Search
Close this search box.
Search
Close this search box.

‘Wellness Tourism’ การท่องเที่ยวแนวใหม่ที่ให้ความสำคัญด้านสุขภาพและการรักษาพยาบาล

ทำความรู้จักการเดินทางท่องเที่ยวไปต่างประเทศเพื่อรับการรักษาพยาบาล
Beauty / Wellness & Aesthetic

หากหลายคนจำกันได้ในช่วงสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 เมื่อปีที่แล้ว มีคนไทยจำนวนมากเดินทางไปยังนานาประเทศเพื่อไปรับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ด้วยตัวเอง เนื่องจากจำนวนได้รับผู้รับวัคซีนป้องกันโควิดในประเทศไทยนั้นมีจำนวน 2-3% ต่อจำนวนประชากรทั้งหมดของประเทศ ทำให้เทรนด์การท่องเที่ยวแบบ ‘Wellness Care’ หรือการเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศเพื่อรับการรักษาพยาบาลนั้นกลายมาเป็นค่านิยมแบบใหม่สำหรับคนไทย

แต่ไม่ใช่แค่คนไทยเท่านั้นที่เดินทางไปต่างประเทศเพื่อรับการรักษาพยาบาล และบริการทางการแพทย์อื่นๆ เพราะว่ามีประชากรจากอีกหลายประเทศที่เดินทางออกนอกประเทศเพื่อไปรับการรักษาพยาบาลที่ดีกว่า หรือมีค่าใช้จ่ายถูกกว่าแต่ยังมีคุณภาพในการรักษาไม่ได้ด้อยไปกว่าการรักษาพยาบาลในประเทศของตัวเอง ยกตัวอย่างเช่นชาวอเมริกันหลายล้านคนได้เดินทางออกนอกประเทศเพื่อไปใช้บริการทางการแพทย์ในต่างประเทศ 

เป็นเพราะค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลที่เพิ่มขึ้นในประเทศสหรัฐฯ และการเพิ่มขึ้นของจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพทำให้ชาวอเมริกันตัดสินซื้อตั๋วแล้วบินออกนอกประเทศเพื่อท่องเที่ยวแบบ Wellness Tourism และก็มีประชากรจำนวนมากจากประเทศที่ขาดโครงสร้างพื้นฐานด้านการรักษาพยาบาลหรือมีความก้าวหน้าทางการแพทย์ที่น้อยกว่าในด้านการรักษา เดินทางไปยังประเทศที่มีความพร้อมและมีคุณภาพของการรักษาพยาบาลที่ดีกว่า

จากปัจจัยที่เรากล่าวทำให้การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพทั่วโลกนั้นแข็งแกร่งมากขึ้นและมีมูลค่ามากกว่า 37 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2019 และมีการคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณในอนาคต รวมถึงประเทศไทยของเราก็เป็นอีกจุดหมายหนึ่งของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพนี้ เนื่องจากจากประเทศไทยมีระบบสาธารณสุขที่แข็งแกร่ง สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และมีสถานที่ท่องเที่ยวอันสวยงามมากมาย

ส่งผลทำให้เทรนด์ Wellness Tourism นั้นกลายเป็น #NEWSTANDARD หรือบรรทัดฐานใหม่ของการท่องเที่ยวในยุคนี้ทั้งไทยและเทศ และเราเชื่อว่าจะกลายเป็นเทรนด์การท่องเที่ยวแบบใหม่ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในอนาคต วันนี้ LIPS เลยรวมจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพนี้มาให้ทุกคนได้รู้กันว่ามีประเทศหรือเมืองไหนบ้างที่เราสามารถเดินทางไปรักษาพยาบาลได้ 

Canada

‘ประเทศแคนาดา’ เป็นประเทศที่ครองตำแหน่งอันดับหนึ่งจากการจัดอันดับ Wellness Tourism ในปี 2020 ดังนั้นเราจึงไม่แปลกใจเลยที่ประเทศที่ขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของโลกนี้จะภูมิในนำเสนอและชูธุรกิจการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเพื่อดึงดูดชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวและใช้บริการทางการแพทย์ในแคนาดา ซึ่งชาวอเมริกันนั้นถือว่าเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของแคนาดาเพราะในแต่ละปีมีชาวอเมริกันกว่า 14 ล้านคนเดินทางมารักษาพยาบาลในประเทศนี้ 

เนื่องจากความใกล้ชิดกันของทั้งสองประเทศทำให้ผู้ป่วยและผู้ที่ต้องการใช้บริการทางการแพทย์จากประเทศสหรัฐฯ นั้นหลั่งไหลเข้ามาในแคนาดาเพื่อต้องการหลีกเลี่ยงการรอเวลานานและค่ารักษาพยาบาลที่สูงในระบบสาธารณสุขของสหรัฐฯ นอกจากนั้นแคนาดายังมีชื่อเสียงในด้านการรักษาทางการแพทย์ที่มีคุณภาพและมีหมอเฉพาะทางสูง แถมยังมีสถานพยาบาลแนวหน้าระดับโลกมากมาย จึงทำให้ประเทศนี้เป็นประเทศแรกๆ ที่คนอยากมาเมื่อนึกถึง Wellness Tourism 

Singapore

และผู้คว้าอันดับสองในการจัดอันดับ Wellness Tourism ในปี 2020 ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเพราะเป็นหนึ่งในประเทศกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่าง ‘ประเทศสิงคโปร์’ นั้นเอง ในปี 2020 นักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 500,000 คนเดินทางมาสิงคโปร์เพื่อรับการรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพและราคาไม่แพง แถมยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการด้านสุขภาพต่างๆ อย่างครบครันในเกาะเล็กๆ แห่งนี้ 

นอกจากนั้นสิงคโปร์เพิ่งจัดตั้งศูนย์บริการผู้ป่วยระหว่างประเทศหรือ IPSC ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวแทนการเดินทางทางการแพทย์เพื่อไกล่เกลี่ยระหว่างผู้ป่วยต่างประเทศและผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพในสิงคโปร์ แถมค่ารักษาพยาบาลในประเทศนี้ยังมีราคาที่ถูกกว่าประเทศอเมริกาถึง 25-40% ถ้าพวกเขาใช้บริการเดียวกันในอเมริกาแต่มีคุณภาพใกล้เคียงกันมากๆ 

Dubai

นอกจากสถาปัตยกรรมล้ำสมัย อาคารสูงระฟ้า และแหล่งช้อปปิ้งสุดหรูของเมืองในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์นี้แล้ว ดูไบยังต้อนรับนักท่องเที่ยวจำนวนกว่าหลายล้านคนเพื่อเข้ามารักษาพยาบาลหรือใช้บริการทางการแพทย์ในเมืองสุดหรูหรานี้ แถมในการจัดอันดับ Wellness Tourism นั้นก็จัดอันดับให้ดูไบเป็นจุดมุ่งหมายปลายทางทางการแพทย์ชั้นนำในภูมิภาคอาหรับเนื่องจากมีโรงพยาบาลระดับโลกและแพทย์นานาชาติในสาขาเฉพาะทางต่างๆ 

ทำให้นักท่องเที่ยวทางการแพทย์ส่วนใหญ่เดินทางมาจากประเทศแถบเอเชีย และแถบประเทศเพื่อนบ้านอาหรับและอ่าวอาหรับ รวมถึงยังมีนักท่องเที่ยวจากประเทศในยุโรปและแอฟริกาบางส่วนเดินทางเข้ามาดูไบเพื่อรับบริการทางการแพทย์ต่างๆ และดูไบยังได้เปิดตัว Dubai Health Experience หรือ DHX ในปี 2018 เพื่อส่งเสริมเทรนด์การท่องเที่ยวใหม่และช่วยพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกด้านสุขภาพให้ดียิ่งขึ้นเพื่อส่งเสริมประสบการณ์สำหรับนักท่องเที่ยวทางการแพทย์ที่จะเข้ามา

Japan

‘ประเทศญี่ปุ่น’ ได้รับการการันตีว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่มีระบบการรักษาพยาบาลที่มีการพัฒนามากที่สุดในโลกในทุกสาขาเพราะความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีด้านการแพทย์ ทำให้ญี่ปุ่นนั้นมีระบบสาธารณสุขที่ยอดเยี่ยมคอยให้บริการกับประชาชนและนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาใช้บริการ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากประเทศจีน แถมค่ารักษาพยาบาลที่ต่ำทำให้นักท่องเที่ยวอีกหลายๆ ประเทศต้องการเข้ามารับบริการทางการแพทย์ในประเทศนี้ 

จากข้อมูลจากกระทรวงต่างประเทศของประเทศญี่ปุ่นแสดงให้เห็นว่าจำนวนวีซ่าทางการแพทย์ที่ออกให้กับผู้ป่วยต่างชาตินั้นเพิ่มขึ้นจาก 70 คนในปี 2011 เติบโตขึ้นเป็น 1,650 คนในปี 2018 และเราเชื่อว่าการที่ญี่ปุ่นกลับมาเปิดประเทศในเดือนนี้ก็จะมียอดเพิ่มสูงขึ้นไปอีก โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นั้นให้ความสนใจในศูนย์รักษามะเร็งชั้นนำของประเทศและสนใจในเรื่องของการศัลยกรรมตกแต่งซึ่งทั้งสองเป็นที่ขึ้นชื่อมาก

India

นอกจากวัฒนธรรมและสถานที่ท่องเที่ยวอันหลากหลายของ ‘ประเทศอินเดีย’ เป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับความนิยมในเชิง Wellness Tourism เป็นอย่างมาก โดยมีรายงานว่าการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ของประเทศอินเดียนั้นเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับความนิยมของนักท่องเที่ยวที่จะมาเข้ารับบริการทางการแพทย์มากที่สุดแห่งหนึ่งในโลกใบนี้ สำหรับ Wellness Tourism นั้นอินเดียมีนโยบายให้นักท่องเที่ยวขอวีซ่าทางการแพทย์โดยอนุญาตให้ผู้ป่วยอยู่ในประเทศได้ไม่เกิน 60 วันซึ่งถือว่าเยอะมากๆ สำหรับผู้ป่วยที่มีการผ่าตัด แถมยังมีวีซ่าสำหรับผู้ติดตามให้ด้วย

รัฐบาลอินเดียนั้นเปิดเว็บไซต์ให้สำหรับนักท่องเที่ยวเชิงการแพทย์เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถติดต่อเครือสถานพยาบาลต่างๆ รวมถึงบริการทางการแพทย์ที่มีอยู่ในประเทศ ซึ่งช่วยให้ผู้ที่กำลังจะเข้ามาใช้บริการ Wellness Tourism นั้นสามารถกำหนดเวลานัดและจองคิวกับผู้ให้บริการด้านสุขภาพต่างๆ ก่อนเดินทางมาถึงประเทศอินเดียได้ ปังมาก!

Related Articles

เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้ เราได้อธิบายความหมายและวิธีการใช้คุกกี้ของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถเข้าใจแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือการเปิดเผย รวมถึงทางเลือกในการใช้คุกกี้ของเรา อ่านเพิ่มเติม