ภายในเดือนมิถุนายนนี้ธีมเล่มของ LIPS นั้นพูดถึงเรื่องของ #NEWSTANDARD หรือมาตรฐานใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นทุกมุมโลก มาตรฐานใหม่ๆ เหล่านี้ล้วนเกิดขึ้นมาเพื่อโอบรับกับกระแสสังคมที่เปลี่ยนไปไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความถูกต้องทางการเมือง (Political Correctness) ความยั่งยืน (Sustainable) ความเท่าเทียม (Equality) รวมถึงความหลากหลาย (Diversity and Inclusivity) ก็ได้กลายมาเป็นประเด็นที่ทุกวงการทั่วโลกต่างให้ความสนใจ
และหากมองมาที่วงการแฟชั่นหรืออุตสาหกรรมสิ่งทอจะเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าวงการแห่งความเก๋นี้ถูกผูกติดกับเรื่องของ ‘เพศ’ มาอย่างช้านานจนฝังรากลึกลงไปจนเราไม่สามารถปฎิเสธได้ ยกตัวอย่างง่ายๆ เลยหากคุณเข้าเว็บไซต์แฟชั่นเข้าไปดูคอลเลคชั่นใหม่ของแบรนด์แฟชั่นต่างๆ เราก็มักจะเห็นคำว่า Womenswear และ Menswear ต่อท้ายอยู่เพื่อระบุถึงเพศของเสื้อผ้าในคอลเลคชั่นนั้นๆ ซึ่งสื่อถึงความติดอยู่ในมาตรฐานและวิถีปฏิบัติแบบเดิมๆ
ทั้งที่ความจริงแล้ววงการแฟชั่นนั้นถูกนำไปผูกติดอยู่กับประโยคสุด Cliche แสนคุ้นหูอย่าง “แฟชั่นคือการออกนอกกรอบ” แต่เสื้อผ้ายังคงมีเรื่องของเพศวิถีมากำหนดครรลองในการแต่งตัวของทุกคนบนโลกใบนี้ตั้งแต่ไฮแบรนด์ไปจนถึงสตรีตแบรนด์ แต่ด้วยความที่กระแสสังคมที่เรากล่าวไปข้างต้นได้กลายมาเป็นประเด็นสุดร้อนแรงที่ทุกคนทั่วโลกให้ความตระหนัก ทำให้ช่วงไม่กี่ปีมานี้มีแบรนด์เสื้อผ้าชั้นนำมามากมายพยายามจะชูประเด็นเรื่องของ ‘Gender Neutral’ หรือ ‘Gender Friendly’ ภายในวงการแฟชั่นมากขึ้น
ซึ่งสองคำนั้นมีหมายความว่าความเป็นกลางทางเพศ และเป็นมิตรกับทุกเพศ ทำให้เราจะเห็นได้ว่าเสื้อผ้าของหลายแบรนด์มีดีไซน์ที่เป็นกลางทางเพศและเป็นมิตรกับทุกเพศมากขึ้น เพราะเสื้อผ้านั้นเปรียบเสมือนเครื่องมือในการแสดงออกถึงตัวตนที่แท้จริงของมนุษย์ใยถึงมีกรอบมากำหนดเรื่องการแสดงออกทางเพศ (Gender Expression) และการแสดงออกก็เป็นหนึ่งในเทรนด์ที่กำลังมาแรงมากๆ ภายใต้หัวข้อของความหลากหลาย วันนี้เราเลยจะพาทุกคนไปรู้จักกับแบรนด์เสื้อผ้าที่เป็นมิตรสำหรับทุกเพศวิถี จะมีแบรนด์เสื้อผ้าไหนบ้างที่ลบคำว่า Womenswear และ Menswear ออกไป
Altu by Joseph Altuzarra
เราขอเริ่มที่แบรนด์แรกที่ฮอตปรอทแตกที่สุดในลิสต์นี้อย่าง ‘Altu’ โดย Joseph Altuzarra แบรนด์ Gender Friendly สุดเซ็กซี่ที่เปิดตัวขึ้นเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว ซึ่งแบรนด์นี้ถือเป็นอีกบทบาทหนึ่งของ Joseph ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งและครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ของแบรนด์ไฮแฟชั่นจาก New York อย่าง Altuzarra ที่ต้องการทำการทดลองกับแนวคิดเกี่ยวกับเพศที่ก้าวหน้าอย่าง Non-Binary จึงทำให้เขาก่อตั้ง Altu ขึ้นมา
นอกจากนั้นเขายังนิยามแบรนด์นี้ด้วยคำว่า ‘Genderful’ ซึ่งเป็นคำศัพท์เชิงบวกที่เกี่ยวข้องกับความหลากหลายทางเพศและการแสดงออกทางเพศ ซึ่งเขาหวังว่ามันจะส่งเสริมการมองโลกในแง่ดีสำหรับทุกคนต่อชุมชน LGBTQ+ ดร็อปแรกของ Altu ประกอบไปด้วย เดรสถักคัตเอาท์, โอเวอร์ไซส์สเวตตเตอร์ และไอเท็มหนังต่างๆ ที่สะท้อน DNA ของแบรนด์ Altuzarra ได้อย่างครบถ้วนจน Troye Sivan หยิบเดสถักสีดำของแบรนด์ Altu ใส่ไปร่วมงาน Met Gala 2021
Fluid by Harris Reed
สำหรับแบรนด์ต่อมามีชื่อว่า ‘Fluid’ ซึ่งเป็นแบรนด์ของ ‘Harris Reed’ อดีตนิสิตของสถาบันแฟชั่นชื่อดังของโลกอย่าง Central Saint Martins จุดเด่นของเขาที่สะท้อนออกมาตั้งแต่คอลเลคชั่นจบการศึกษานั้นก็คือ ‘ความลื่นไหลทางเพศ’ หรือ ‘Gender Fluid’ ซึ่งต่อมาได้กลายมาเป็นชื่อแบรนด์ไร้เพศที่น่าจับตามองแบรนด์นี้
ลายเซ็นของ Harris Reed ก็คงจะเป็นความดรามาติกและความหรูหราที่ถูกสะท้อนผ่านทุกดีเทลที่เขาใช้ในการออกแบบอย่างเช่น ชายกระโปรงยาวสุดเว่อวัง การใช้ลูกไม้ และระบายจำนวนมาก ทำให้แบรนด์นี้กลายมาเป็นแบรนด์ Gender Neutral เบอร์ต้นๆ ในตอนนี้ อย่างล่าสุดเดรสและหมวกประดับขนนกสีดำของแบรนด์นี้ก็ได้ไปเฉิดฉายบนปก Vogue UK ที่สวมใส่โดย Beyonce นอกจากนั้นยังมีเซเลบฯ อีกมากมายที่ชื่นชอบในงานออกแบบสุดดรามาติกของเขา เช่น Harry Styles, Adele, Iman, Emma Watson และ Bella Hadid
Just Frankie by Frankie Shop
สำหรับแบรนด์ที่สามที่เพิ่งออกไลน์ Gender Neutral มาเมื่อต้นปีนี้เองอย่างไลน์ ‘Just Frankie’ โดย Frankie Shop แบรนด์เสื้อผ้าสุดมินิมัลที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองยุคใหม่แถมมาในราคาที่จับต้องได้ จุดเด่นของแบรนด์นี้คือเสื้อผ้าสุดทันสมัยตามเทรนด์แต่โอบรับกับทุกๆ คน
หากใครเป็นสายแฟที่ชอบสอดส่องเทรนด์ใหม่เชื่อว่าคุณคงจะคุ้นตา Instagram ของแบรนด์นี้อย่างแน่นอน และไลน์ Just Fankie นั้นเป็นคอลเลคชั่นพิเศษของแบรนด์ที่เหมาะสำหรับทุกเพศและทุกคน ซึ่งเสื้อผ้าในไลน์นี้ยังคงความเป็น Frankie Shop แบบ 100% เพราะมันยังคงความมินิมอลและเก๋ เพียงแต่ซิลูเอ็ตต์และดีเทลของเสื้อผ้าถูกปรับให้มีความเป็นมิตรสำหรับทุกเพศมากขึ้น
Random Identities
แต่ถ้าหากใครชอบความชิคและคูลเราขอพาทุกคนไปรู้จักกับแบรนด์ ‘Random Identities’ ของ Stefano Pilati อดีตครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ของเมซงสุดหรูของฝรั่งเศสอย่าง YSL เขาเป็นหนึ่งในแฟชั่นดีไซเนอร์ที่เชิดชูในความหลากหลายทางเพศมาตั้งแต่ไหนแต่ไร หลังจากออกจาก YSL มาหลายปีเขาจึงตัดสินใจเปิดตัวแบรนด์ไร้เพศแบรนด์นี้ขึ้นมา
ทำไมแบรนด์นี้ถึงคูลและเท่สุดๆ นะหรอ? ก็เพราะว่า Random Identitties นั้นผสมผสานเสื้อผ้าแบบ Daily Life เข้ากับเสื้อผ้าแบบ High Fashion เราจึงได้เห็นไอเท็มสุดเบสิคในดีเทลที่แปลกตาซึ่งทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมานั้นเท่และชิคสุดๆ ยกตัวอย่างเช่น เสื้อสเวตเตอร์ที่ประดับด้วยโซ่ หรือแจ็กเก็ตยีนในดีเทลสุดหวือหวา และแบรนด์นี้ก็เป็นที่ชื่นชอบของเหล่าเซเลบริตี้ตัวแม่อย่าง Zendaya และ Kim Kardashian ด้วยนะ
Tanner Fletcher
แต่จะพูดว่าเสื้อผ้า Gender Freindly นั้นแซ่บ ยั่วเพศ หรือมินิมอลอย่างเดียวก็คงไม่ได้เพราะว่า ’Tanner Fletcher’ แบรนด์เสื้อผ้าสำหรับทุกเพศของสองนักออกแบบหน้าใหม่อย่าง Tanner Richie และ Fletcher Kasell ได้ถ่ายทอดเสื้อผ้าไร้เพศออกมาในมุมมองของความโรแมนติคที่เข้าถึงได้ทุกเพศวิถี
Tanner Fletcher เรียกได้ว่าเป็นแบรนด์ไร้เพศที่มาแรงมากๆ ใน New York เพราะเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ใน The Big Apple นี้หยิบเอาไอเท็มสุดโรแมนติคของแบรนด์นี้มาใส่กันเป็นว่าเล่น และความพิเศษที่ไม่เหมือนใครของแบรนด์นี้ก็คือการจำหน่ายของแต่งบ้านที่มีดีไซน์ล้อไปกับเสื้อผ้าและสโลแกนของแบรนด์อย่าง “Home and wardrobe are more connected than one may think”
JACQ
นอกจากความมินิมอลที่ไลน์ Just Frankie ได้ถ่ายทอดออกมาเป็นคอลเลคชั่นสุดไร้เพศแล้ว ‘JACQ’ ก็เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ Gender Friendly ที่ถ่ายทอดความน้อยแต่มากในสไตล์ Smart Casual ซึ่งเป็นสไตล์การแต่งตัวที่ได้รับความนิยมในหมู่คนรุ่นใหม่มากๆ โดยเฉพาะคนในแวดวงความคิดสร้างสรรค์
เพราะความใส่ง่ายและดูเป็นทางการอยู่ผนวกเข้ากับดีไซน์สุดไร้เพศของ JACQ ทำให้แบรนด์นี้เริ่มได้รับความนิยมมากในหมู่สายแฟรุ่นใหม่ อีกหนึ่งจุดเด่นนอกจากสไตล์ที่ชัดเจนของแบรนด์นี้คือการใช้โทนสีสุดเรียบง่าย เช่น สีฝุ่น สีเบจอ่อน สีน้ำตาล และสีดำ ในทุกๆ ไอเท็มของแบรนด์ทำให้กลายเป็นอีกจุดที่ทำให้แบรนด์กลายเป็นชื่นชอบสำหรับทุกคน
Telfar
เราพบกับแบรนด์เสื้อผ้าไร้เพศหลากสไตล์กันแล้วถึงคิวที่จะมาพบกับแบรนด์เครื่องประดับไร้เพศกันบ้างอย่าง ’Telfar’ แบรนด์เครื่องประดับและเสื้อผ้าไร้เพศจาก New York ซึ่งเรียกได้ว่าเก๋าเกมที่สุดในลิสต์นี้เลยเพราะก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2005 เลย! แบรนด์นี้เพิ่งจะมาบูมได้ไม่กี่ปีเพราะว่าความหลากหลายเลย เพราะตั้งแต่เริ่มแบรนด์ Telfar มุ่งผลิตสินค้าสำหรับทุกคน ซึ่งในตอนนั้นถือว่าเป็นแนวคิดที่แปลกและบ้าบิ่นมาก
สิ่งที่พาแบรนด์นี้เข้ามาอยู่ในลิสต์นี้และกลายเป็นแบรนด์ที่โด่งดังไปทั่วโลกคงหนีไม่พ้นกระเป๋าไอคอนิคของแบรนด์ที่กลายมาเป็นอีกหนึ่ง It Bag ของยุคนี้อย่างกระเป๋ารุ่น ’Shopping Bag’ ที่โดดเด่นเหนือไลน์เสื้อผ้าของเขา เพราะเจ้ากระเป๋ารุ่นนี้นั้นเป็นกระเป๋า Unisex ที่เกิดขึ้นมาเพื่อโอบรับกับทุกเพศ ทุกวัย แถมมียังหลายสีหลายไซส์ให้เลือกเพื่อโอบรับกับทุกไลฟ์สไตล์อีกด้วย
