองเท้าแพลทฟอร์มสูงๆ แนวยุค 70s แบบนี้พ่ายแพ้มาก Miu Miu กับ Prada ทำรองเท้าทรงนี้ได้สวยและใส่สบาย รองเท้าหัวแหลมส้นสูงนี่ถ้าสวยเสียอย่างก็ไม่สนเลยว่าจะเป็นของแบรนด์อะไร ไม่มีแบรนด์ไหนที่ชอบเป็นพิเศษค่ะ อย่างBottega Venetaคู่นี้ใส่ไม่สบายหรอก แต่ของมันต้องมีค่ะ”
▴ Christopher Kane Crystal Fringe Patent Bag
“กระเป๋าใบนี้ใช้เวลาไปงานกลางคืน คนอื่นจะถือคลัตช์เล็กๆ หรือกระเป๋ากลมๆ ใบเล็กๆ หนังสานๆ มี่ก็ไม่อยากซ้ำกับคนอื่น ใบนี้ก็ดูแปลกดี”
▴ Saint Laurent
“คู่นี้เป็นทรงแบบที่เราชอบ แต่ต้องรอนานหน่อย เพราะไซส์เราไม่มี มี่เท้าเล็กมากใส่รองเท้าไซส์ 35 แต่ไซส์เท้าจริง คือ 34 ½”
▴ Midnight 00 Shell Shoes
“คู่นี้ใส่ได้แค่ครั้งเดียว เพราะใส่แล้วมันเดินไม่ค่อยถนัด สัดส่วนรองเท้าแปลกมากๆ หรือเท้าเราแปลกเองก็ไม่รู้สินะคะ แต่ใส่แล้วสวยจริงๆ นะ มี่ชอบวัสดุที่แปลกๆ และมีความ Shiny ค่ะ”
▴ Miu Miu Cat-Eye Sunglasses
“เมื่อก่อนนี้ไม่กล้าใส่แว่นกันแดดรู้สึกเขิน แต่พอใส่แล้วติดไปเลย อย่างแว่นกันแดด Miu Miu ตัวนี้หายไป แล้วมี่ก็ซื้อใหม่แบบเดิมเลย แต่สุดท้ายแม่บ้านก็หาเจอ เลยกลายเป็นว่า มีแว่นแบบเดียวกันสองอัน”
▴ Bold Accesssories
“ชอบเครื่องประดับใหญ่ๆ ค่ะ ซื้อตามช็อป Celine บ้าง แล้วก็ชิ้นคลาสสิกต่างๆ อย่างของแบรนด์ Alessandra Rich หรือ Balenciaga แล้วถ้าเป็นพวกเพชรๆ ระยิบระยับของ Yves Saint Laurent จะสวย พวกเครื่องประดับแนวนี้นำมามิกซ์กับชุดแบรนด์ของเราแล้วก็เข้ากันได้ด้วย”
▴ The Attico One Sided Earrings
“ตุ้มหูอันนี้ชอบมาก เพราะเราอยากเจาะหูหลายๆ รูมาตลอด แต่ทำไม่ได้ เพราะน้ำเหลืองไม่ดี แต่คู่นี้ใส่แล้วเหมือนเจาะหูหลายรูเลยชอบมาก เรื่องตุ้มหูนี่สู้ตาย จะหนีบ จะเจาะ จะหนักแค่ไหนก็สู้ค่ะ”
▴ Landmee’ Dress
ชุดนี้มาจากคอลเล็กชั่นรีสอร์ตล่าสุดของเราเป็นชุดลูกไม้ ผ้าลูกไม้เราทำเองเลยได้แรงบันดาลใจมาจากยุค 80s ลายลูกไม้ที่ทำออกมาจึงเป็นรูปทรงเรขาคณิต
▴ Kwaida Editions Tiger Print Car Coat
โค้ตกับกางเกงลายเสือเซ็ตนี้ใส่ชุดเดียวแล้วจบในตัว ดูโบราณเหมือนยุค 70s
│Photography : Somkiat K.