ซีซันใหม่แห่งโลกแฟชั่นกำลังจะมาแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าสายแฟอย่างการ์ซงก็ควรจะเตรียมเปลี่ยนสไตล์การแต่งตัวให้พร้อม และนี่คือ 5 เทรนด์เด่นประจำซีซันนี้ที่เราสรุปมาให้ รับรองว่าแต่งตามแล้วไม่มีทางตกเทรนด์อย่างแน่นอน
Back to Basic
Colors
เริ่มกันจากโทนสีประจำซีซัน ซึ่งเห็นได้ชัดเจนเลยว่าปีนี้แบรนด์หรูทุกแบรนด์หันไปปรับโทนสีในคอลเล็กชั่นนี้ของตัวเองให้กลับสู่โทนสีเบสิกอย่างสีขาว สีครีม และสีน้ำตาล รวมไปถึงสีดำ ซึ่งเหล่าดีไซเนอร์ของแต่ละแบรนด์จะนำไอเท็มเหล่านี้มาใส่คู่กันให้กลายเป็นลุคที่มีโทนเดียวอย่างลุค Workwear จาก Bottega Veneta, Burberry ในขณะที่แบรนด์หรูของดีไซเนอร์ไฟแรงอย่าง Simon Porte Jacquemus ก็ได้เลือกสร้างสรรค์ออกมาในแบบสตรีทลุค แต่ถ้าชอบสไตล์ Casual Twist ก็ขอให้มองไปทางแบรนด์ Balmain ได้เลย
ถือเป็นเทรนด์ที่แต่งตามได้ง่ายมาก แค่หาไอเท็มที่มีโทนสีใกล้เคียงกันมาใส่เท่านั้น อาจจะเพิ่มลูกเล่นอีกสักนิด อย่างการเติมเลเยอร์เข้าไปด้วยการสวมเสื้อตัวนอกที่ทำจากผ้าเนื้อบางที่ระบายอากาศได้ดี อย่างผ้าลินิน มาใส่ทับก็ทำให้ลุคของการ์ซงสนุก และสบายขึ้นด้วย
___________________________________
The Red King
หันไปทางแบรนด์ไหนเราก็ต้องเห็นลุคจากไอเท็มสีแดงอย่างน้อยหนึ่งลุค จนไม่ต้องบอกก็รู้ว่าปีนี้โทนสีแดงถูกนำมาปัดฝุ่นใหม่และกลายมาเป็นเทรนด์อีกครั้ง ตั้งแต่ไอเทมในแฟชั่นวีคไปจนถึงคอลเล็กชั่นเล็กๆ ที่ออกมาในช่วงเวลาเดียวกัน แต่ก็ใช่ว่าเป็นเฉดไหนก็ได้นะ ไม่เหมือนกับโทนสีชมพูของหน้าซัมเมอร์ที่สามารถหยิบมาใส่ได้ทุกเฉด เพราะสีแดงของซีซั่นนี้จะต้องเป็นสีแดงสดแบบไม่มีอะไรมาเจือจางเท่านั้น จำไว้ให้ขึ้นใจเลย
ถ้ายังมองไม่ออกว่าควรจะต้องเป็นแดงสดถึงขั้นไหน เราก็ได้หยิบตัวอย่างเอามาให้ดูกันตั้งแต่แบรนด์ Versace, Raf Simons , Balmain ไปจนถึงสตรีทแบรนด์เบอร์หนึ่งของปีนี้อย่าง Off-White เองก็นำสีแดงสดไปครีเอทแฟชั่นไอเท็มด้วยเช่นกัน ซึ่งเรามีทริคเล็กน้อยมาแนะนำนั่นก็คือ “มั่นใจไว้ก่อน” จะยิ่งส่งเสริมให้การ์ซงดูดียิ่งขึ้นในลุคสีแดงสดจัด
___________________________________
Oversized
Tailoring
เป็นประจำที่งาน Tailoring จะกลับมาในช่วงซีซันนี้ แต่ว่าเทรนด์ปีนี้จะมีความพิเศษเพิ่มขึ้นมาตรงที่ว่าจะเจาะจงเฉพาะไอเท็มโอเว่อร์ไซส์เท่านั้นถึงจะถือว่าถูกต้อง ซึ่งถ้าหนุ่มคนไหนมั่นใจว่า ฟิตมาพร้อม เราขอแนะนำให้ใส่แจ๊กเก็ตสูทเดี่ยวๆ ไปเลยแบบไม่ต้องใส่เสื้อข้างในตามสไตล์ของหนุ่ม Jacquemus จะได้โชว์แผงอกแน่นๆ ที่อุตส่าห์ซุ่มเข้าฟิตเนสกันมา อยากได้ความโมเดิร์นอีกสักนิดขอให้มองหา Deconstruction Blazer แบบ Fendi มาใส่ แต่ถ้าเน้นดีเทลเว้าแหว่งแบบแปลกตาก็มี Off-White เป็นอ็อพชั่นให้เลือก
และจำไว้ว่าไอเท็มสไตล์นี้ไม่จำเป็นจะต้องครีเอทตามรันเวย์ลุคเพื่อโอกาสสำคัญ หรืองานทางการเท่านั้นนะ การ์ซงสามารถหยิบไปใส่กับเสื้อยึดผ้าวูลและกางเกงยีนส์เพื่อทำเป็น Casual Look ได้ด้วยเช่น อาจจะเพิ่มกลิ่นอายของแฟชั่นยุค 90s อีกสักนิดด้วยหมวกทรงเบสบอลกับสนีกเกอร์ดีไซน์เรียบก็ทำให้สนุกกับเทรนด์นี้ได้อย่างไม่จำเจแล้ว
___________________________________
All About
Leather
มาในส่วนของแมตทีเรียลกันบ้าง คราวนี้ไอเท็มเครื่องหนังก็ได้ขยับขึ้นมาเป็นเทรนด์หลักของปีซีซั่นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และก็ยังเป็นเทรนด์ที่ค่อนข้างแต่งตามได้ง่ายไม่มีเงื่อนไขเลย ขอแค่เป็นแฟชั่นไอเท็มที่ทำมาจากหนังเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นหนังแท้หรือหนังเทียมก็ตาม แน่นอนว่าพอเป็นเทรนด์หนัง Hermès ที่เขาขึ้นช่ือเรื่องนี้ก็ต้องขึ้นมาเป็นที่หนึ่งอยู่แล้ว เพราะไอเท็มส่วนใหญ่ในคอลเล็กชั่น FW 2020 ล้วนแล้วแต่ทำมาจากหนังทั้งนั้น แต่แบรนด์อื่นๆ อย่าง Valentino, Versace, Salvatore Ferragamo ก็ถือว่าดีไซน์ออกมาได้ดีเช่นกัน มีความแตกต่างกันอยู่บ้างตรงงานดีเทล ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับการ์ซงว่า จะชอบการออกแบบของแบรนด์ไหนเป็นพิเศษ
ไอเท็มเด่นประจำเทรนด์นี้ที่เราคิดว่าควรจะต้องมีก็คือ แจ๊กเก็ตหนัง โดยเฉพาะจากแบรนด์ Dries Van Noten ที่ได้คะแนนจากเราไปเต็มๆ เลย อีกหนึ่งไอเท็มที่น่าสนใจไม่แพ้กันก็คือกางเกงหนังทรง Slim Fit ที่ทำออกมากันแทบจะทุกแบรนด์เลยก็ว่าได้
___________________________________
Checkered
Pattern
ช่วงซัมเมอร์ที่ลายพริ้นต์แทบจะทุกก็ได้รับความนิยม พอมาเปลี่ยนซีซันใหม่ เทรนด์ของลวดลายก็ได้หันทิศทางมาเป็นลายตารางแทน ซึ่งก็ไม่มีข้อจำกัดอีกเช่นกันว่าจะต้องเป็นตารางถี่แค่ไหน หรือต้องใช้โทนสีอะไร ขอแค่เป็นตารางเท่านั้นพอ
แน่นอนว่าเมื่อพูดถึงลายตารางแล้วสาวกแฟชั่นหลายคนก็มักจะนึกถึงลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์จาก Burberry ซึ่งในปีนี้แบรนด์ก็ได้นำเอาลายตารางนี้มาปรับดีไซน์ และแตกออกเป็นลายตารางใหม่ให้หนุ่มๆ ได้หยิบไปใส่กัน
ถึงจะไม่ได้ปล่อยผลงานออกมาเยอะเท่า Burberry แต่ Dries Van Noten กับ Valentino ก็ขอนำเทรนด์นี้มาสร้างสรรค์บนแฟชั่นไอเท็มของตัวเองด้วย รวมไปถึง Gucci เองก็นำไปผสมผสานกับงานเทเลอร์สไตล์ยุค 70s เช่นกัน
┃Photos : Courtesy of brands